วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ตำนานเอื้องผึ้งจันผา โศกนาฏกรรมรักอีกหนึ่งบท แห่งเมืองล้านนา



เอื้องผึ้ง จันผา โศกนาฏกรรมรักอีกหนึ่งบท แห่งเมืองล้านนา


มีเพลงอีกหนึ่งเพลงของ อ.จรัล มโนเพ็ชร 
การทำดนตรี และการเรียบเรียงเสียงประสาน ที่นำเอาสะล้อ ซอ ซึง 
มาผสมผสานกับดนตรียุคใหม่ เป็นอะไรที่ "เพอร์เฟ็ค" และลงตัวมากเพลงหนึ่ง
เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง "เมื่อดอกรักบาน" 
ซึ่งออกอากาศตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. 2550 ทางช่อง 3

งามเลอล้ำเป็นที่หนึ่ง
อ่อนหวานปานน้ำผึ้ง เจ้าเอยเอื้องผึ้งสาวดอย
หนุ่มจันทร์ผาเจ้าเฝ้าคอย
จะเคียงผูกพัน สัญญารักมั่นและซื่อตรง
 
จวบวันสองคนวิวาห์
จันทร์ผาปีนขึ้นดอย หวังใจจะสอยดอกไม้ดม
แต่มือไม้ไม่มั่นคง ตกลงมาสิ้นใจ
เอื้องผึ้งร่ำไห้วิ่งกระโจน พุ่งชนชะเง่อหิน
สิ้นใจตายตามจันทร์ผา

เอื้องเอย คนขานนามเอื้องผึ้ง กลีบเหลืองปานน้ำผึ้ง
หอมตรึงต้องใจภุมรา
จันทร์ผาเอ๋ยงามสง่า ต้นใบสะดุดตา
ขึ้นเคียงคู่กัน นิรันดร์เอย.

กลีบดอกบางเบาราวปุยนุ่น
สีละมุนชวนมองต้องแลหา
ดอกผักบุ้งเอ๋ยไฉนเลยไม่โรยรา
ยังสดสวยไม่ส่างซาน่ายลจริง

***
เอื้องผึ้ง จันผา แท้จริงแล้วคือ กล้วยไม้ตระกูล "เอื้อง" 
ซึ่งมีความเป็นมาจากตำนานซึ่งเล่าสืบต่อกันมา ในหลากหลายพื้นที่ 
ซึ่งไม่เหมือนกัน แต่ก็ใกล้เคียงกัน


เอื้อง...เป็นคำเรียก กล้วยไม้ 
ซึ่งหลายชนิดจะมีสีเหลือง เช่น เอิ้องคำ เอื้องผึ้ง เอิ้องคำปอน 
สีขาวปากเหลือง เช่น เอิ้องมอนไข่เอื้องมัจฉานุ สีแสด เช่น เอื้องสายสีแสด

เอื้องผึ้งเป็นกล้วยไม้ในสกุลหวายเอื้องผึ้ง
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dendrobium lindleyi Steud. 
ลักษณะต้นเป็นลำรูปรี แบนเล็กน้อย มีสันและร่องตามยาว ผิวแห้ง สีเขียวเข้ม 
มักขึ้นเป็นกระจุกแน่น ส่วนใบนั้นแต่ละต้นจะมี 1 ใบที่ยอด 
ใบเป็นรูปรี แผ่นใบหนาและแข็ง ปลายใบแหลมมน หรือหยักเว้าตื้นๆ 
ต้นเตี้ยแตกเป็นกอแน่น ลำลูกกล้วยรูปกระสวย อ้วนนั้นเป็นร่องโดยรอบ 
ใบ เป็นใบเดี่ยวรูแถบยาว 5-6 เซนติเมตร
แผ่นใบหนาและแข็ง ช่อดอกสีเหลืองทอง เป็นช่อโค้งยาวประมาณ 20 เซนติเมตร 
ออกดอกดกรอบก้านช่อ กลีบดอกสีเหลืองทอง ปากกลมกว้างสีเหลืองอมส้ม 
เมื่อดอกบานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 เซนติเมตร ดอกมีกลิ่นหอม 
โดยดอกจะบานพร้อมๆกันหลายกอ  ออกดอกในช่วงฤดูร้อน ราวเดือนมีนาคม ถึง พฤษภาคม 
ขยายพันธุ์โดยแยกลำลูกกล้วยไปปลูก ชอบอยู่ตามคาคบไม้ในที่โล่ง
และมีความชื้นเพียงพอ จัดเป็นกล้วยไม้ที่มีกลิ่นหอม 

เรื่องราวตำนานของ สาวเอื้องผึ้ง และ หนุ่มจันผา 
พบเจอเพียง 2 ตำนานที่ ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก 
โดยตำนานหนึ่ง ได้กล่าวถึง เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา 
จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก
จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากหน้าผา 
เจ้าจันทน์ผาตามมาพบว่าเจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดดหน้าผาไป
แล้วจึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตามคนรักตกไปอยู่ใกล้กัน
และเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดดหน้าผาไปจึงรู้สึกเสียใจ
และตัดสินใจกระโดดหน้าผาตามลงไปด้วยแต่กระเด็นห่างออกไป 
ด้วยความรักแท้ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันท์ผา 
ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้งจึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะอยู่ใต้ต้นจันทน์ผา   
และเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสน ณ จุดที่ตกไปนั้นเอง 
( “จ๋วง” เป็นภาษาเหนือแปลว่าต้นสน “เอื้องผึ้ง” แปลว่ากล้วยไม้) 
หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ผาชู้” นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ส่วนอีกตำนานหนึ่งซึ่งเป็นต้นแบบแห่งการเขียนเพลง 
เอื้องผึ้ง จันผา ของอ.จรัล ได้มีผู้เล่าต่อกันมาว่า
แต่เดิมเอื้องผึ้งและจันทร์ผานั้น เป็นคู่รักกัน 
ทั้งสองให้สัญญาว่าจะรักกันตลอดไป ไม่พรากจากกัน 
ถ้าหากแม้นคนหนึ่งตายไป อีกคนหนึ่งก็ไม่ขออยู่ต่อ 
และแล้วโศกนาฏกรรมก็มาถึง 
หนุ่มจันทร์ผา พาสาวเอื้องผึ้งไปเที่ยวที่ดอย เขาเห็นดอกไม้ชนิดหนึ่ง 
มีกลิ่นหอม งอกอยู่ที่ต้นไม้ริมผา จึงคิดจะเก็บมาให้สาวเอื้องผึ้ง 
คนรักของตน จึงปีนไปเก็บดอกไม้ชนิดนั้นมา แม้เอื้องผึ้งจะห้าม
แต่จันทร์ผาก็ยังพยายามจะไปเด็ดดอกไม้มาให้ได้
และแล้วในที่สุดสิ่งที่เอื้องผึ้งกลัวก็เป็นความจริง จันทร์ผาพลาด ตกลงไปในเหว 
เลือดไหลนอง คอหัก ตายสนิท เอื้องผึ้งร่ำไห้ หัวใจแตกสลาย 
จึงวิ่งเอาหัวชนกับแง่หินที่หน้าผา ตายตามจันทร์ผา 
เหมือนที่เคยให้สัญญาว่าจะรักกันตลอดไป ดอกไม้ที่จันทร์ผาพยายามจะเก็บนั้น 
ต่อมาคนให้ชื่อว่า ดอกเอื้องผึ้ง ส่วนที่ๆจันทร์ผาตกลงไปตาย 
ก็มีต้นไม้ชนิดหนึ่งงอกขึ้นมา ผู้คนกล่าวขานเรียกว่า 
ต้นจันทร์ผาเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ความรักที่ยั่งยืนของคนทั้งคู่ตลอดไป

.




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เนื้อเพลง