แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สามก๊ก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สามก๊ก แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2566

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 2

 

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 2

เนื้อหา

• เล่าปี่ได้เป็นผู้รักษาเมืองอันห้อก้วน
• เตียวหุยทำให้เล่าปี่ต้องหนีจากเมืองอันห้อก้วน
• พวกขันทีในเมืองหลวงกำเริบ
• เล่าปี่ได้เป็นเจ้าเมืองเพงงวนก๋วน
• พระเจ้าเลนเต้สิ้นพระชนม์
• เกิดเกี่ยงแย่งด้วยเรื่องรัชทายาท
• โฮจิ๋นกำจัดศัตรูหองจูเปียนราชบุตรองค์ใหญ่
• โฮจิ๋นคิดกำจัดพวกขันที

วัน หนึ่งเล่าปี่จึงชวนกวนอูเตียวหุยไปเที่ยวชมบ้านเมืองจะให้หายรำคาญใจ พอพบเตียวกิ๋นซึ่งเปนขุนนางอยู่ในพระเจ้าเลนเต้ขี่เกวียนมา เล่าปี่มีความยินดียกมือขึ้นคำนับแล้วบอกว่า ข้าพเจ้านี้มีความชอบได้ช่วยจูฮีทำการปราบโจรหาผู้ใดจะทูลเสนอความชอบให้ไม่ เตียวกิ๋นได้ฟังดังนั้นก็ตกใจจึงพาเล่าปี่เข้าไปเฝ้า แล้วทูลพระเจ้าเลนเต้ว่า เกิดโจรโพกผ้าเหลืองขึ้นทั้งนี้เพราะเหตุด้วยพระองค์เชื่อฟังขันทีสิบคน ขันทีสิบคนนั้นตัดสินเนื้อความอาณาประชาราษฎร กลับจริงเปนเท็จ เท็จเปนจริง ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยซึ่งเปนยุติธรรมนั้นให้ถอดเสีย เอาสินบนผู้หาสัตย์ไม่เอามาตั้งเปนขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย บ้านเมืองก็เกิดจลาจลอาณาประชาราษฎรได้ความเดือดร้อนมาคุมเท่าบัดนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าจะให้เอาขันทีสิบคนไปตัดสีสะตระเวนประกาศแก่อาณาประชาราษฎร ทั้งปวงให้ทั่วทุกหัวเมืองซึ่งขึ้นแก่เมืองหลวง ใครมีสติปัญญาเปนยุติธรรมมีความชอบก็ให้ตั้งเปนขุนนางโดยยศถาศักดิ์ตามสมควร บ้านเมืองก็จะอยู่เย็นเปนสุขสืบไป ขันทีสิบคนเฝ้าอยู่ได้ยินจึงกราบทูลพระเจ้าเลนเต้ว่า เตียวกิ๋นเปนแต่ขุนนางผู้น้อย บังอาจมิได้กลัวพระราชอาญา เข้ามาทูลสั่งสอนพระองค์นั้นไม่ควร พระเจ้าเลนเต้จึงสั่งบู๋ซูให้ขับเตียวกิ๋นออกไปเสียจากที่เฝ้า ขันทีสิบคนจึงคิดกันว่า เตียวกิ๋นมากราบทูลกล่าวโทษเราทั้งนี้เปนข้อใหญ่ ชรอยมันไปทำการศึกรบโจรมีความชอบหาผู้ใดจะทูลความชอบให้ไม่ มันจึงโกรธอาจใจเข้ามาทูลเองดังนี้ ครั้นเราจะให้ทำโทษตอบบัดนี้ ความนินทาก็จะมีแก่เรา อย่าเลยเราจะนิ่งไว้ก่อน ต่อนานไปจึงคิดอ่านฆ่าเสียก็จะไม่พ้นมือเรา พระเจ้าเลนเต้จึงทรงพระดำริห์ว่า เล่าปี่ก็มีความชอบอยู่จึงสั่งให้เสนาบดีปูนบำเหน็จเล่าปี่ เสนาบดีปรึกษาให้เล่าปี่เปนผู้รักษาเมืองอันห้อก้วน เล่าปี่จึงให้ทหารซึ่งมาด้วยนั้นกลับไปที่อยู่ จัดเอาแต่คนสนิธประมาณยี่สิบคนไว้ แล้วพากวนอูเตียวหุยกับคนยี่สิบคนนั้น ไปอยู่ ณ เมืองอันห้อก้วนได้ประมาณเดือนเศษ เล่าปี่เกลี่ยไกล่อาณาประชาราษฎรซึ่งวิวาทมีคดีแก่กันนั้น มากให้น้อยลง น้อยนั้นให้หายเสีย ราษฎรทั้งปวงได้ความสุข ยกมือไหว้สรรเสริญเล่าปี่เปนอันมาก แล้วกวนอูเตียวหุยนั้นมีใจภักดีต่อเล่าปี่เปนอันมาก เวลาเล่าปี่ออกว่าราชการ กวนอูเตียวหุยมิได้ขาดหน้า อุตส่าห์พิทักษ์รักษากัน ครั้นอยู่ประมาณเดือนหนึ่ง มีหนังสือรับสั่งให้ต๊กอิ้วถือมาถึงเล่าปี่ว่า ถ้าเปนไพร่ได้เลื่อนที่เปนขุนนางหัวเมืองขึ้นแล้ว จะเรียกเอาส่วย เล่าปี่รู้ข่าวก็ออกไปรับถึงนอกเมือง เล่าปี่คำนับหนังสือรับสั่งตามธรรมเนียมแล้วถามข้อราชการแก่ต๊กอิ้ว ๆ มิได้เกรงเล่าปี่ บอกข้อราชการแล้วเอาแซ่ม้าชี้หน้าเล่าปี่ กวนอูเตียวหุยเห็นดังนั้นก็โกรธ แต่มิได้ว่าประการใด แล้วเล่าปี่เชิญต๊กอิ้วเข้าไปในเมือง จัดแจงที่ให้อยู่ตามธรรมเนียม แลต๊กอิ้วนั่งอยู่บนที่สูง เล่าปี่นั้นยืนอยู่ตามตำแหน่ง ต๊กอิ้วจึงถามเล่าปี่ว่า ตัวมีความชอบสิ่งใดจึงได้เปนผู้รักษาเมือง เล่าปี่ตอบว่าข้าเปนเชื้อพระเจ้าฮั่นโกโจอยู่ แต่ว่าบุญน้อยจึงได้เปนผู้น้อยอยู่ ณ เมืองตุ้นก้วน ครั้งโจรโพกผ้าเหลืองเปนขบถนั้น ข้าก็ได้อาสาแผ่นดินออกรบโจรถึงสามสิบสี่สามสิบห้าครั้ง มีความชอบหน่อยหนึ่งจึงโปรดให้มารักษาเมืองนี้ ต๊กอิ้วได้ยินดังนั้นตวาดเพิดให้เล่าปี่แล้วว่า เองนี้ทนงศักดิ์อ้างอวดว่าเปนเชื้อพระวงศ์ ข้อว่าได้ไปรบโจรถึงสามสิบสี่สามสิบห้าครั้งนั้น เราพิเคราะห์ดูรูปร่างเช่นนี้ไม่เห็นสมทำการศึก อย่าพูดโกหกเราหาเชื่อตัวท่านไม่ ซึ่งว่าเปนผู้รักษาเมืองก็ดีแล้ว บัดนี้มีรับสั่งให้เราลงมาเรียกเอาส่วยแก่ขุนหมื่นที่เปนขึ้นใหม่ เล่าปี่รับคำแล้วมิได้ตอบคำประการใดก็ลาไปที่อยู่ เล่าปี่จึงหาปลัดมาปรึกษาว่า ต๊กอิ้วถือรับสั่งมาว่าดังนี้เราจะทำประการใด ปลัดจึงว่าต๊กอิ้วทำสง่าทั้งนี้ ปราถนาจะเอาสินบนเปนประโยชน์แก่ตัว เล่าปี่จึงว่าตั้งแต่เรามาอยู่เมืองนี้จะได้ค่าธรรมเนียมแลเบียดเบียฬด้าย เส้นหนึ่งเข็มเล่มหนึ่งแก่อาณาประชาราษฎรให้ได้ความเดือดร้อนหามิได้ จะเอาสิ่งใดมาให้สินบนแก่ต๊กอิ้วนั้นก็ขัดสนอยู่แล้ว ครั้นรุ่งขึ้นต๊กอิ้วจึงเอาตัวปลัดลอบมาขู่เข็นโบยตี จะให้ปลัดนั้นว่าเล่าปี่ฉ้อราษฎร ปลัดจะได้ว่าตามคำต๊กอิ้วหามิได้ เล่าปี่รู้ก็มาจะเข้าไปหาต๊กอิ้ว นายประตูห้ามมิให้เข้าไป เล่าปี่ก็กลับมาที่อยู่

ฝ่ายเตียวหุยเสพย์สุราแล้วขี่ม้าจะไปเที่ยวเล่น ครั้นมาถึงตรงประตูที่อยู่ต๊กอิ้ว เห็นคนแก่ยืนร้องไห้อยู่ประมาณห้าสิบหกสิบคน เตียวหุยจึงถามว่ามาร้องไห้อยู่นี่ด้วยเหตุอันใด คนทั้งปวงจึงบอกว่าต๊กอิ้วให้เอาปลัดมาโบยตี ให้ซัดว่าเล่าปี่ฉ้อราษฎร ครั้นข้าพเจ้าชวนกันจะเข้าไปขอโทษ นายประตูมิให้เข้าไปแล้วซ้ำตีข้าพเจ้าอีกเล่า ข้าพเจ้าได้ความเจ็บอายจึงร้องไห้อยู่ฉนี้ เตียวหุยได้ยินดังนั้นก็โกรธโจนลงจากหลังม้าวิ่งเข้าไปถึงประตู นายประตูห้ามก็มิฟัง ครั้นเตียวหุยเข้าไปในประตูเห็นปลัดต้องมัดมือมัดเท้าอยู่ ต๊กอิ้วนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ เตียวหุยตวาดแล้วร้องว่า อ้ายขี้ฉ้อใหญ่มึงรู้จักกูหรือไม่ ต๊กอิ้วตกใจเงยขึ้นเห็นเตียวหุยยังมิทันจะตอบประการใด เตียวหุยเข้าจับจิกผมกระชากต๊กอิ้วตกลงจากเก้าอี้ แล้วเอาผมกระหมวดมือลากออกมาถึงศาลากลาง จึงเอาผมต๊กอิ้วผูกกับหลักม้า แล้วหักเอากิ่งสนธิ์มาตีต๊กอิ้วเจ็บปวดเปนสาหัส ฝ่ายเล่าปี่กลับเข้ามานั่งทุกข์อยู่ พอได้ยินเสียงต๊กอิ้วร้องอื้ออึงขึ้น จึงถามทนายว่าเสียงอันใดอึงอยู่นั้น ทนายบอกว่าเสียงเตียวจงกุ๋นน้องท่านเอาผู้ใดมาตีนั้นไม่แจ้ง เล่าปี่กริ่งใจเดิรออกไปเห็นเตียวหุยเอาต๊กอิ้วมาผูกตีอยู่ เล่าปี่ตกใจจึงวิ่งเข้าไปถามเตียวหุยว่า เอาท่านข้าหลวงมาตีด้วยเหตุอันใด เตียวหุยจึงบอกว่าอ้ายนี้มันขี้ฉ้อใหญ่ แล้วเปนคนหยาบช้าไว้มันมิได้ ชอบตีเสียให้ตาย ต๊กอิ้วเห็นเล่าปี่มาจึงร้องว่าเล่าปี่เอ๋ยช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วย เล่าปี่ได้ยินดังนั้นมีใจเมตตาสัตว์หาความพยาบาทมิได้ จึงห้ามเตียวหุย ๆ ก็หยุดมือลง พอกวนอูเดิรออกมาจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า เราทำความชอบอาสาแผ่นดินมาเปนหลายครั้งก็ได้เปนแต่เพียงนี้ แต่ต๊กอิ้วถือรับสั่งมาแล้วว่าหยาบช้าดูหมิ่นนอกรับสั่งให้ได้อัปยศดังนี้ อันเราพี่น้องสามคนอุปมาประดุจหงส์ ซึ่งจะอาศรัยในป่านี้ไม่สมควร เราจะฆ่าต๊กอิ้วเสียแล้วชวนกันไปอยู่บ้านเมืองที่อาศรัยแห่งเราดีกว่า ภายหลังจึงจะค่อยคิดการใหญ่สืบไป เล่าปี่ได้ยินกวนอูว่าดังนั้นเห็นชอบด้วย จึงกลับเข้าไปเอาตราสำหรับที่มาผูกคอต๊กอิ้วไว้แล้วจึงว่า ตัวเองเปนข้าหลวงมาทำขี้ฉ้อดังนี้ควรแต่เราตัดสีสะเสีย นี่เราให้ชีวิตตัวไว้ บัดนี้เราไม่พอใจอยู่ทำราชการแล้ว เองจงเอาตรานี้กลับไปเมืองด้วยเถิด เราก็จะไปบ้านเมืองที่อาศรัยแห่งเรา แล้วเล่าปี่ก็พากวนอูเตียวหุยกับพรรคพวกยี่สิบคนนั้นออกจากเมืองอันห้อก้วน

ฝ่ายต๊กอิ้วจึงเอาตราสำหรับที่เล่าปี่ พาพรรคพวกมาถึงเมืองเต๊งจิ๋วแล้วเอาเนื้อความทั้งปวงบอกแก่เจ้าเมืองเต๊ง จิ๋ว ๆ จึงให้มีหนังสือไปทุกหัวเมือง ให้จับเล่าปี่กวนอูเตียวหุยสามคนผู้กระทำผิดส่งเข้ามา ฝ่ายเล่าปี่ครั้นมาถึงกลางทาง ได้ยินกิตติศัพท์ซึ่งเจ้าเมืองเต๊งจิ๋วให้มีหนังสือมาให้จับตัวส่งนั้น ครั้นจะไปให้ถึงเมืองตุ้นก้วนเห็นจะไม่ทันที เล่าปี่รู้ว่าเล่าเก๊งซึ่งเปนเจ้าเมืองไต้จิ๋วนั้นเปนแซ่เดียวกัน จึงคิดว่า อย่าเลยจะเข้าไปอาศรัยเล่าเก๊งเห็นจะพ้นภัย คิดแล้วก็พากวนอูเตียวหุยกับพรรคพวกเข้าไปหาเล่าเก๊ง ณ เมืองไต้จิ๋ว แล้วบอกเนื้อความแต่หลังให้ฟ้ง เล่าเก๊งนั้นแจ้งในหนังสือเจ้าเมืองเต๊งจิ๋วซึ่งให้มา ครั้นแจ้งคำซึ่งเล่าปี่มาบอกดังนั้นก็คิดสงสารว่าเปนแซ่เดียวกัน แล้วเปนเชื้อพระวงศ์อยู่ เล่าเก๊งจึงเอาเล่าปี่กวนอูเตียวหุยเปลื่ยนชื่อเสียซ่อนไว้ในบ้าน

ฝ่ายขันทีสิบคนนั้นพระเจ้าเลนเต้โปรดปรานนัก จะว่ากล่าวสิ่งใดก็สิทธิ์ขาด แลเตียวต๋งเตียวเหยียงขันทีสองนายนั้น จึงใช้ทนายสองคนไปว่ากล่าวแก่ขุนนางแลทหารทั้งปวงซึ่งได้ไปรบโจรโพกผ้า เหลืองนั้นว่า ถ้าผู้ใดมีทรัพย์เข้าของเงินทองเอาไปให้แก่ขันทีนายเรา แล้วนายเราจะช่วยทูลเสนอความชอบให้ ถ้าใครมิได้ให้นายเราจะทูลให้ถอดเสียจากที่ขุนนาง ฝ่ายห้องหูโก๋แลจูฮีซึ่งเปนทหารผู้ใหญ่นั้น มิได้ทำตามคำทนายทั้งสองว่านั้น เตียวต๋งเตียวเหยียงจงกราบทูลยุยงพระเจ้าเลนเต้ให้ถอดห้องหูโก๋จูฮีออกเสีย จากที่ขุนนาง พระเจ้าเลนเต้ก็ทำตาม แล้วตั้งให้เตียวต๋งเตียวเหยียงเปนที่แทนห้องหูโก๋ แลขันทีแปดคนก็เลื่อนขึ้นไปเปนที่ขุนนางผู้ใหญ่สิ้น ราชการนั้นก็ฟั่นเฟือนไป ราษฎรทั้งปวงได้ความเดือดร้อน

ฝ่ายคูเสงเปนพวกโจรโพกผ้าเหลือง หนีมาอยู่ ณ เมืองเตียงสาเกลี้ยกล่อมชักชวนพวกเพื่อนปล้นตีอาณาประชาราษฎรทั้ง ปวงเปนหลายตำบล หาผู้ใดจะต้านต่อจับกุมมิได้ แลเตียวกีเตียวซุ่นอยู่ ณ เมืองยีหยงเกลี้ยกล่อมผู้คนได้เปนอันมากคิดขบถ เตียวกีนั้นตั้งตัวเปนเจ้า เตียวซุ่นเปนเสนาบดีผู้ใหญ่ทำการหยาบช้าต่าง ๆ แลหัวเมืองทั้งปวงจึงบอกหนังสือขึ้นไปถึงเมืองหลวงเปนหลายครั้ง ขันทีสิบคนปิดเสียมิได้เอาเนื้อความกราบทูล

ครั้นอยู่มาวันหนึ่งพระเจ้าเลนเต้เสด็จไปประพาสสวนดอกไม้จึงเสวยไชย บานอยู่ แลขันทีสิบคนก็กินสุราอยู่หน้าที่นั่ง แลเล่าโต๋พระพี่เลี้ยงพระเจ้าเลนเต้นั้นรู้ว่าพวกโจรเปนขบถขึ้นอีก พระเจ้าเลนเต้มิได้ทราบ เล่าโต๋ตกใจจึงตามเสด็จเข้าไปในสวน พระเจ้าเลนเต้เห็นจึงตรัสถามว่า เล่าโต๋ทำหน้าตื่นตกใจเข้ามาว่าไร เล่าโต๋จึงกราบทูลว่า พระองค์ไม่แจ้งหรือ บัดนี้หัวเมืองทั้งปวงเกิดจลาจลขึ้นอีก บ้านเมืองจะเปนอันตรายอยู่แล้ว พระองค์ยังมาเสวยสุราอยู่อีกเล่า พระเจ้าเลนเต้จึงตรัสว่าหัวเมืองทั้งปวงเกิดจลาจล เราใช้ให้ทหารไปปราบสงบแล้วเปนไฉนมาซ้ำว่าดังนี้เล่า เล่าโต๋จึงกราบทูลว่า หัวเมืองทั้งปวงซึ่งเกิดจลาจลครั้งนี้ เพราะเหตุขันทีสิบคนว่าราชการตัดสินคดีราษฎรมิได้เปนยุติธรรม ข้าพเจ้าแจ้งเนื้อความแล้วครั้นจะมิกราบทูลก็เหมือนหนึ่งหามีกตัญญูต่อ พระองค์ไม่ แลขันทีสิบคนได้ยินเล่าโต๋ทูลก็ตกใจ เข้าไปหน้าที่นั่งทำอุบายถอดหมวกแล้วร้องไห้ทูลว่า ขุนนางผู้ใหญ่ทั้งปวงเห็นว่าพระองค์โปรดเลี้ยงข้าพเจ้า ๆ ก็ทำราชการโดยสุจริต ขุนนางทั้งปวงกับเล่าโต๋มีใจริษยาข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าจะทำราชการสืบไปนั้นเห็นจะไม่รอดชีวิต ข้าพเจ้าทั้งสิบคนนี้จะขอออกจากที่เอาแต่ชีวิตรอดไว้ แลทรัพย์สิ่งสินของข้าพเจ้าทั้งปวงนั้น ขอถวายพระองค์ให้พระราชทานทแกล้วทหารซึ่งทำราชการ แต่ตัวข้าพเจ้าทั้งนี้จะขอกราบถวายบังคมลาไปทำไร่ไถนาเลี้ยงชีวิต พระเจ้าเลนเต้ได้ฟังขันทีทูลดังนั้นก็ทรงพระโกรธเล่าโต๋นัก จึงตรัสว่าตัวเปนพี่เลี้ยงที่บ้านเรือนของตัวนั้นก็ย่อมมีคนสนิธใช้สอยอยู่ แลตัวเราเปนเจ้าอยู่ในราชสมบัติมีคนซึ่งสนิธใช้สอยบ้าง ตัวมาริษยาว่ากล่าวให้เราขัดเคืองดังนี้ ซึ่งว่ามีกตัญญูนั้นเราเห็นไม่จริง แล้วสั่งบู๋ซูฝ่ายซ้ายให้เอาตัวเล่าโต๋ไปฆ่าเสีย บู๋ซูก็เข้าลากเอาตัวเล่าโต๋ เล่าโต๋จึงร้องขึ้นหน้าพระที่นั่งว่า ซึ่งรับสั่งให้ฆ่าข้าพเจ้านั้นไม่เสียดายชีวิต ข้าพเจ้าคิดเสียดายแต่ราชสมบัติของพระเจ้าฮั่นโกโจ ซึ่งสั่งสมมาแต่ก่อนได้ถึงสี่ร้อยปีเศษมาแล้ว[๑] บ้านเมืองหาเปนจลาจลมิได้ ครั้งนี้จะเปนอันตรายเสียมั่นคง บู๋ซูก็พาเอาตัวเล่าโต๋ออกไปถึงตำแหน่งฆ่าคนเงื้อดาบขึ้นจะฆ่า พอตันต๋ำเห็นก็ร้องห้ามไว้ว่า อย่าเพ่อฆ่าเสียก่อน เราจะเข้าไปทูลสนองพระเจ้าเลนเต้ให้รู้ความผิดแลชอบก่อน ตันต๋ำเข้าไปยังสวนดอกไม้ ทูลถามพระเจ้าเลนเต้ว่า เล่าโต๋เปนพระพี่เลี้ยงได้ทำนุบำรุงสั่งสอนพระองค์มาแต่ก่อน แลเล่าโต๋กระทำความผิดสิ่งใดพระองค์จึงสั่งให้ประหารชีวิต พระเจ้าเลนเต้ได้ฟังตันต๋ำทูลถามดังนั้นจึงตรัสว่า เล่าโต๋เปนผู้ใหญ่หาความคิดมิได้ เอาความมิจริงมาว่ากล่าวยุยงใส่โทษขันทีสิบคนซึ่งเปนขุนนางผู้ใหญ่ แล้วหยาบช้าต่อเรา ตันต๋ำจึงทูลว่าขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งอาณาประชาราษฎรในเมืองแลหัวเมือง ได้ความเดือดร้อนเปนอันมาก มีใจชังจะใคร่กินเนื้อขันทีสิบคนเสีย แลพระองค์มีพระทัยรักขันทีสิบคนดุจหนึ่งพระราชวงศ์ผู้ใหญ่ แลจะได้มีความชอบสิ่งใดหามิได้ พระองค์ตั้งให้เปนขุนนางผู้ใหญ่นั้นไม่สมควร อนึ่งฮองสีขันทีก็คิดการขบถเปนไส้ศึกเข้าด้วยพวกโจรโพกผ้าเหลือง มีผู้มากราบทูลพระองค์ ๆ มิได้ชำระให้เห็นเท็จจริง พระองค์แกล้งนิ่งเสีย จะให้ราชสมบัติเปนอันตราย พระเจ้าเลนเต้จึงตรัสว่า มีผู้มากราบทูลว่าฮองสีเปนขบถนั้นหาจริงไม่ แลขันทีสิบคนนี้เราเลี้ยงถึงขนาด ถ้าฮองสีเปนขบถจริงขันทีเก้าคนหาเปนขบถสิ้นไม่ ดีร้ายจะมีใจสุจริตต่อเราสักคนหนึ่งสองคน เห็นจะเอาเนื้อความมาบอกเรา ตันต๋ำเห็นว่าพระเจ้าเลนเต้รักขันทีสิบคนอยู่ ซึ่งจะพิททูลว่ากล่าวไปนั้นเห็นขัดสน ตันต๋ำมีความแค้นใจ จึงเอาสีสะชนแท่นซึ่งพระเจ้าเลนเต้เสด็จประทับอยู่นั้นจนสีสะแตกโลหิตไหล พระเจ้าเลนเต้ทรงพระโกรธ จึงสั่งบู๋ซูฝ่ายซ้ายให้เอาตัวตันต๋ำกับเล่าโต๋ซึ่งจะให้ฆ่าเสียนั้นเอาไปจำ ใส่คุกไว้ ครั้นเวลาคํ่าขันทีสิบคนคิดกันแล้วจึงเรียกผู้คุมมาสั่งว่า ถ้าเวลาเที่ยงคืนให้ลอบฆ่าตันต๋ำเล่าโต๋เสีย ผู้คุมก็ไปทำตามขันทีสั่ง แล้วขันทีสิบคนจึงแต่งเปนหนังสือรับสั่งไปถึงซุนเกี๋ยนว่า ให้ซุนเกี๋ยนไปกินเมืองเตียงสาแล้วให้ปราบคูเสงซึ่งเปนพวกโจรนั้นเสียให้ราบ คาบ แลซุนเกี๋ยนรู้หนังสือรับสั่งแล้วก็ยกไปปราบพวกโจร ปราบแล้วก็บอกหนังสือขึ้นไปกราบทูลพระเจ้าเลนเต้ พระเจ้าเลนเต้ทราบจึงทรงพระดำริห์ว่า ซุนเกี๋ยนมีความชอบ เมืองกังแฮเปนหัวเมืองเอก จึงให้แต่งหนังสือรับสั่งให้ซุนเกี๋ยนไปกินเมืองกังแฮ แล้วให้เล่าหงีเปนเจ้าเมืองอิจิ๋ว ให้ยกไปตีเตียวกีเตียวซุ่นซึ่งตั้งตัวเปนเจ้า ณ เมืองยีหยง

ฝ่ายเล่าเก๊งรู้ในรับสั่งว่าเล่าหงีจะไปรบเตียวกีเตียวซุ่น เล่าเก๊งจึงเขียนหนังสือให้เล่าปี่ถือไปหาเล่าหงี ในหนังสือนั้นว่า เล่าเก๊งเล่าปี่กับเล่าหงีเปนแซ่เดียวกัน จะขอให้เล่าปี่ไปทำการศึกด้วย เล่าหงีรู้หนังสือนั้นแล้วก็มีความยินดีนัก จึงจัดแจงทหารทั้งปวง ตั้งให้เล่าปี่เปนนายทหารแล้วยกไปเมืองยีหยง เล่าหงีจึงให้เล่าปี่คุมทหารเข้าหักค่ายเมืองยีหยงเปนสามารถ ทหารทั้งสองฝ่ายฆ่าฟันกันตายเปนอันมาก แลเล่าปี่ตั้งรบอยู่นั้นเปนหลายวัน แลเตียวซุ่นนั้นใจหยาบช้าร้ายกาจนัก พรรคพวกบ่าวไพร่ทั้งปวงมีความเจ็บแค้นเปนอันมาก ครั้นเวลากลางคืนเตียวซุ่นนอนหลับอยู่ ทหารซึ่งสนิธนั้นจึงลอบฆ่าเตียวซุ่นเสียแล้วตัดเอาสีสะพาพวกเพื่อนออกไปให้ เล่าปี่ เตียวกีครั้นเห็นเตียวซุ่นตาย แลทหารทั้งปวงเอาใจออกหากเปนอันมาก ก็สิ้นความคิด จึงเอาดาบเชือดคอตาย แลราษฎรในเมืองยีหยงค่อยมีความสุขราบคาบ

เล่าหงีจึงแต่งหนังสือบอกความชอบเล่าปี่ไปให้กราบทูลพระเจ้าเลนเต้ พระเจ้าเลนเต้จึงตรัสว่าเล่าปี่มีความผิดอยู่ครั้งตีต๊กอิ้ว เอาความชอบนั้นยกโทษเสีย แล้วให้ไปรักษาบ้านแฮปิดปลายด่าน กองซุ่นจ้านจึงทูลว่า เล่าปี่นี้แต่ก่อนก็มีความชอบอยู่ ขอให้ไปกินเมืองเพงงวนก๋วนเถิด พระเจ้าเลนเต้ก็โปรดให้ เล่าปี่ก็ไปอยู่เมืองเพงงวนก๋วน เมืองนั้นมีทหารเปนอันมาก เข้าปลาอาหารก็บริบูรณ์ เล่าปี่ค่อยมีใจกว้างขวางกว่าแต่ก่อน ฝ่ายพระเจ้าเลนเต้จึงให้เล่าหงีซึ่งมีความชอบมาเปนนายทหารอยู่ในเมืองหลวง

พระเจ้าเลนเต้มีอัคมเหษีคนหนึ่งชื่อนางโฮเฮา มีพระราชบุตรองค์หนึ่งชื่อห้องจูเปียน แลนางอองบีหยินสนมเอกมีพระราชบุตรองค์หนึ่งชื่อหองจูเหียบ แลนางโฮเฮานั้นมีพี่ชายคนหนึ่งชื่อโฮจิ๋น ๆ นั้นพระเจ้าเลนเต้ตั้งให้เปนขุนนางผู้ใหญ่เปนที่ปรึกษา แต่พระเจ้าเลนเต้เสวยราชย์ได้หกปีเศษแล้ว แลนางโฮเฮานั้นมีความหึงสาแก่นางอองบีหยิน นางโฮเฮาจึงพาลเอาความผิดเปนข้อใหญ่ สั่งให้เอานางอองบีหยินไปฆ่าเสีย นางตังไทฮอผู้เปนมารดาพระเจ้าเลนเต้นั้นจึงเอาหองจูเหียบผู้หลานไปเลี้ยงไว้ แล้วขึ้นไปว่าแก่พระเจ้าเลนเต้ว่า สมบัตินี้ขอให้หองจูเหียบเสวยราชย์เถิด แต่นางตังไทฮอขึ้นอ้อนวอนพระเจ้าเลนเต้เปนหลายครั้ง พระเจ้าเลนเต้มีความรักแก่หองจูเหียบ จึงรับคำนางตังไทฮอผู้มารดา

ครั้นอยู่มาณเดือนหกพระเจ้าเลนเต้ทรงพระประชวรหนัก จึงมีขันทีคนหนึ่งชื่อเกนหวน นอกจากขันทีสิบคน กราบทูลพระเจ้าเลนเต้ว่า ซึ่งพระองค์รับคำตังไทฮอผู้เปนพระมารดาว่า จะให้หองจูเหียบเสวยราชสมบัตินั้น ข้าพเจ้ามีความยินดีด้วย แต่ว่าจะมิฆ่าโฮจิ๋นเสียก่อนนั้นเห็นไม่ได้ พระเจ้าเลนเต้เห็นชอบด้วย จึงให้หาโฮจิ๋นเข้ามาจะปรึกษาราชการด้วย โฮจิ๋นก็เข้ามาถึงประตูวังพอพบขุนนาง พัวอิ๋นจึงบอกว่า บัดนี้เกนหวนคิดอ่านจะฆ่าท่านเสีย ท่านอย่าเข้าไปเลย โฮจิ๋นได้ยินข่าวก็ตกใจกลับมาบ้าน จึงให้หาขุนนางทั้งปวงมากินโตะแล้วปรึกษาว่า เราจะคิดฆ่าเกนหวนเสีย ท่านทั้งปวงจะเห็นประการใด โจโฉได้ยินดังนั้นจึงว่า อันเกนหวนนั้นพระเจ้าเลนเต้ก็โปรดปราน พรรคพวกในวังก็มีเปนอันมาก ท่านคิดการทั้งนี้เกลือกจะมิสำเร็จจะไม่ตายแต่ตัว จะพาญาติพี่น้องตายเสียสิ้น ขอท่านจงดำริห์ดูให้ควรก่อน โฮจิ๋นได้ยินโจโฉว่าดังนั้นก็โกรธ จึงว่าตัวเปนแต่ผู้น้อยเราคิดการใหญ่หลวงตัวไม่รู้ ตัวมาว่าดังนี้ไม่ควร ขุนนางทั้งปวงยังนิ่งอยู่

ฝ่ายพระเจ้าเลนเต้ทรงพระประชวรหนักก็สวรรคต พัวอิ๋นแจ้งเนื้อความซึ่งขันทีคิดนั้นจึงไปบอกโฮจิ๋นว่า บัดนี้พระเจ้าเลนเต้สวรรคตแล้ว ขันทีสิบคนกับเกนหวนคิดกันปิดเนื้อความเสีย จะให้มีรับสั่งพระเจ้าเลนเต้มาหาท่านให้เข้าไปในวังแล้วจะจับฆ่าเสีย เพราะจะให้หองจูเหียบขึ้นเสวยราชสมบัติ จึงจะสิ้นเสี้ยนหนามไปภายหน้า โฮจิ๋นยังมิได้ตอบประการใด พอขันทีเลวมาบอกว่า มีรับสั่งให้หาโฮจิ๋นเข้าไปข้างในจะปรึกษาราชการเปนการเร็ว โจโฉจึงว่าแก่โฮจิ๋นว่า เราจำจะตั้งให้หองจูเปียนผู้เปนพระราชบุตรเอกให้เสวยราชสมบัติเสียก่อน เราจึงคิดฆ่าเกนหวนกับพรรคพวกเหล่าร้ายเสีย โฮจิ๋นจึงตอบว่าเมื่อเปนดังนี้ผู้ใดจะอาสาฆ่าอ้ายเหล่าศัตรูราชสมบัติเสีย ได้บ้าง อ้วนเสี้ยวได้ยินโฮจิ๋นว่าดังนั้น จึงว่าข้าพเจ้าจะอาสาคุมทหารห้าพันเข้าทำการจับขันทีสิบคนกับเกนหวนฆ่าเสีย แล้วจึงยกหองจูเปียนขึ้นเสวยราชสมบัติตามราชประเพณี โฮจิ๋นได้ยินมีความยินดีนัก จึงจัดทหารห้าพันถือเครื่องศัสตราวุธครบมือกันให้แก่อ้วนเสี้ยว อ้วนเสี้ยวก็คุมทหารเข้าไป โฮจิ๋นให้โหหยองซุนสิวแตะถ้ายกับขุนนางใหญ่น้อยสามสิบเศษ ตามอ้วนเสี้ยวเข้าไปถึงตำหนักซึ่งไว้พระศพพระเจ้าเลนเต้ แล้วเชิญเสด็จหองจูเปียนขึ้นณที่นั่งพระเจ้าเลนเต้เสด็จออก ขุนนางทั้งปวงกราบถวายบังคมแล้วเฝ้าที่นั่น แต่อ้วนเสี้ยวกับโฮจิ๋นคุมทหารห้าพันเปิดประตูเข้าไปไล่จับเกนหวน ๆ รู้ตัวหนีเข้าไปอยู่ในสวนดอกไม้ที่ข้างใน แลกุยเสงขันทีคนหนึ่งนอกกว่าขันทีสิบคนมีใจพยาบาทเกนหวน ครั้นเกนหวนหนีกุยเสงก็ฆ่าเกนหวนตายในสวนดอกไม้ เหล่าทหารล้อมวังซึ่งเกนหวนได้คุมอยู่นั้น ครั้นเห็นเกนหวนตายต่างคนต่างวิ่งเข้าหาอ้วนเสี้ยวเปนอันมาก อ้วนเสี้ยวจึงว่าแก่โฮจิ๋นว่า ได้ทำการถึงเพียงนี้แล้ว จำจะฆ่าขันทีสิบคนกับพรรคพวกของมันเสียให้สิ้นทีเดียวราชการจึงจะปรกติ แลเตียวเหยียงพวกขันทีสิบคนได้ยินอ้วนเสี้ยวว่าแก่โฮจิ๋นดังนั้นก็ตกใจกลัว วิ่งหนีไปหานางโฮเฮาผู้เปนน้องโฮจิ๋น แล้วทูลอ้อนวอนว่า การซึ่งจะยกหองจูเหียบให้เปนใหญ่นั้น ข้าพเจ้าทั้งสิบคนหาได้คบคิดรู้เห็นด้วยไม่ การทั้งนี้เกนหวนคิดอ่านแต่ผู้เดียว บัดนี้โฮจิ๋นกับอ้วนเสี้ยวคิดอ่านจะฆ่าข้าพเจ้าเสีย พระองค์จงช่วยชีวิตข้าพเจ้าทั้งนี้ให้รอดไว้ด้วย นางโฮเฮาจึงว่า เตียวเหยียงอย่าเปนทุกข์เราจะช่วย จึงสั่งให้ไปเชิญโฮจิ๋นเข้ามาแล้วว่า เตียวเหยียงกับขันทีเก้าคนหาความผิดมิได้ เปนไฉนพี่จะให้อ้วนเสี้ยวฆ่าเสีย แลเกนหวนซึ่งคิดมิชอบก็ตายแล้ว อันขันทีสิบคนนี้พี่อย่าให้ทำวุ่นวายเลย โฮจิ๋นก็รับคำนางโฮเฮา แล้วก็ออกมาว่าแก่อ้วนเสี้ยวแลขุนนางทั้งปวงว่า เกนหวนซึ่งคิดร้ายต่อหองจูเปียนกับเรานั้นก็ตายแล้ว แลขันทีสิบคนนั้นจะได้คบคิดกับเกนหวนนั้นหามิได้ เราจะฆ่าเสียนั้นไม่ควร อ้วนเสี้ยวจึงตอบว่า ธรรมดาจะทำการสิ่งใด การนั้นมิสำเร็จก็หาสิ้นวิตกไม่ เกนหวนกับขันทีสิบคนเปนพวกเดียวกัน เกนหวนคิดการครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก หากท่านรู้ตัวจึงรอดชีวิตอยู่ ซึ่งฆ่าเกนหวนเสียนั้นเหมือนหนึ่งฟันต้นหญ้าจะให้ตาย ขันทีสิบคนเหมือนหนึ่งรากหญ้า ตายแต่ต้นนั้นเห็นไม่สิ้นเชิง รากก็จะงอกแทนขึ้นมา ภายหน้าไปเห็นอันตรายจะมีแก่ท่านเปนมั่นคง โฮจิ๋นจึงตอบว่าความข้อนี้ท่านอย่าวิตกเลยไว้เปนธุระเรา แล้วต่างคนก็ออกไปบ้าน ครั้นเวลารุ่งขึ้นเช้านางโฮเฮาจึงให้หาโฮจิ๋นเข้ามาปรึกษาราชการ แล้วตั้งให้เปนเสนาบดีผู้สำเร็จราชการ แล้วตั้งขุนนางทั้งปวงซึ่งขันทีสิบคนถอดออกเสียจากราชการนั้น ให้คงอยู่ตามตำแหน่งที่แต่ก่อน

ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง นางตังไทฮอจึงให้หาเตียวเหยียงกับขันทีเก้าคนมาว่า แต่ก่อนเราก็ได้ทำนุบำรุงนางโฮเฮาให้อยู่เย็นเปนสุข จนได้เปนพระมเหษีพระเจ้าเลนเต้ผู้เปนพระราชบุตรเรา บัดนี้หาบุญพระเจ้าเลนเต้ไม่ หองจูเปียนได้ว่าราชการเมือง นางโฮเฮาดูหมิ่นเราตั้งขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยมิได้ปรึกษาเรา แล้วเห็นกิริยานางโฮเฮากำเริบขึ้นกว่าแต่ก่อนเรามีความอัปยศนัก ท่านทั้งปวงเห็นประการใด เตียวเหยียงจึงทูลว่าเวลาพรุ่งนี้เช้าเชิญพระองค์เสด็จออกไปยังพระแกลที่พระ เจ้าเลนเต้เสด็จออก แล้วจึงตรัสว่าให้หองจูเหียบเปนเจ้าชื่อตันลิวอ๋อง แปลภาษาไทยว่าต่างกรม แล้วให้ตั้งต๋งผู้น้องพระองค์เปนเสนาบดีผู้สำเร็จราชการฝ่ายทหาร ขอให้ตั้งข้าพเจ้าทั้งสิบคนนี้เปนขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งราชการทั้งปวงนั้นจะได้คิดการสืบไป นางตังไทฮอได้ฟังแล้วมีความยินดีนัก ครั้นเวลาเช้าจึงอุ้มหองจูเหียบเสด็จออกไปณที่พระแกลมิได้เปิดมู่ลี่ขึ้น จึงตรัสตามคำเตียวเหยียงว่าทุกประการแล้วเสด็จเข้า ฝ่ายนางโฮเฮาเห็นนางตังไทฮอทำดังนั้น จึงคิดเห็นว่าราชการเมืองจะแก่งแย่งกัน จึงแต่งโต๊ะแล้วเชิญนางตังไทฮอมากินโต๊ะ จึงเอาจอกสุราคำนับส่งให้นางตังไทฮอแล้วว่า แผ่นดินแต่ก่อนครั้งนางลิเฮา ซึ่งเปนมเหษีพระเจ้าเล่าปัง[๒] ๆ สวรรคตนางลิเฮาออกว่าราชการเมืองให้ผิดขนบธรรมเนียม ขุนนางทั้งปวงแลอาณาประชาราษฎรได้ความเดือดรัอน จึงเกิดจลาจลขึ้น นางลิเฮากับญาติวงศ์ทั้งปวงก็ตายเปนอันมาก แลพระองค์กับข้าพเจ้าเปนสัตรี จะออกว่าราชการเมืองนั้นไม่ควร ถ้ามิฟังข้าพเจ้าเห็นจะเปนอันตรายเหมือนนางลิเฮา ฝ่ายนางตังไทฮอได้ฟังดังนั้นก็โกรธแล้วตอบว่า ตัวมิได้มีสัตย์กอปด้วยหึงสา พาลเอาความผิดนางอองบีหยินแล้วให้เอาไปฆ่าเสีย บัดนี้ลูกของตัวได้เปนใหญ่ ตัวมิได้ยำเกรงเรา มาว่ากล่าวถ้อยคำหยาบช้าดูหมิ่นเปรียบเทียบเราดังนี้เราหาฟังไม่ ถึงมาทว่าโฮจิ๋นพี่ของตัวซึ่งได้เปนเสนาบดีผู้ใหญ่นั้น เพียงแต่ตั๋งต๋งผู้น้องเราจะตัดเอาสีสะโฮจิ๋นก็จะได้ในลัดนิ้วมือเดียวด้วย ง่าย นางโฮเฮาได้ยินดังนั้นก็โกรธแล้วตอบว่า เราเห็นผิดช่วยเตือนสติกลับมาโกรธเราอีกเล่า นางตังไทฮอจึงว่า ตัวเปนผู้น้อยแต่ก่อนมาหาผู้ใดนับถือไม่ แลตัวได้เปนพระมเหษีพระเจ้าเลนเต้ผู้บุตรเรา ตัวก็เคยอ่อนง้อเรา มาบัดนี้ลูกของตัวได้ว่าราชการเมือง ตัวตั้งตัวว่ารู้ขนบธรรมเนียมแผ่นดิน

ขณะนั้นเตียวเหยียงกับขันทีเก้าคนรู้ก็มาห้ามทั้งสองข้าง นางตังไทฮอก็กลับไปที่อยู่ ครั้นเวลาคํ่านางโฮเฮาจึงให้หาโฮจิ๋นเข้ามา แล้วบอกเนื้อความซึ่งนางตังไทฮอว่ากล่าวให้โฮจิ๋นฟัง โฮจิ๋นได้ฟังแล้วกลับมาบ้าน จึงหาขุนนางผู้ใหญ่มาปรึกษาว่า นางตังไทฮอนั้นจะได้เปนมเหษีพระเจ้าฮั่นเต้หามิได้ ซึ่งเข้ามาอยู่ในพระราชวังนี้ เพราะพระเจ้าเลนเต้ผู้บุตรได้เสวยราชสมบัติ นี่หาบุญพระเจ้าเลนเต้ไม่แล้ว ซึ่งจะให้นางตังไทฮออยู่ในพระราชวังนั้นราชการเมืองจะเสียไป เราจะให้ออกไปอยู่ ณ ตำหนักกลางสระนอกเมือง ขุนนางทั้งปวงก็เห็นด้วย ครั้นเวลาเช้าจึงชวนกันไปเฝ้านางตังไทฮอ ๆ เสด็จมา ขุนนางจึงเชิญเสด็จนางตังไทฮอให้ออกไปอยู่ ณ ตำหนักกลางสระนอกเมือง แล้วโฮจิ๋นจึงแต่งทหารไปล้อมบ้านตั๋งต๋งผู้น้องนางตังไทฮอ ตั๋งต๋งเห็นก็ตกใจหนีไปเชือดคอตายณสวนดอกไม้หลังตึก แลทหารโฮจิ๋นนั้นก็ริบราชบาทว์เข้าของแลตราสำหรับที่มาส่งให้โฮจิ๋น

ฝ่ายเตียวเหยียงกับขันทีเก้าคนจึงคิดพร้อมกันว่า บัดนี้นางตังไทฮอออกไปอยู่นอกเมืองแล้ว เราหาที่พึ่งมิได้ จึงเอาเงินทองไปให้โฮเบี้ยวผู้น้องโฮจิ๋นหวังจะฝากตัว แล้วจัดทรัพย์สิ่งของทั้งปวงซึ่งมีราคามากนั้นไปให้นางบูยงกุ๋นผู้มารดาโฮ จิ๋นว่า ท่านจงกรุณาข้าพเจ้าทั้งสิบคนด้วย ช่วยว่ากล่าวเสนอความชอบความดีข้าพเจ้า ให้นางโฮเฮามีความกรุณาข้าพเจ้าด้วย นางบูยงกุ๋นรับคำแล้วไปว่ากล่าวนางโฮเฮาผู้บุตรตามคำขันทีสิบคน ๆ ก็ได้ทำราชการปรกติอยู่ในพระราชวังเหมือนแต่ก่อน

ครั้นอยู่มาณเดือนแปด โฮจิ๋นจึงแต่งทหารซึ่งสนิธไปลอบฆ่านางตังไทฮอณตำหนักกลางสระ เจ้าพนักงารแลขุนนางทั้งปวงไปส่งสักการศพนางตังไทฮอ แต่โฮจิ๋นนั้นทำเฉยเสียมิได้ไป อ้วนเสี้ยวจึงมาเยือนแล้วบอกว่า ขันทีสิบคนนินทาว่า ท่านให้ทหารไปลอบฆ่านางตังไทฮอเสียหวังจะคิดเอาราชสมบัติ ซึ่งท่านจะนอนใจอยู่จะมิคิดฆ่าขันทีสิบคนเสียภายหน้าไปเห็นจะเปนอันตรายเปน มั่นคง ครั้งนี้ท่านกับโฮเบี้ยวผู้น้องก็เปนผู้สำเร็จราชการสิทธิ์ขาด ขุนนางทั้งปวงก็อยู่ในเงื้อมมือท่านสิ้น ถ้าท่านคิดประการใดเห็นจะสมปราถนา อุปมาเหมือนพลิกแผ่นดินกลับ ขอให้เร่งคิดฆ่าขันทีสิบคนเสียจงได้ โฮจิ๋นจึงว่า ท่านว่าทั้งนี้ก็ชอบอยู่แล้ว แต่เราขอทุเลาตรึกตรองดูสักเวลาหนึ่งก่อน แลคนใช้โฮจิ๋นได้ยินอ้วนเสี้ยวว่าดังนั้นคิดเอาใจออกหากโฮจิ๋น จึงเอาเนื้อความลอบไปบอกเตียวเหยียง เตียวเหยียงรู้เนื้อความดังนั้นจึงคิดกับขันทีสิบคน แล้วจัดหาเงินทองของตระการไปให้โฮเบี้ยว แล้วบอกว่าโฮจิ๋นนั้นทำการหยาบช้า ฆ่าผู้ฟันคนเสียตามอำเภอใจ เห็นจะเสียขนบแผ่นดินไป อนึ่งข้าพเจ้าสิบคนนี้หามีความผิดสิ่งใดไม่ โฮจิ๋นฟังคำคนยุยงจะฆ่าข้าพเจ้าทั้งสิบคนเสีย ขอท่านได้เอาเนื้อความทั้งนี้ไปทูลนางโฮเฮาให้แจ้ง ข้าพเจ้าทั้งปวงจึงจะรอดชีวิต โฮเบี้ยวรับคำเตียวเหยียง แล้วเข้าไปทูลนางโฮเฮาตามคำเตียวเหยียง

ฝ่ายนางโฮเฮาได้ยินดังนั้นมิได้พิจารณาก็เชื่อ พอโฮจิ๋นเข้าไปหานางโฮเฮา แล้วบอกเนื้อความว่า ขันทีสิบคนนี้ถ้าเอาไว้สืบไปจะมีอันตราย เราจะคิดฆ่าเสียให้สิ้น นางโฮเฮาตอบว่าขันทีสิบคนได้ทำราชการมาแต่ครั้งพระเจ้าเลนเต้ จะได้มีความผิดสิ่งใดหามิได้ จะมาฆ่าเขาเสียนั้นไม่ควร ซึ่งว่าจะช่วยทำนุบำรุงการแผ่นดินนั้นเห็นไม่สม เหมือนหนึ่งจะแกล้งให้บ้านเมืองเปนจลาจล โฮจิ๋นมิได้ตอบประการใดก็กลับมาบ้าน อ้วนเสี้ยวจึงถามว่า ซึ่งข้าพเจ้าว่านั้นท่านได้คิดประการใด โฮจิ๋นจึงตอบว่า เราเข้าไปบอกนางโฮเฮา ๆ ไม่ยอม แลการทั้งนี้เราจะคิดประการใดดี อ้วนเสี้ยวจึงว่าขอให้มีหนังสือท่านออกไป ให้หาหัวเมืองทั้งปวงยกทหารเข้ามาเปนกระบวรทัพ แล้วประกาศว่าจะเอาตัวขันทีสิบคนฆ่าเสีย นางโฮเฮากลัวจะเปนอันตราย เห็นจะให้จับขันทีส่งออกมาให้โดยสดวก โฮจิ๋นเห็นชอบด้วยจะทำตามอ้วนเสี้ยวว่า แลตันหลิมได้ยินดังนั้น จึงเขียนเปนกระบวรโคลงบทหนึ่งว่า ผู้หนึ่งกำเริบใจว่าตัวชำนาญการกระสุนหลับตายิงนก ถ้าลูกกระสุนถูกมือเข้าก็จะเสียการ แล้วตันหลิมจึงทักโฮจิ๋นว่า ตัวท่านทุกวันนี้ราชการเมืองก็จะสิทธิ์ขาดอยู่แก่ท่าน ขุนนางทั้งปวงก็อยู่ในเงื้อมมือท่าน อันขันทีสิบคนเหมือนหนึ่งแมลงเม่า ตัวท่านเหมือนกองเพลิงอันใหญ่ แมลงเม่าหรือจะสู้เพลิงได้ ถ้าท่านจะคิดประการใดก็จะสมดังปราถนา ตัวท่านเหมือนพระยาหงส์ คิดการใหญ่แล้วจะมาเคร่าท่าฝูงกาอยู่นั้นไม่ควร อันหัวเมืองทั้งปวงจะยกทหารเปนกระบวรทัพเข้ามา ถ้าได้ตัวขันทีสิบคนแล้ว เห็นหัวเมืองทั้งปวงจะกำเริบเกิดศึกกลางเมืองขึ้น การซึ่งคิดจะทำนุบำรุงแผ่นดินนั้นก็จะเสียท่วงทีไป โฮจิ๋นได้ยินดังนั้นหัวเราะเยาะแล้วตอบว่า ตัวท่านจะมาร่วมคิดการใหญ่กับเรานั้น ความคิดท่านน้อยนัก อุปมาดังเด็กเลี้ยงโค พอโจโฉก็อยู่ที่นั่นด้วย ได้ยินตันหลิมกับโฮจิ๋นตอบกันดังนั้น โจโฉตบมือหัวเราะแล้วว่า การลัดนิ้วมือเดียวไม่ควรที่จะเถียงกันอื้ออึง อย่างธรรมเนียมแผ่นดินแต่ก่อนก็มีมา พระมหากษัตริย์เชื่อฟังตั้งแต่งขันทีเปนเสนาบดีผู้ใหญ่ ราชการเมืองก็ผันแปรไปมีเนือง ๆ มาอยู่ ครั้งนี้ขันทีสิบคนซึ่งหยาบช้านั้น มีสติปัญญาเปนใหญ่อยู่คนเดียวสองคนดอก ถ้าจะคิดจับเอาแต่นายใหญ่นั้นฆ่าเสียก็จะได้โดยง่าย ทำไมจะให้ร้อนถึงหัวเมืองยกเปนกระบวรทัพเอิกเริกมาเล่า โฮจิ๋นได้ฟังโจโฉว่าก็โกรธ แล้วตอบว่า เราจะทำการใหญ่ตัวมาว่าดังนี้ คบคิดเปนใจเดียวกันกับขันทีสิบคนหรือ โจโฉได้ยินก็โกรธ มิได้ตอบประการใด จึงเดิรออกมาถึงนอกบ้านแล้วว่า แผ่นดินครั้งนี้จะเกิดอันตรายเพราะโฮจิ๋น ฝ่ายโฮจิ๋นก็แต่งเปนหนังสือรับสั่ง ลอบให้ทนายรีบถือไปให้แก่หัวเมืองทั้งปวง ตามซึ่งคิดไว้แต่ก่อนนั้น

[๑] รัชกาลพระเจ้าฮั่นโกโจ พ.ศ. ๓๓๘ อยู่ในเรื่องไซ่ฮั่น
[๒] ในเรื่องไซ่ฮั่น

อาณาจักรสามก๊ก

 


ความเป็นมาของ สามก๊ก

สามก๊ก เป็นวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์ ที่เรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ของจีน (ค.ศ. 220-280) ซึ่งเนื้อหาโดยรวมเป็นการเล่าแบบบรรยายเกี่ยวกับเหตุการณ์ในปลายสมัยราชวงศ์ฮั่น มีที่มาจากสามก๊กจี่ จดหมายเหตุประวัติศาสตร์ที่ตันซิ่วเป็นผู้บันทึกในสมัยราชวงศ์จิ้น แบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 เรื่อง คือ จดหมายเหตุก๊กวุ่ย (วุ่ยก๊ก) จดหมายเหตุก๊กจ๊ก (ก๊กถ๊ก) จดหมายเหตุก๊กง่อ (ง่อก๊ก) ใช้เวลารวบรวมนานกว่า 30 ปี จนได้จดหมายเหตุสามก๊กที่มีความยาวถึง 65 เล่มสมุด ต่อมาสมัยราชวงศ์เหม็ง (หมิง) นักปราชญ์จีนหลอกว้านจง ได้นำเอาจดหมายเหตุของตันซิ่วมาแต่งเป็นนิยายให้มีความสนุกสนานที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองเรียกว่า สามก๊กจี่ทงซกเอี้ยนหงี ที่มีความหมายว่า จดหมายเหตุสามก๊กสำหรับสามัญชน

การแปลสามก๊กในประเทศไทย

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมีพระราชดำรัสให้แปลพงศาวดารจีนเป็นภาษาไทย 2 เรื่องคือไซฮั่น แปลโดย กรมพระราชวังหลัง และสามก๊ก ที่แปลโดย เจ้าพระยาคลัง (หน) มีความยาว 95 เล่มสมุดไทย

อาณาจักรสามก๊ก

"สามก๊ก มีก๊ก อะไรบ้าง ? อาณาจักรสามก๊ก นั้นเริ่มขึ้นจากการปกครองบ้านเมืองของจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น ซึ่งถือเป็นราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ราชวงศ์หนึ่ง ฮั่นได้แผ่ขยายอาณาเขตออกไปไกล ขับไล่ชนเผ่านอกด่านออกไปจากภาคเหนือของประเทศได้ ด้านทิศเหนือครอบครองแมนจูเรียและเกาหลีบางส่วน ทิศใต้ครองมณฑลกวางตุ้งและกว่างซีรวมถึงตอนเหนือของเวียดนาม
     ครั้นถึงปลายสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออกหรือตงฮั่น จักรพรรดิทรงอ่อนแอ ขันทีมีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ขุนศึกหัวเมืองต่าง ๆ พากันกระด้างกระเดื่องและตั้งกองกำลังส่วนตัวขึ้น ก่อความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านไปทั่วแผ่นดิน ราษฎรได้รับความเดือนร้อนไปทั่วจนทำให้เกิดกบฏโจรโพกผ้าเหลืองขึ้น

     กลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ทำสงครามแย่งชิงอำนาจกันโดยไม่สนใจรัฐบาลกลาง ในที่สุดแผ่นดินจีนแตกออกเป็นสามก๊กอย่างชัดเจนภายหลังจากที่โจโฉพ่ายแพ้ให้แก่ เล่าปี่และซุนกวน ในการศึกที่ผาแดง 
เมื่อปี พ.ศ. 751

     ตั้งแต่นั้นแผ่นดินเมืองจีนจึงแบ่งแยกออกเป็นสามก๊ก อันได้แก่

วุยก๊ก

วุยหรือเฉาเว่ย (曹魏)

     วุยหรือเฉาเว่ย (曹魏) จัดเป็นก๊กที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจมากที่สุดในบรรดาสามก๊ก ในระหว่างปี พ.ศ. 763 - พ.ศ. 808 (ปี ค.ศ. 220-265)

     วุยก๊กครอบครองพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศจีน ปกครองโดยโจโฉ ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นราชวงศ์วุยโดยพระเจ้าโจผี และในภายหลังได้สถาปนาโจโฉเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์วุยอีกพระองค์หนึ่ง วุยก๊กปกครองอาณาจักรโดยจักพรรดิสืบต่อกันมาทั้งหมด 5 พระองค์ ได้แก่
  1. พระเจ้าโจผี ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 763 - 769
  2. พระเจ้าโจยอย ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 769 - 782
  3. พระเจ้าโจฮอง ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 782 - 797
  4. พระเจ้าโจมอ ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 797 - 803
  5. พระเจ้าโจฮวน ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 803 - 808
     วุยก๊กถูกยึดอำนาจโดยครอบครัวขุนนางตระกูลสุมา ซึ่งโค่นล้มราชวงศ์วุยโดยสุมาเอี๋ยน ซึ่งต่อมาภายหลังได้สถาปนาราชวงศ์จิ้นขึ้นแทนและรวบรวมแผ่นดินที่แบ่งเป็นก๊กต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

จ๊กก๊ก

จ๊กหรือสู่ฮั่น (蜀汉)

     จ๊กหรือสู่ฮั่น (蜀汉) เป็นหนึ่งในอาณาจักรสามก๊ก ปกครองโดยพระเจ้าเล่าปี่ เชื้อพระวงศ์แห่งราชวงศ์ฮั่น ในระหว่างปี พ.ศ. 764 - พ.ศ. 806 (ปี ค.ศ. 221-263)

     จ๊กก๊กครอบครองพื้นที่ทางภาคตะวันตกของประเทศจีน บริเวณมณฑลเสฉวน จ๊กก๊กปกครองอาณาจักรโดยจักรพรรดิสืบต่อกันมาทั้งหมด 2 พระองค์ ได้แก่
  1. พระเจ้าเล่าปี่ ปกครองจ๊กก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 764 - 766
  2. พระเจ้าเล่าเสี้ยน ปกครองจ๊กก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 766 - 806
     จ๊กก๊กมีอายุได้แค่เพียง 42 ปีก็ล่มสลายลงด้วยกองทัพของวุยก๊ก เนื่องจากการปกครองแผ่นดินที่ล้มเหลวเพราะความโง่เขลาเบาปัญญาไร้ความสามารถ ที่วัน ๆ เอาแต่เสพสุขของพระเจ้าเล่าเสี้ยน

ง่อก๊ก

ง่อหรืออาณาจักรหวูตะวันออก (東吳)

    ง่อหรืออาณาจักรหวูตะวันออก (東吳) เป็นหนึ่งในอาณาจักรสามก๊ก ปกครองโดยพระเจ้าซุนกวน ในระหว่างปี พ.ศ. 765 - พ.ศ. 823 (ปี ค.ศ. 222-280)

     ง่อก๊กครอบครองพื้นที่ทางด้านตะวันออกของประเทศจีน ทางบริเวณตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี ซึ่งคือพื้นที่บริเวณรอบ ๆ เมืองหนานจิงในปัจจุบัน ง่อก๊กปกครองอาณาจักรโดยจักรพรรดิสืบต่อกันมาทั้งหมด 4 พระองค์ ได้แก่
  1. พระเจ้าซุนกวน ปกครองง่อก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 765 - 795
  2. พระเจ้าซุนเหลียง ปกครองง่อก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 795 - 801
  3. พระเจ้าซุนฮิว ปกครองง่อก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 801 - 807
  4. พระเจ้าซุนโฮ ปกครองง่อก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 807 - 823
     ง่อก๊กเป็นอาณาจักรสุดท้ายในบรรดาอาณาจักรสามก๊กที่ล่มสลาย ถูกปราบโดยกองทัพของสุมาเอี๋ยนและราชวงศ์จิ้น


สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 1

 

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 1


เนื้อหา

• อธิบายพงศาวดารก่อนเรื่องสามก๊ก
• พระเจ้าเลนเต้เสวยราชย์
• เกิดโจรโพกผ้าเหลือง
• พระเจ้าเลนเต้ประกาศบำเหน็จการปราบโจรโพกผ้าเหลือง
• เริ่มกล่าวถึงเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย
• เริ่มกล่าวถึงโจโฉ
• เริ่มกล่าวถึงตั๋งโต๊ะ
• เริ่มกล่าวถึงซุนเกี๋ยน

เดิมแผ่นดินเมืองจีนทั้งปวงนั้น เปนสุขมาช้านานแล้วก็เปนศึก ครั้นศึกสงบแล้วก็เปนสุข มีพระมหากษัตริย์ทรงพระนามพระเจ้าจิวบูอ๋อง[๑] แลพระวงศ์ได้เสวยราชย์ต่อ ๆ ลงมาเปนหลายพระองค์ ได้ความสุขมาถึงเจ็ดร้อยปี จึงมีผู้ตั้งแขงเมืองถึงเจ็ดหัวเมือง ครั้งนั้นพระเจ้าจิ๋นอ๋องได้เสวยราชย์ในเมืองจิ๋นก๊กให้ไปตีเอาหัวเมืองทั้ง เจ็ดนั้น เข้าอยู่ในอาณาจักรพระเจ้าจิ๋นอ๋องทั้งสิ้น[๒] ครั้นอยู่มาพระเจ้าจิ๋นอ๋องเสียแก่ฮั่นฌ้อ แล้วฮั่นโกโจกับฮั่นฌ้อรบกัน จึงได้ราชสมบัติแก่ฮั่นโกโจ ฮั่นโกโจแลพระราชวงศ์ได้เสวยราชสมบัติต่อ ๆ มาในแผ่นดินจีนนั้นถึงสิบสององค์ มีขุนนางคนหนึ่งชื่ออองมังเปนขบถชิงเอาราชสมบัติได้ เปนเจ้าแผ่นดินอยู่สิบแปดปี แล้วจึงมีหลานพระเจ้าฮั่นโกโจชื่อฮั่นกองบู๊จับอองมังฆ่าเสียชิงเอาราช สมบัติได้เสวยราชย์สืบวงศ์มาสิบสององค์ พระองค์ได้เสวยราชย์ที่สุดนั้น ทรงพระนามพระเจ้าเหี้ยนเต้ จึงแตกเปนสามเมือง ภาษาจีนเรียกว่า สามก๊ก

เหตุทั้งนี้เพราะพระเจ้าฮั่นเต้[๓] หาพระราชบุตรมิได้ ขอเลนเต้มาเลี้ยง จนเลนเต้ได้เสวยราชย์มีพระราชบุตรสององค์ ชื่อหองจูเปียนหนึ่ง หองจูเหียบหนึ่ง แลเมืองพระเจ้าเลนเต้เสวยราชย์นั้น มิได้ตั้งอยู่ในโบราณราชประเพณี แลมิได้คบหาคนสัตย์ธรรม เชื่อถือแต่คนอันเปนอาสัตย์ ประพฤติแต่ตามอำเภอใจแห่งพระองค์เสียราชประเพณีไป จึงมีขันทีผู้ใหญ่คนหนึ่งชื่อเทาเจียดกับพวกขันทีทั้งปวง เห็นว่าพระเจ้าเลนเต้รักใคร่ไว้พระทัย จึงคิดกันกระทำการหยาบช้าต่าง ๆ แต่บันดาราชกิจสิ่งใดนั้น ขันทีว่ากล่าวเอาผิดเปนชอบ ขุนนางแลอาณาประชาราษฎรได้ความเดือดร้อนนัก จึงมีขุนนางผู้ใหญ่ทั้งสองชื่อเตาบูตันผวนเห็นผิดคิดอ่านจะจับขันทีฆ่าเสีย เทาเจียดขันทีรู้ตัวจึงให้พัครพวกจับเตาบูตันผวนไปฆ่าเสีย เทาเจียดแลพวกขันทีทั้งปวงยิ่งทำการกำเริบขึ้นกว่าแต่ก่อน

ครั้นอยู่มาพระเจ้าเลนเต้เสวยราชสมบัติได้สิบสองปี (พ.ศ. ๗๒๒) ณเดือนสี่ขึ้นสิบห้าคํ่าเสด็จอยู่บนพระเก้าอี้ณพระที่นั่งอุนต๊กเตี้ยน เวลาตะวันเที่ยงเกิดลมพายุหนัก มีงูสีเขียวใหญ่ตกลงมาพันอยู่ที่เท้าพระเก้าอี้ซึ่งเสด็จอยู่นั้น พระเจ้าเลนเต้ตกพระทัยล้มลงจากพระเก้าอี้หาพระสติมิได้ ชาวรักษาพระองค์เข้าช่วยพยุงเชิญเสด็จเข้าไปที่ข้างใน บันดาขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยซึ่งเฝ้าอยู่นั้น เห็นงูก็ตกใจกลัวต่างคนก็วิ่งหนีไป อยู่หน่อยหนึ่งงูนั้นก็หายไป จึงเกิดฟ้าร้องฝนตกห่าใหญ่ ลูกเห็บตกลงตึกแลเรือนราษฎรทั้งปวงหักทลายเปนอันมาก จนเวลาเที่ยงคืนฝนจึงหยุด ครั้นอยู่มาได้สี่ปี (พ.ศ. ๗๒๖) ณเดือนยี่ เมืองลกเอี๋ยงแผ่นดินไหว นํ้าทเลเกิดใหญ่ท่วมตึกแลเรือนอาณาประชาราษฎร ซึ่งอยู่ตีนท่านั้นถล่มลอยไปเปนอันมาก ไก่ตัวเมียกลายเปนตัวผู้

ครั้นถึงเดือนหกขึ้นค่ำหนึ่ง เกิดนิมิตเปนควันเพลิงพลุ่งขึ้นไปสูงประมาณยี่สิบวา แล้วควันเพลิงนั้นพลุ่งเข้าไปในพระที่นั่งอุนต๊กเตี้ยน ครั้นณเดือนเจ็ดเกิดนิมิตรัศมีรุ้งตกลงในพระราชวัง แลเขารันซัวสูงใหญ่บันดาลแตกทลายลง พระเจ้าเลนเต้จึงถามขุนนางทั้งปวงว่า นิมิตวิปริตดังนี้จะดีร้ายประการใด ยีหลงขุนนางจึงเขียนหนังสือลับกราบทูลว่า เหตุทั้งปวงนี้เพราะขันทีประพฤติล่วงพระราชอาญา จึงเกิดนิมิตให้พระองค์ปรากฎ

พระเจ้าเลนเต้เห็นหนังสือนั้น ทอดพระทัยอยู่มิได้ตรัสประการใด แล้วเสด็จลุกขึ้นผลัดฉลองพระองค์ใหม่ เทาเจียดขันทีเฝ้าอยู่หลังพระที่นั่งมองเห็นหนังสือนั้น จึงคิดอ่านกับพรรคพวกว่า จะหาความผิดข้อใหญ่ใส่โทษยีหลงให้ออกจากที่ขุนนาง แลพวกเทาเจียดขันทีซึ่งเปนผู้ใหญ่นั้นเก้าคน ชื่อเตียวต๋งหนึ่ง เตียวเหยียงหนึ่ง ฮองสีหนึ่ง ต๋วนกุยหนึ่ง เหาลำหนึ่ง เกียนสิดหนึ่ง เห้หุยหนึ่ง ก๊กเสงหนึ่ง เชียกง[๔]หนึ่ง เปนสิบคนทั้งเทาเจียด ถ้าขุนนางผู้ใดมิได้อยู่ในโอวาทก็ให้ถอดเสีย ผู้ใดอยู่ในบังคับบัญชานั้นก็ให้ยกตั้งแต่งขึ้น แลเทาเจียดกับพวกเก้าคนนั้นตั้งชื่อตัวเปนสิบเสียงสี แลพระเจ้าเลนเต้นั้นเชื่อถือถ้อยคำเตียวเหยียงเรียกเปนบิดาเลี้ยง ราชการกฎหมายแผ่นดินก็ผันแปรไป อาณาประชาราษฎรทั้งปวงได้ความเดือดร้อน เกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมภ์เปนอันมาก

ฝ่ายเมืองกิลกกุ๋นนั้น มีชายพี่น้องสามคน ชื่อเตียวก๊กหนึ่ง เตียวโป้หนึ่ง เตียวเหลียงหนึ่ง แลเตียวก๊กนั้นไปเที่ยวหายาบนภูเขา พบคนแก่คนหนึ่ง ผิวหน้านั้นเหมือนทารก จักษุนั้นเหลืองมือถือไม้เท้า คนนั้นพาเตียวก๊กเข้าไปในถํ้าจึงให้หนังสือตำราสามฉบับ ชื่อไทแผงเยาสุด แล้วว่าตำรานี้ท่านเอาไปช่วยทำนุบำรุงคนทั้งปวงให้อยู่เย็นเปนสุข ถ้าตัวคิดร้ายมิซื่อตรงต่อแผ่นดิน ภัยอันตรายจะถึงตัว เตียวก๊กกราบไหว้แล้วจึงถามว่าท่านนี้ชื่อใด คนแก่นั้นจึงบอกว่า เราเปนเทวดา บอกแล้วก็เปนลมหายไป

ฝ่ายเตียวก๊กก็กลับมาบ้าน จึงเรียนตามตำราทั้งกลางวันกลางคืน ก็เรียกลมเรียกฝนได้สาระพัดทุกประการ จึงตั้งตัวเปนโต๋หยิน แปลภาษาไทยว่าพราหมณ์มีความรู้ ครั้งนั้นห่าลงเมืองกิลกกุ๋น ชาวเมืองทั้งปวงเกิดความไข้ เตียวก๊กจึงเขียนเลขยันตร์ตามตำรา ไปแจกให้ชาวเมืองบำบัดความไข้ คนก็นับถือเตียวก๊กมาเปนศิษย์ให้สั่งสอนอยู่ประมาณร้อยเศษ เตียวก๊กจึงไปเที่ยวรักษาไข้ตามเมืองใหญ่น้อย คนทั้งปวงได้เลขยันตร์ซึ่งเตียวก๊กให้นั้น ความไข้อันตรายนั้นก็หาย ชาวเมืองทั้งนั้นก็นับถือไปอยู่เปนศิษย์เตียวก๊กทวีมากขึ้นทุกวัน เตียวก๊กครั้นมีศิษย์มากแล้ว จึงตั้งศิษย์ไว้เปนนายบ้านซ่องสามสิบตำบล ตำบลใหญ่คนประมาณหมื่นเศษ ตำบลน้อยมีคนประมาณหกพันเจ็ดพัน มีนายคุมไพร่มีธงสำหรับรบศึกทุกตำบล

เตียวก๊กตั้งตัวเปนจงกุ๋น แปลว่าพระยา แล้วจึงแต่งอุบายให้ปรากฎไปว่า แผ่นดินจะผันแปรปรวนไปแล้ว จะมีผู้มีบุญมาครองแผ่นดินใหม่บ้านเมืองจะเปนสุข แล้วให้เอาปูนขาวเขียนเปนอักษรไว้ที่ประตูบ้านเรือนสองตัว อักษรว่า ปีชวดบ้านเมืองจะเปนสุข แลเมืองเฉงจิ๋ว เมืองอิวจิ๋ว เมืองชิวจิ๋ว เมืองเกงจิ๋ว เมืองยังจิ๋ว เมืองกุนจิ๋ว เมืองอิจิ๋ว ชาวเมืองทั้งแปดเมืองนี้นับถือเขียนเอาชื่อเตียวก๊กไว้บูชาทุกบ้านเรือน เตียวก๊กจึงใช้ม้าอ้วนยี่เอาเงินทองไปให้ฮองสีขันทีเปนกำนัล แล้วม้าอ้วนยี่บอกความลับแก่ฮองสีขันทีว่า เตียวก๊กสั่งมาว่าให้ฮองสีช่วยทำการเปนไส้ศึกในเมือง แล้วเตียวก๊กจึงคิดอ่านกับน้องชายสองคนว่า ถ้าจะคิดอ่านการสิ่งใดเอาใจไพร่เปนประมาณ บัดนี้ชาวเมืองทั้งแปดเมืองก็รักใคร่นับถืออยู่ในโอวาทเราสิ้นแล้ว เมื่อการพร้อมฉนี้ ควรจะคิดเอาแผ่นดิน ครั้นจะมิคิดการบัดนี้ก็เสียดายดูมิควร น้องสองคนก็ยอมด้วย เตียวก๊กจึงซ่องสุมทหาร แลเครื่องศัสตราวุธพร้อมเตรียมไว้ ถึงกำหนดแล้วจะได้ทำการสดวก

แล้วเตียวก๊กจึงใช้ศิษย์คนหนึ่งชื่อตองจิ๋ว ถือหนังสือลับไปบอกฮองสี ตองจิ๋วมิได้เอาหนังสือนั้นไปให้ฮองสี เอาหนังสือนั้นไปให้ขุนนางกราบทูลพระเจ้าเลนเต้ ๆ จึงให้โฮจิ๋นขุนนางผู้ใหญ่ ยกกองทัพไปจับม้าอ้วนยี่ซึ่งเอาของกำนัลไปให้ฮองสีขันทีมาฆ่าเสีย จับฮองสีขันทีใส่คุกไว้

ฝ่ายเตียวก๊กครั้นรู้ข่าวก็ไปเตรียมทหารไว้พร้อม แล้วจึงตั้งตัวเปนเทียนก๋งจงกุ๋นแปลว่าเปนเจ้าพระยาสวรรค์ แล้วตั้งเตียวโป้ผู้น้องเปนแตก๋งจงกุ๋น แปลว่าเจ้าพระยาแผ่นดิน ตั้งเตียวเหลียงน้องผู้น้อยเปนยินก๋งจงกุ๋น แปลว่าเจ้าพระยามนุษย์ เตียวก๊กป่าวประกาศแก่ทหารแลไพร่พลทั้งปวงว่า เมืองพระเจ้าเลนเต้จะสาบสูญฉิบหายแล้ว ผู้มีบุญจะมาเสวยสมบัติใหม่ คนทั้งปวงจงทำตามคำเทวดาทำนายเถิด จะได้อยู่เย็นเปนสุขพร้อมมูลกัน

ไพร่พลทั้งปวงก็ยินดีด้วย เตียวก๊กให้เอาผ้าเหลืองโพกสีสะเปนสำคัญ คนประมาณสี่สิบห้าสิบหมื่น เตียวก๊กกับทหารทั้งปวงพร้อมใจกันเปนโจร หาผู้ใดจะต้านทานมิได้มีกำลังมากขึ้น โฮจิ๋นจึงเอาเนื้อความกราบทูลพระเจ้าเลนเต้ ๆ ให้มีตราไปทุกหัวเมืองว่า ถ้าผู้ใดมีฝีมือกล้าหาญให้ช่วยกันจับโจรโพกผ้าเหลือง ได้แล้วจะปูนบำเหน็จให้เปนขุนนาง แล้วสั่งจงลงเจียงทหารเอกหนึ่ง โลจิ๋นหนึ่ง ฮองฮูสงหนึ่ง จูฮีหนึ่ง ให้คุมทหารยกออกไปเปนสามด้าน ให้จับตัวเตียวก๊กจงได้

ฝ่ายเตียวก๊กยกทหารเข้าตีปลายแดนเมืองอิวจิ๋ว เล่าเอี๋ยนเจ้าเมืองอิวจิ๋วนั้นเปนชาวเมืองกังแฮ เปนเชื้อฮั่นโกโจเปนหลานหลังจงฮอง รู้ข่าวว่าโจรโพกผ้าเหลืองมาตีปลายแดนเมืองอิวจิ๋ว จึงให้หาเจาเจ้งนายทหารมาปรึกษา เจาเจ้งจึงว่าโจรมีกำลังมากนักทหารเมืองเราน้อย จำจะให้มีหนังสือไปเกลี้ยกล่อมป่าวร้องชาวเมืองซึ่งอยู่ปลายแดนว่า ถ้าผู้ใดกล้าหาญมีปัญญาจับโจรได้ จะบอกความชอบไปให้กราบทูลพระเจ้าเลนเต้ เล่าเอี๋ยนเห็นชอบด้วยจึงให้ทำตาม แล้วแต่งเปนหนังสือเกลี้ยกล่อมแจกไปทุกหัวเมือง ให้เจ้าเมืองเอาหนังสือปิดไว้ทุกประตูเมือง

แลเมืองตุ้นก้วนมีชายคนหนึ่งชื่อเล่าปี่ เมื่อน้อยชื่อเหี้ยนเต๊ก ก็ไม่สู้รักเรียนหนังสือแต่มีปัญญานํ้าใจนั้นดี ความโกรธความยินดีมิได้ปรากฎออกมาภายนอก ใจนั้นอารีย์นักมีเพื่อนฝูงมาก ใจกว้างขวาง หมายจะเปนใหญ่กว่าคนทั้งปวง กอปด้วยลักษณรูปใหญ่สมบูรณ์สูงประมาณห้าศอกเศษ หูยานถึงบ่า มือยาวถึงเข่า หน้าขาวดังสีหยก ฝีปากแดงดังชาดแต้ม จักษุชำเลืองไปเห็นหู แลเล่าปี่นั้นเปนบุตร์เล่าเหง เล่าเหงเปนเชื้อวงศ์พระเจ้าฮั่นเกงเต้ เล่าเหงตายยังแต่ภรรยา เล่าปี่ผู้บุตรมีกตัญญูรักษามารดามิให้อนาทร แลเล่าปี่กับมารดาเปนคนเข็ญใจไร้ทรัพย์ ทอเสื่อขายเลี้ยงชีวิต บ้านที่เล่าปี่อยู่นั้น ชื่อบ้านเล่าซองฉุนอยู่ใกล้เมืองตุ้นก้วน เรือนนั้นอยู่ริมต้นหม่อน ๆ นั้นสูงประมาณแปดวาเศษ กิ่งนั้นเปนพุ่มดังฉัตร์ มีหมอดูคนหนึ่งเดิรมาเห็นภูมิบ้านแลต้นหม่อนต้องตำรา จึงทายว่าบ้านนี้มีผู้มีบุญอยู่ เล่าปี่เมื่อยังเด็กอยู่นั้น เล่นกับลูกชาวบ้านทั้งปวง เล่าปี่จึงว่า ถ้ากูได้เปนเจ้ากูจะเอาต้นหม่อนต้นนี้ไปทำคันเศวตฉัตร์กั้น เล่าอ้วนกีผู้เปนอาว์ได้ยินเล่าปี่ว่าประหลาด จึงชมเล่าปี่ว่าจะมีบุญเปนมั่นคง เล่าอ้วนกีทำนุบำรุงให้เงินทองแก่เล่าปี่เนือง ๆ เมื่อเล่าปี่อายุได้สิบห้าปี มารดาจึงให้ไปเรียนหนังสือกับเต้เหี้ยนผู้เปนครู เล่าปี่นั้นมีเพื่อนสองคน ชื่อโลติดหนึ่ง กองซุนจ้านหนึ่ง เรียนหนังสืออยู่ด้วยกันจนอายุได้ยี่สิบห้าปี ขณะนั้นเล่าปี่เดิรไปเห็นหนังสือซึ่งปิดไว้ที่ประตูเมือง เล่าปี่คิดไปมิตลอดยืนดูหนังสือทอดใจใหญ่อยู่

มีคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังเล่าปี่แล้วว่า เปนผู้ชายไม่ช่วยทำนุบำรุงแผ่นดินแล้วสิมาทอดใจใหญ่ ฝ่ายเล่าปี่กลับหน้ามาดู เห็นผู้นั้นสูงประมาณห้าศอก สีสะเหมือนเสือ จักษุกลมใหญ่ คางพองโต เสียงดังฟ้าร้อง กิริยาดังม้าควบ เห็นผิดประหลาทจึงถามว่าท่านนี้ชื่อใด ผู้นั้นจึงตอบว่าเราชื่อเตียวหุยเอ๊กเต๊กบ้านอยู่ตุ้นก้วน เรามีทรัพย์สินไร่นาเปนอันมาก ทั้งร้านสุกรสุราก็มีขาย เราพอใจคบเพื่อนฝูงซึ่งมีสติปัญญา บัดนี้เห็นท่านดูหนังสือแล้วทอดใจใหญ่จึงทักจะใคร่รู้เนื้อความ เล่าปี่จึงว่าเราเปนเชื้อพระเจ้าฮั่นเกงเต้ชื่อเล่าปี่ ได้ยินข่าวว่าโจรโพกผ้าเหลืองมาทำอันตรายแผ่นดิน เราคิดจะใคร่อาสาแผ่นดินไปปราบโจร แต่ขัดสนด้วยกำลังน้อยทรัพย์ก็น้อยคิดไปมิตลอด จึงทอดใจใหญ่ เตียวหุยจึงว่าทรัพย์นั้นเรามีอยู่ เราจะคิดกันไปเกลี้ยกล่อมชาวเมืองซึ่งมีฝีมือกล้าหาญ ท่านกับเราจะยกออกไปจับโจรจะเห็นประการใด เล่าปี่ได้ฟังก็ดีใจจึงชวนเตียวหุยเข้าไปในร้านสุราซื้อสุราแล้วก็ชวนกัน นั่งกินอยู่

มีคนหนึ่งรูปร่างโตใหญ่ขับเกวียนมาถึงหน้าร้านสุราเข้าไปเรียกผู้ขายสุรา ว่า เอาสุรามาขายจงเร็ว เรากินแล้วจะรีบไปอาสาแผ่นดิน เล่าปี่เห็นผู้นั้นสูงประมาณหกศอกหนวดยาวประมาณศอกเศษ หน้าแดงดังผลพุทราสุก ปากแดงดังชาดแต้ม คิ้วดังตัวไหม จักษุยาวดังนกการะเวก เห็นกิริยาผิดประหลาทกว่าคนทั้งปวง เล่าปี่จึงชวนเข้าไปนั่งกันสุราด้วยแล้วถามว่าท่านนี้ชื่อไร ผู้นั้นจึงบอกว่าเราชื่อกวนอู อีกชื่อหนึ่งนั้นหุนเตี๋ยง บ้านเราอยู่เมืองฮอตั๋งไกเหลียง ที่เมืองฮอตั่งไกเหลียงนั้น มีคนๆหนึ่งมีทรัพย์มากร้ายกาจสามหาวข่มเหงคนทั้งปวง เราเห็นผิดนักเราจึงฆ่าผู้นั้นเสียแล้วหนีไปเที่ยวอยู่เปนหลายหัวเมือง บัดนี้เราได้ยินว่าเมืองนี้มีหนังสือเกลี้ยกล่อมป่าวร้องให้อาสาแผ่นดิน จับโจรโพกผ้าเหลือง เราจึงมาหวังจะอาสาแผ่นดิน เล่าปี่จึงตอบว่า เรากับเตียวหุยคิดต้องกันกับท่าน กวนอูได้ยินก็ดีใจ เตียวหุยจึงว่าเราทั้งสามคิดการต้องกัน เชิญท่านทั้งสองมาไปบ้านเรา ที่หลังบ้านเรามีสวนดอกไม้แล้วเปนที่สงัด ดอกยิโถก็บานอยู่เปนอันมาก จะได้บูชาพระแลเทวดา แล้วจะได้ให้สัตย์ต่อกันทั้งสามให้เปนน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะได้คิดการใหญ่สืบไป เล่าปี่กวนอูได้ยินก็ยินดี จึงชวนกันไปยังบ้านเตียวหุย ครั้นรุ่งขึ้นเตียวหุยจึงจัดม้าขาวกระบือดำแลธูปเทียนสิ่งของทั้งปวง แล้วชวนกันออกมายังสวนดอกไม้ จึงจุดธูปเทียนไหว้พระแลบูชาเทวดาแล้วจึงตั้งสัตย์สาบาลต่อกันว่า ข้าพเจ้าเล่าปี่กวนอูเตียวหุยทั้งสามคนนี้อยู่ต่างเมือง วันนี้ได้มาพบกัน จะตั้งสัตย์สบถเปนพี่น้องร่วมท้องกันเปนน้ำใจเดียวซื่อสัตย์ต่อกันสืบไปจน วันตาย จะได้ช่วยทำนุบำรุงแผ่นดินให้อยู่เย็นเปนสุข ถ้ามีภัยอันตรายสิ่งใดแลรบศึกเสียที ข้าพเจ้ามิได้ทิ้งกัน จะแก้กันกว่าจะตายทั้งสาม แลความสัตย์นี้ข้าพเจ้าได้สาบาลต่อหน้าเทวดาทั้งปวงจงเปนทิพย์พยาน ถ้าสืบไปภายหน้าข้าพเจ้าทั้งสามมิได้ซื่อตรงต่อกัน ขอให้เทวดาสังหารผลาญชีวิตให้ประจักษ์แก่ตาโลก จึงเรียกเล่าปี่เปนพี่เอื้อย กวนอูเปนน้องกลาง เตียวหุยเปนน้องสุด แลชาวบ้านซึ่งกล้าหาญนั้นมาเข้าเกลี้ยกล่อมด้วย เปนคนสามร้อยคน ก็กินโต๊ะเลี้ยงดูกันแล้ว จัดเครื่องศัสตราวุธเปนอันมากยังขัดสนแต่ม้า

จึงมีคนมาบอกเล่าปี่ว่า มีพ่อค้าม้าต้อนม้าเข้ามาในบ้านเรา เล่าปี่จึงออกไปรับพ่อค้าม้าสองคนเข้ามา คนหนึ่งชื่อเตียวสิเผง คนหนึ่งชื่อเล่าสง บอกเล่าปี่ว่าข้าพเจ้าค้าขายม้าเปนหลายปี มาปีนี้ไปขายม้าพบโจรกลางทางไปไม่ได้ ข้าพเจ้าจึงกลับมาเมืองนี้ เล่าปี่จึงชวนพ่อค้าม้าสองคนเข้าไปในบ้าน ให้แต่งโต๊ะเลี้ยงแล้วบอกว่า เราคิดกันจะไปจับโจรซึ่งทำจลาจลในแผ่นดิน เตียวสิเผงเล่าสงว่า ท่านคิดนี้ต้องกับข้าพเจ้าแล้ว จึงจัดแจงม้าห้าสิบม้ากับเงินห้าร้อยตำลึง เหล็กร้อยหาบให้เปนกำลัง เล่าปี่จึงขอบคุณพ่อค้าม้าทั้งสองคน แล้วหานายช่างมาตีเปนกระบี่สองเล่มสำหรับถือ ซึ่งกวนอูจะถือนั้นให้ช่างตีเปนง้าวเล่มหนึ่ง ยาวสิบเอ็ดศอกหนักแปดสิบสองชั่ง เตียวหุยถือนั้นให้ตีเปนทวนเล่มหนึ่ง ยาวสิบศอกหนักแปดสิบห้าชั่ง แล้วให้ทำเครื่องเกราะแลอานม้า สำหรับรบครบทั้งสามนาย แล้วจึงเกลี้ยกล่อมชาวบ้านที่มีฝีมือกล้าแข็งได้ห้าร้อยคนจึงพาไปหาเจาเจ้ง ๆ จึงพาไปหาเล่าเอี๋ยนผู้เปนเจ้าเมือง ทั้งสามพี่น้องจึงคำนับแล้วบอกชื่อแลแซ่ เล่าเอี๋ยนได้ยินว่าเปนแซ่เดียวกันก็ยินดีนัก จึงรับไว้เปนหลานชาย

ครั้นอยู่มาหลายวัน จึงมีคนถือหนังสือบอกเข้ามาว่า โจรโพกผ้าเหลืองทหารเอกชื่อเทียอ้วนจี้ คุมพลประมาณห้าหมื่น ยกเข้ามาแดนเมืองตุ้นก้วน เล่าเอี๋ยนจึงสั่งเจาเจ้ง ให้หาตัวเล่าปี่กวนอูเตียวหุยมา แล้วให้คุมพลห้าร้อยยกออกไปจับโจร เล่าปี่กวนอูเตียวหุยยินดีนัก ก็ยกทหารห้าร้อยออกไปถึงตำบลเขาไทเหียงสัน แลไปเห็นพวกโจรยกมาเปนอันมาก แลพวกโจรนั้นมิได้เกล้ามวย กระจายผมเอาแต่ผ้าเหลืองโพกสีสะทั้งสิ้น เล่าปี่จึงให้ตั้งค่ายลงไว้ แล้วขับม้าออกไปหน้าทหาร แลฝ่ายขวานั้นม้ากวนอู ฝ่ายซ้ายนั้นม้าเตียวหุย เล่าปี่จึงเอาแซ่ม้าชี้หน้าด่าพวกโจรว่าอ้ายพวกขบถ เทียอ้วนจี้โกรธนักจึงใช้ทหารเอกชื่อเตงเมาขี่ม้าออกไปรบ เตียวหุยถือทวนยาวสิบศอกขับม้าเข้ารบกับเตงเมา เตียวหุยรำเพลงทวนแทงถูกอกเตงเมาตกม้าตาย

เทียอ้วนจี้โกรธนักถือง้าวขับม้าออกจะรบด้วยเตียวหุย กวนอูเห็นจึงขับม้าผ่านหน้าม้าเตียวหุยออกมาจะรบ เทียอ้วนจี้เห็นรูปกวนอูก็ตกใจเสียที กวนอูเอาง้าวฟันเทียอ้วนจี้ตัวขาดออกเปนสองท่อน พวกโจรทั้งนั้นก็แตกกระจายไปสิ้น เล่าปี่จึงขับทหารเข้าไล่จับพวกโจรได้เปนอันมาก แล้วยกทหารกลับมาเมืองตุ้นก้วน

ฝ่ายเล่าเอี๋ยนครั้นรู้ข่าวก็ออกไปรับเล่าปี่ถึงประตูเมือง แล้วพากันกลับเข้ามา จึงปูนบำเหน็จพวกทหารตามสมควร ครั้นรุ่งขึ้นม้าใช้ถือหนังสือสิบเกงเจ้าเมืองเฉงจิ๋วมาถึงเจ้าเมือง ตุ้นก้วนว่า บัดนี้มีโจรโพกผ้าเหลืองยกมาล้อมเมืองเฉงจิ๋วจะขอกองทัพไปช่วย เล่าเอี๋ยนจึงหาเล่าปี่มาปรึกษา เล่าปี่ว่าข้าพเจ้าแลน้องข้าพเจ้าจะขออาสายกไปช่วยเมืองเฉงจิ๋ว เล่าเอี๋ยนมีความยินดี จึงสั่งเจาเจ้งให้คุมทหารห้าพันยกไปกับเล่าปี่กวนอูเตียวหุย เล่าปี่กับเจาเจ้งยกทหารมาถึงเมืองเฉงจิ๋ว พวกโจรเห็นกองทัพยกออกมาก็เข้าตี

ฝ่ายเล่าปี่เจาเจ้งทหารน้อยจึงถอยทัพออกมา แล้วปรึกษากันกับกวนอูเตียวหุยว่า ทหารเราน้อยกว่าพวกโจร เราจะคิดเปนกลศึกจึงจะเอาชัยชนะได้ แล้วเล่าปี่ให้กวนอูคุมทหารพันหนึ่ง ไปซุ่มอยู่ตำบลเขาข้างซ้ายทาง ให้เตียวหุยคุมทหารพันหนึ่ง ไปซุ่มอยู่ข้างขวาทาง กำหนดว่าถ้าได้ยินเสียงม้าฬ่อแล้วเมื่อใด ให้ยกทหารตีกระหนาบเข้ามาทั้งสองข้าง กวนอูเตียวหุยก็ยกไปตามสั่ง ครั้นรุ่งขึ้นเล่าปี่กับเจาเจ้งยกทหารไปตามทางซึ่งกวนอูเตียวหุยซุ่มอยู่ นั้น

ฝ่ายพวกโจรก็รุกไล่เล่าปี่มา เล่าปี่ก็ให้ถอยทัพมาถึงภูเขาซึ่งซุ่มทหารอยู่นั้น แล้วให้ตีม้าฬ่อสัญญาขึ้น ฝ่ายกวนอูเตียวหุยซึ่งคุมทหารอยู่นั้น ก็ยกตีกระหนาบออกมาทั้งสองข้าง เล่าปี่ก็ขับทหารตีเปนหน้ากระดานขึ้นไป

ฝ่ายทัพโจรเสียทีก็แตกหนีเข้ามาชาลกำแพงเมืองเฉงจิ๋ว ทัพเล่าปี่กวนอูเตียวหุยก็ไล่ตีกระหนาบพวกโจรมา สิบเกงเจ้าเมืองเฉงจิ๋วเห็น จึงยกทหารออกตีกระหนาบเปนสี่ด้าน พวกโจรนั้นระส่ำระสายเจ็บป่วยล้มตายเปนอันมาก ก็แตกหนีไปสิ้น สิบเกงจึงปูนบำเหน็จทหารเล่าปี่ตามสมควร แล้วเจาเจ้งว่าเราจะยกทหารกลับไปเมืองตุ้นก้วน

เล่าปี่จึงว่า ได้ยินข่าวว่าโลติดผู้เปนตงลงเจียงเปนทหารเอกพระเจ้าเลนเต้รบกับเตียวก๊กนาย โจรอยู่ตำบลเมืองกงจ๋ง ข้าพเจ้าจะขอทหารไปรบพวกโจร เจาเจ้งจึงจัดทหารให้เล่าปี่ห้าร้อย เจาเจ้งก็ยกทหารสี่พันห้าร้อยกลับมาเมืองตุ้นก้วน ฝ่ายเล่าปี่กวนอูเตียวหุยก็ยกไปถึงเมืองกงจ๋ง แล้วชวนกันไปหาโลติด จึงเอาข้อราชการซึ่งได้รบโจรนั้นแจ้งแก่โลติด ๆ ยินดีนัก จึงว่าท่านทั้งสามอยู่ทำราชการด้วยเราเถิด

ฝ่ายเตียวก๊กมีพวกโจรประมาณสิบห้าหมื่น โลติดนั้นมีทหารประมาณห้าหมื่น แลทัพโลติดกับเตียวก๊กตั้งค่ายประชิดกันอยู่ยังมิได้แพ้ชนะกัน โลติดจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า เตียวโป้เตียวเหลียงผู้น้องเตียวก๊กนั้น คุมโจรไปรบกับฮองฮูสงแลจูฮีอยู่ ณ เมืองเองฉวน เราจะเกณฑ์ทหารให้พันหนึ่งกับทหารของท่านนั้น จงยกไปช่วยฮองฮูสงจูฮี ณ เมืองเองฉวน แล้วให้สืบเอาข่าวราชการหนักเบามาจงได้ เล่าปี่รับคำแล้วยกทหารรีบไปทั้งกลางวันกลางคืน

ฝ่ายฮองฮูสงกับจูฮีนั้นแต่งทหารออกรบกับพวกโจรยังมิได้แพ้ชนะกัน พ้นเวลาแล้วเตียวโป้เตียวเหลียงให้ทหารถอยเข้ามาที่มั่น แล้วให้เอาฟางทำซุมรุมขึ้นในค่าย ฝ่ายฮองฮูสงกับจูฮีรู้จึงปรึกษากันว่า บัดนี้พวกโจรเอาฟางทำซุมรุมขึ้นในค่าย เราจะคิดเอาเพลิงเผาค่ายพวกโจรเสียจงได้ จึงให้ทหารมัดหญ้าคนละมัด ให้ขุดอุโมงค์เข้าไปถึงริมค่ายโจร ให้เอาหญ้าไปกองซุ่มไว้ตามริมค่าย ครั้นเวลากลางคืนประมาณสองยามเกิดลมพายุใหญ่พัดหนัก ทหารทั้งปวงได้ทีให้สัญญาพร้อมกันแล้ว จุดเพลิงระดมเผาค่ายโจรไหม้ขึ้นสิ้น แสงเพลิงดุจกลางวัน พวกโจรทั้งปวงตกใจมิทันใส่เกราะแลผูกอานม้า ก็แตกกระจายหนีเพลิงวุ่นวายอยู่ ฮองฮูสงจูฮีขับทหารเข้าไล่แทงฟันพวกโจรป่วยเจ็บล้มตายเปนอันมาก

ครั้นรุ่งขึ้น เตียวโป้ เตียวเหลียง กับพวกโจรซึ่งเหลือนั้นก็ชวนกันหาทางที่จะหนีเอาชีวิตรอด จึงไปพบทัพหนึ่งธงแดงทั้งทัพ ทหารกองหน้าเข้าสกัดพวกโจรไว้มิให้หนีได้ แลนายทัพนั้นชื่อโจโฉ สูงประมาณห้าศอก จักษุเล็ก หนวดยาว เปนบุตรโจโก๋ แลโจโฉเมื่อน้อยนั้นมักพอใจไปเล่นป่ายิงเนื้อ มักพอใจฟังร้องรำทำเพลงมีปัญญาความคิดรวดเร็ว ฝ่ายว่าโจเต๊กนั้นเห็นโจโฉเปนนักเลงไม่ทำมาหากิน ก็มีใจชังเปนอันมาก จึงเดิรไปจะเอาเนื้อความบอกโจโก๋ผู้พิ่ โจโฉเห็นว่าอาว์ชังอยู่จะเอาเนื้อความไปบอกบิดา โจโฉทำมีอันเปนล้มลง อาว์เห็นจึงร้องบอกโจโก๋ว่าโจโฉมีอันเปน โจโก๋ตกใจว่าบุตรมีอันเปนก็วิ่งมาดู โจโฉลุกขึ้นเล่นปรกติอยู่ โจโก๋จึงว่าอาว์เองไปบอกว่าเองมีอันเปน บัดนี้หายแล้วหรือ โจโฉจึงว่าแต่น้อยมาข้าหาเจ็บป่วยสิ่งใดไม่ เพราะอาว์ชังข้าจึงเอาความมิดีมาใส่ แต่นั้นไปโจโก๋ก็เชื่อคำโจโฉ ถึงอาว์จะเอาความสิ่งใดมาบอกโจโก๋มิได้เชื่อคำน้องชาย โจโฉยิ่งกำเริบใจเล่นหัวหยาบช้าไปกว่าแต่ก่อน เพื่อนเล่นทั้งปวงพูดจายกยอโจโฉว่า แผ่นดินบัดนี้เปนจลาจลอยู่ หาผู้ใดซึ่งมีสติปัญญาจะปราบปรามอันตรายให้อยู่เย็นเปนสุขไม่ เราทั้งปวงเห็นแต่ท่านมีสติปัญญา จะคิดอ่านปราบปรามให้แผ่นดินเปนสุขได้ แลเมืองลำหยงนั้นมีคนหนึ่งชื่อโหเง้า ว่าแก่คนทั้งปวงว่า แผ่นดินเมืองหลวงนั้นจะสูญเสียแล้ว ซึ่งจะปราบแผ่นดินให้ราบนั้นเห็นแต่โจโฉผู้เดียว แลในเมืองหลิหลำมีหมอคนหนึ่งชื่อเขาเฉียวรู้ดูลักษณคน โจโฉจึงไปหาเขาเฉียวถามว่า ข้าพเจ้านี้สืบไปภายหน้าเห็นดีชั่วประการใด เขาเฉียวนิ่งอยู่ โจโฉจึงถามซ้ำไปอีก เขาเฉียวจึงว่าท่านมีปัญญามาก จะป้องกันแผ่นดินได้อยู่ แต่มิได้สัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน จะเปนศัตรูราชสมบัติ โจโฉหัวเราะชอบใจ ครั้นอายุโจโฉได้ยี่สิบปี จึงเข้าไปทำราชการฝ่ายทหารในเมืองลกเอี๋ยง โจโฉจึงให้เอาไม้สำคัญห้าสิบไปปักไว้ทั้งสี่ประตูเมือง ห้ามมิให้คนเดิรกลางคืน ถ้าเดิรไปมาผิดประหลาทให้จับเอาตัวมาทำโทษ ครั้นกลางคืนวันหนึ่งโจโฉไปตระเวนพบเอาขันทีเดิรมาผิดเวลา โจโฉให้จับเอาตัวมาตีสิบห้าที แลโจโฉนั้นทำราชการเข้มแข็งขึ้นทุกวัน คนทั้งปวงยำเกรงเปนอันมาก พระเจ้าเลนเต้จึงตั้งให้เปนตุนขิวเหล็ง ครั้นพวกโจรโพกผ้าเหลืองกำเริบจลาจลขึ้นในเมืองเองฉวน พระเจ้าเลนเต้จึงให้โจโฉเลื่อนที่เปนโตะอุ๋ยให้คุมทหารห้าพันยกไปช่วยเมือง เองฉวน จึงพบเตียวโป้เตียวเหลียงกับพวกโจรที่เหลือตายแตกหนีมานั้น โจโฉจึงรบสกัดไว้ ฆ่าพวกโจรเสียประมาณหมื่นเศษ ทหารโจโฉได้ม้าแลเครื่องศัสตราวุธเปนอันมาก แต่ตัวเตียวโป้เตียวเหลียงนั้นหนีได้ โจโฉจึงเข้าไปหาฮองฮูสงจูฮีบอกข้อราชการแล้ว โจโฉขอเอาทหารไปตามเตียวโป้เตียวเหลียง

ฝ่ายเล่าปี่กวนอูเตียวหุยยกมาถึงเมืองเองฉวน ได้ยินเสียงรบพุ่งกันแล้วแลเห็นแสงเพลิงสว่าง จึงเร่งทหารรีบไปจะช่วย พอมาถึงเข้าพวกโจรนั้นก็แตกไป เล่าปี่จึงพากวนอูเตียวหุยเข้าไปหาฮองฮูสงจูฮี แล้วบอกว่าโลติดให้ข้าพเจ้ามาช่วยราชการท่าน ฮองฮูสงจูฮีว่าขอบใจนักแล้วบอกว่า บัดนี้เตียวโป้เตียวเหลียงแลพวกโจรนั้นแตกแล้ว เราเห็นเตียวโป้เตียวเหลียงจะหนีไปหาเตียวก๊กผู้พี่ ณ เมืองจงก๋ง ถ้าท่านเร่งยกทหารรีบตามก้าวสกัดเห็นจะได้ตัว เล่าปี่กวนอูเตียวหุยก็ลายกทหารกลับไป ถึงกลางทางพอพบข้าหลวงคุมคนโทษขังกรงใส่เกวียนมา จึงแลไปเห็นโลติดจำขังอยู่ในกรง เล่าปี่ตกใจโจนลงจากม้าเข้าไปถามโลติดว่าเหตุใดจึงเปนโทษฉนี้ โลติดบอกว่าเราล้อมเตียวก๊กไว้จะใกล้แตกอยู่แล้ว เตียวก๊กมีความรู้เปนอันมากจะเอาโดยเร็วยังมิได้ พระเจ้าเลนเต้จึงใช้จูฮงชาววังมาสืบข่าวราชการ จูฮงจะเอาของกำนัลสินบนแก่เรา ๆ จึงว่าในกองทัพนี้ก็ขาดสเบียงอยู่ เราจะมีสิ่งใดให้สินบนเล่า จูฮงโกรธกลับไปทูลกล่าวโทษว่าเรานี้มิได้มีใจรบพุ่ง ราชการจึงเนิ่นช้าอยู่ พระเจ้าเลนเต้จึงให้ตั๋งโต๊ะมาเปนนายทัพแทนเรา แล้วให้จำเราใส่กรงส่งไปเมืองหลวง เตียวหุยได้ยินก็โกรธชักดาบออกจะฆ่าผู้คุมเสีย จะถอดโลติดออกจากกรง เล่าปี่จึงห้ามว่าอย่าทำ เนื้อความนี้เปนข้อรับสั่งอยู่ จะทำแต่อำเภอใจด้วยโกรธนั้นไม่ได้ กวนอูจึงว่าบัดนี้โลติดสิเปนโทษแล้ว คนอื่นมาเปนนายทัพซึ่งจะทำราชการด้วยนั้นเห็นจะพึ่งพาอาศรัยขัดสน ถึงจะมีความชอบก็กลับเปนผิดเหมือนโลติดฉนี้ เราจะกลับไปเมืองตุ้นก้วนดีกว่า เล่าปี่เห็นชอบด้วยก็ยกไปเมืองตุ้นก้วน ยกมาทางสองวันแล้วได้ยินเสียงโห่ร้องข้างหลังเขา เล่าปี่จึงพากวนอูเตียวหุยควบม้าขึ้นไปดูบนเขาแลไปเห็นทัพหลวงแตก พวกโจรโพกผ้าเหลืองไล่มา เล่าปี่เห็นธงสำคัญจึงรู้ว่าทัพเตียวก๊กไล่ทัพตั๋งโต๊ะมา เล่าปี่กวนอูเตียวหุยจึงลงไปช่วยรบ ทัพเตียวก๊กกลับแตกหนีไปทางประมาณห้าร้อย ตั๋งโต๊ะจึงได้กลับไปค่าย แล้วให้หาเล่าปี่กวนอูเตียวหุยมาถามว่า ตัวนี้เปนขุนนางตำแหน่งใด เล่าปี่บอกว่า ข้าพเจ้าจะได้เปนตำแหน่งที่ขุนนางนั้นหามิได้ ตั๋งโต๊ะได้ยินดังนั้นทำกิริยาดูหมิ่นมิได้นับถือ เล่าปี่กวนอูเตียวหุยก็ลาออกมา เตียวหุยจึงว่าเราพี่น้องสามคนช่วยเอาชีวิตมันไว้รอดมันก็ไม่รู้คุณเรา กลับทำหยาบช้าดูหมิ่น ชอบแต่ฆ่าเสียจึงจะหายความแค้น แล้วจับดาบจะไปฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย เล่าปี่กวนอูห้ามว่าอย่าทำเขาเปนข้าหลวง เตียวหุยตอบว่าถ้าไม่ฆ่ามันเสียเราจะต้องอยู่ให้มันใช้ มันจะดูถูกยิ่งกว่านี้ เพราะมันมีอาญาสิทธิ์ พี่ทั้งสองจะอยู่ก็อยู่เถิดข้าจะลาไปหาที่พึ่งอื่นแล้ว เล่าปี่กวนอูจึงว่าเราพี่น้องทั้งสามคนเปนกระไรก็เปนด้วยกัน ซึ่งจะพลัดกันนั้นไม่ควร จะไปไหนต้องไปด้วยกัน เตียวหุยจึงว่าถ้าดังนั้นจะค่อยคลายความแค้น แล้วเล่าปี่กวนอูเตียวหุยก็ยกทหารกลับไปหาจูฮี ณ เมืองเองฉวน ให้ทหารรีบเดิรทั้งกลางวันกลางคืน ครั้นถึงก็พากันเข้าไปหาจูฮี แล้วเล่าข้อราชการทั้งปวงให้จูฮีฟังสิ้น จูฮีรักใคร่นับถือเล่าปี่กวนอูเตียวหุย เอาไว้เปนกองเดียวกัน จูฮีจึงว่าตั๋งโต๊ะนั้นบ้านอยู่ ณ เมืองหลวง ลายลิมโหย่เปนขุนนางชื่อฮ่องโต๋งทายสิว แลตั๋งโต๊ะนั้นมิได้รู้การหนักเบา มิได้รู้จักคนดีแลชั่วมีแต่ถือตัว ซึ่งท่านจะอยู่ด้วยนั้นหาประโยชน์มิได้

ฝ่ายโจโฉซึ่งไปตามเตียวโป้เตียวเหลียง ครั้นไม่พบแล้วก็กลับมาหาฮองฮูสง ณ เมืองเองฉวน เข้าทำราชการกองเดียวกันกับฮองฮูสง ๆ กับโจโฉ ครั้นรู้ข่าวว่าเตียวเหลียงอยู่ ณ เมืองโฉเหียง จึงยกทหารไปรบเตียวเหลียง ฝ่ายเตียวโป้นั้นไปตั้งอยู่ตำบลหลังเขาแห่งหนึ่ง มีพวกโจรอยู่ประมาณแปดหมื่นเก้าหมื่น

จูฮีครั้นรู้ข่าวจึงให้เล่าปี่กวนอูเตียวหุยเปนทัพหน้า จูฮีเปนทัพหลวง ยกทหารมารบเตียวโป้ ฝ่ายเตียวโป้จึงใช้โกเสงคุมพวกโจรออกมารบกับทัพหน้า เล่าปี่จึงให้เตียวหุยออกรบด้วยโกเสง ยังมิทันได้สามเพลงเตียวหุยเอาทวนแทงถูกโกเสงตกม้าตาย พวกโจรทั้งนั้นก็แตกไป เล่าปี่ขับทหารเข้าไล่ตีพวกโจร เตียวโป้จนความคิดจึงเสกคาถาให้เปนเมฆมืดอากาศฟ้าร้องลมพายุพัดหนักฝนตกแล้ว มีคนขี่ม้าถืออาวุธลงมาแต่อากาศ ทหารเล่าปี่เห็นก็ตกใจ เล่าปี่จึงให้ถอยทัพมาปรึกษากับจูฮี ๆ จึงว่าเขาทำด้วยความรู้ เราจะให้ทหารเอาของโสโครกขึ้นไปซ่อนไว้บนเขา ถ้าทำดังนี้อีกให้ทหารสาดเอาความรู้ก็จะเสื่อมไป เล่าปี่จึงให้กวนอูเตียวหุยคุมทหารคนละพัน เอาของโสโครกขึ้นไปไว้บนเขาทั้งสองข้างซึ่งกระหนาบทางที่จะรบกันนั้น ครั้นรุ่งขึ้นเตียวโป้ยกพวกโจรออกมา เล่าปี่ยกทหารออกโจมตีพวกโจร เตียวโป้จึงเสกคาถาเปนเมฆมืดฟ้าร้องลมพัดหนักฝนตก เปนคนขี่ม้าถืออาวุธลงมาจากอากาศเปนอันมาก เล่าปี่เห็นก็ทำถอยทัพมา เตียวโป้ก็ขับพวกโจรไล่ทหารเล่าปี่มาถึงเขากระหนาบสองข้างทาง กวนอูเตียวหุยจึงให้ทหารเอาของโสโครกแลโลหิตสุกรสุนัขนั้นสาดไปถูกพวกโจร แลคนขี่ม้าซึ่งลงมาแต่อากาศนั้นก็กลายเปนกระดาษ ม้านั้นก็กลายเปนมัดหญ้าไป เมฆแลฝนลมนั้นก็หายสว่างไป เตียวโป้เห็นเขาแก้ความรู้ได้ก็ถอยทัพมา จูฮีเล่าปี่ยกทหารตามรบไปจนถึงเขาทั้งสองนั้น ฝ่ายกวนอูเตียวหุยซึ่งอยู่บนเขาก็ยกทหารลงรบกระหนาบทั้งสองข้าง ทัพเตียวโป้แตกหนี เล่าปี่ยกทหารตามจึงแลไปเห็นมีหนังสือชื่อเตียวโป้ เตียวโป้นั้นหนีเข้าในป่า เล่าปี่เอาเกาทัณฑ์ตามยิงถูกไหล่ซ้ายเตียวโป้ ลูกเกาทัณฑ์ติดไหล่ไป เตียวโป้จึงหนีเข้าในเมืองเยียงเซียแล้วปิดประตูเมืองไว้ จูฮีกับเล่าปี่ขับทหารเข้าล้อมเมืองไว้ แล้วจึงเกณฑ์ทหารให้ไปสืบข่าวฮองฮูสงที่ไปรบเตียวเหลียง พอม้าใช้มาบอกแก่จูฮีเล่าปี่ว่า บัดนี้ฮองฮูสงยกพลไปรบกับเตียวก๊ก ๆ ตายก่อนแล้ว เตียวเหลียงผู้น้องเตียวก๊กคุมพลออกไปรบกับฮองฮูสง ๆ รบเตียวเหลียงแตกถึงเจ็ดครั้ง ครั้งหลังฮองฮูสงฟันเตียวเหลียงตายที่เมืองโฉหยงแล้ว แลพรรคพวกเตียวเหลียงนั้นมาเข้าเกลี้ยกล่อมเปนอันมาก ฮองฮูสงจึงคุมเอาพรรคพวกเตียวก๊กกับศพเตียวก๊กขึ้นไปถวายพระเจ้าเลนเต้ ๆ จึงเลื่อนที่ให้ฮองฮูสงเปนที่ติจงกุ๋น แปลว่าทหารสำหรับรักษาพระองค์ ให้กินเมืองบุยจิ๋วด้วย แล้วฮองฮูสงกราบทูลพระเจ้าเลนเต้ว่า โลติดนั้นมีความชอบในสงคราม จะได้มีความผิดเหมือนจูฮงกราบทูลนั้นหามิได้ พระเจ้าเลนเต้จึงให้ถอดโลติดออกพ้นโทษ แล้วจะให้คงที่ดังก่อน ฝ่ายโจโฉนั้นมีความชอบจึงโปรดให้ไปกินเมืองเจลำเซียง จูฮีเล่าปี่ซึ่งล้อมเมืองเยียงเซียอยู่ รู้ว่าทหารผู้ใหญ่ผู้น้อยมีความชอบให้ไปกินเมืองเปนหลายตำบล จึงเร่งทหารเข้าตีเมืองเยียงเซียจะใกล้ได้อยู่แล้ว ลำแจ้งนายทหารโจรจึงคิดอ่านกับพวกโจรทั้งปวงลอบฆ่าเตียวโป้ผู้นายเสีย แล้วตัดสีสะออกมาให้จูฮีเล่าปี่ถึงนอกเมือง ตัวนั้นก็ยอมเข้าเกลี้ยกล่อมทำราชการด้วย จูฮีมีความยินดีนัก จึงแต่งหนังสือซึ่งได้ทำราชการมีความชอบนั้นบอกขึ้นไปกราบทูลพระเจ้าเลนเต้

ฝ่ายเตียวฮ่องฮั่นต๋งซุนต๋องทหารเตียวก๊ก ครั้นเตียวก๊กตายแล้วก็ซ่องสุมพวกโจรได้หลายหมื่น ยกไปเที่ยวปล้นตีบ้านเมืองเผาเสียเปนหลายเมือง ม้าใช้จึงเอาเนื้อความไปบอกให้กราบทูลพระเจ้าเลนเต้ ๆ จึงให้มีตราไปถึงจูฮีให้จัดทหารที่มีฝีมือยกไปจับพวกโจร จูฮีจึงจัดทหารยกไปล้อมเมืองอ้วนเซียด้านตวันออก ให้เล่าปี่กวนอูเตียวหุยล้อมด้านตวันตก ฝ่ายเตียวฮ่องแต่งให้ฮั่นต๋งคุมทหารออกไปรบด้านซึ่งเล่าปี่ล้อมอยู่นั้น จูฮีคุมทหารเอกสองพันเข้ารบกระหนาบ ฝ่ายพวกโจรเหลือกำลังก็หนีกลับเข้าเมือง เล่าปี่แลทหารทั้งปวงตามตีเข้าไปจนถึงเชิงกำแพงล้อมเมืองไว้รอบ พวกโจรอยู่ในเมืองขัดสนด้วยสเบียงอาหาร ฮั่นต๋งจึงใช้ทหารออกมาหาจูฮี ขอเข้าเกลี้ยกล่อมด้วยจูฮี จูฮีไม่รับ เล่าปี่จึงว่าครั้งพระเจ้าฮั่นโกโจได้ราชสมบัตินั้น เพราะมีผู้มาเข้าเกลี้ยกล่อมเปนอันมาก เหตุไฉนท่านจึงไม่รับเกลี้ยกล่อมฮั่นต๋ง จูฮีตอบว่า ครั้งพระเจ้าฮั่นโกโจนั้น บ้านเมืองมิได้ปรกติมีเสี้ยนหนามเปนอันมาก พระเจ้าฮั่นโกโจจึงรับเกลี้ยกล่อมคนทั้งปวง ครั้งนี้มีจลาจลแต่โจรพวกเดียว ครั้นจะเอาพวกโจรเข้าไว้ในเกลี้ยกล่อม คนทั้งปวงก็จะดูเยี่ยงอย่างว่าทำผิด แลถ้ามีผู้มาปราบปรามก็จะละพยศอันร้ายเสีย นานไปก็จะรื้อทำความชั่วไปอีก เล่าปี่จึงตอบว่าควรแล้ว แลซึ่งเราล้อมเมืองไว้นี้ก็รอบทั้งสี่ด้าน เมืองก็จวนจะเสียอยู่แล้ว อันพวกโจรก็เปนชายชาติทหาร อุปมาเหมือนสุนัขจนตรอก ไหนจะนิ่งให้ทหารเราจับโดยง่าย คงจะรบเปนสามารถ ทหารเราก็จะเสียบ้าง พวกโจรก็จะเสียบ้าง เหมือนเอาพิมเสนไปแลกเกลือ ขอให้ยกทหารด้านตวันออกเสีย เปิดให้พวกโจรออกไป จึงค่อยตามจับเอาเห็นจะได้สดวก จูฮีเห็นชอบด้วย สั่งทหารให้เลิกด้านตวันออกเสียแล้วมารุมตี ฮั่นต๋งจึงยกพลหนีออกจากเมืองด้านตวันออก จูฮีเล่าปี่กวนอูเตียวหุยสี่นายคุมทหารไล่ไป แล้วยิงเกาทัณฑ์ไปถูกฮั่นต๋งตาย ทหารทั้งนั้นก็แตกไป

จูฮีเล่าปี่กวนอูเตียวหุยสี่นายพบเตียวฮ่องซุนต๋งซึ่งเปนพวกฮั่นต๋งนั้น คุมทหารขวางหน้าเข้ารบจูฮี ๆ เห็นพลเตียวฮ่องมากนักก็ถอยกลับมา เตียวฮ่องซุนต๋งก็ไล่รบไปชิงคืนเอาเมืองได้ จูฮีก็ถอยไปตั้งค่ายมั่นทางไกลเมืองประมาณร้อยหนึ่ง จูฮีคิดจะยกเข้ารบเอาเมืองอ้วนเซียอีก พอแลไปเห็นทหารพวกหนึ่งยกมาทางตวันออก แลนายทหารซึ่งยกมานั้นชื่อซุนเกี๋ยนกิริยาเหมือนเสือ หน้าผากใหญ่หน้ายาวเกิด ณ เมืองต๋องง่อ แลซุนเกี๋ยนเมื่ออายุสิบเจ็ดปีนั้น ไปเมืองเจียนต๋องกับบิดา ครั้นถึงปากนํ้าเมืองเจียนต๋อง พบโจรสิบคนตีชิงลูกค้าเอาของมาปันกันอยู่บนบก ซุนเกี๋ยนจึงว่าแก่บิดาว่า โจรเหล่านี้หยาบช้านักข้าจะขึ้นไปจับตัวให้ได้ แล้วซุนเกี๋ยนก็เดิรขึ้นไปทำอาการดุจดังขุนนางเรียกบ่าวไพร่ทั้งปวงอื้ออึง ฝ่ายโจรสิบคนเห็นก็ตกใจทิ้งของเสียวิ่งหนีไป ซุนเกี๋ยนไล่ตามฆ่าโจรตายคนหนึ่ง เก้าคนนั้นหนีไปได้ กิตติศัพท์ทั้งนี้ก็รู้ไปถึงเจ้าเมืองเจียนต๋อง ๆ จึงเอาตัวเข้าไปตั้งให้เปนนายทหาร

อยู่มาหือฉงเปนขบถคุมพลได้หลายหมื่น ตั้งตัวเปนเจ้าชื่อว่าเจ้ายังเป๋ง แลผู้รักษาเมืองกับซุนเกี๋ยนรู้ จึงเกลี้ยกล่อมชาวเมืองซึ่งกล้าแขงได้พันเศษ จึงไปรบที่เมืองหือฉงฟันหือฉงกับลูกหือฉงตาย ผู้รักษาเมืองจึงบอกหนังสือความชอบขึ้นไปกราบทูลพระเจ้าเลนเต้ให้แก่ซุน เกี๋ยน ครั้นอยู่มาพวกโจรโพกผ้าเหลืองคุมพวกเพื่อนเที่ยวตีบ้านเมืองกำเริบใหญ่หลวง ขึ้น ฝ่ายซุนเกี๋ยนรู้ข่าวว่าจูฮีจะปราบโจรทั้งปวงมีความยินดีนัก จึงเกลี้ยกล่อมชาวบ้านชาวเมือง กับทหารเมืองอ้วนเซียทั้งสองเหล่า ได้คนประมาณพันห้าร้อยแล้วยกมา ซุนเกี๋ยนมาถึงจูฮีแล้วบอกแก่จูฮีว่าข้าพเจ้าจะขออาสาปราบโจร จูฮีมีความยินดีนัก จึงจัดทหารทั้งปวงแล้วให้เล่าปี่ยกเข้าตีด้านเหนือ ให้ซุนเกี๋ยนยกเข้าตีด้านใต้ แล้วจูฮีนั้นยกเข้าตีด้านตวันตกเมืองอ้วนเซีย ไว้ช่องแต่ด้านตวันออก แลซุนเกี๋ยนนั้นปีนกำแพงเมืองอ้วนเซียเข้าไปไล่ฟันพวกโจรบนเชิงเทินตาย ยี่สิบเศษ แลพวกโจรทั้งปวงตกใจแตกไป ฝ่ายเตียวฮ่องเห็นซุนเกี๋ยนปีนกำแพงเมืองขึ้นมาฆ่าฟันพรรคพวกตายก็โกรธ จึงขึ้นม้าถือง้าวมาจะรบด้วยซุนเกี๋ยน ๆ เห็นเตียวฮ่องขี่ม้ามาถึงริมเชิงเทิน ซุนเกี๋ยนจึงโจนด้วยกำลังไปชิงเอาง้าวได้ แล้วฟันเตียวฮ่องตกม้าตาย จับเอาม้านั้นมาขี่แล้วขับม้าไล่ฟันพวกโจรทั้งนั้นแตกตื่นไป ฝ่ายซุนต๋งเห็นจะต่อสู้ด้วยซุนเกี๋ยนมิได้ ก็ขี่ม้าพาพวกโจรทั้งนั้นจะหนีออกประตูด้านเหนือ พอเห็นเล่าปี่ตีกระหนาบเข้ามา ซุนต๋งตกใจคิดว่ากูครั้งนี้เห็นจะไม่พ้นมือเล่าปี่จะคิดเอาแต่รอดชีวิตเถิด ซุนต๋งก็ถอยเข้ามา เล่าปี่ก็ยิงเกาทัณฑ์ไปถูกซุนต๋งตกม้าตาย ฝ่ายจูฮีเห็นก็ขับทหารทั้งปวงเข้าเมืองได้ ฆ่าพวกโจรตายประมาณหมื่นเศษ แล้วยกไปตีเมืองทั้งปวงซึ่งโจรรบได้ไว้นั้นถึงสิบสี่สิบห้าหัวเมือง แลอาณาประชาราษฎรทั้งปวงก็ค่อยอยู่เย็นเปนสุข แล้วจูฮีก็ยกทัพกลับไปเมืองหลวง แจ้งเนื้อความแก่เสนาบดี แลเสนาบดีจึงเอาความกราบทูลแก่พระเจ้าเลนเต้ ๆ ให้ปูนบำเหน็จจูฮีให้เปนนายทหารใหญ่มีตำแหน่งเฝ้า แล้วให้เปนที่เจ้าเมืองโห้หลํ้า จูฮีจึงกราบทูลความชอบซุนเกี๋ยนกับเล่าปี่ซึ่งได้ทำการปราบโจร พระเจ้าเลนเต้ให้ซุนเกี๋ยนไปเปนกรมการหัวเมือง แต่เล่าปี่นั้นมิได้ตรัสประการใด แต่เล่าปี่คอยท่าบำเหน็จอยู่ในเมืองหลวงนั้นประมาณเดือนเศษ มิได้สมความปราถนาก็เสียนํ้าใจนัก

[๑] เรื่องห้องสิน
[๒] เรื่องไซ่ฮั่น
[๓] เรื่องตั้งฮั่น
[๔] ตามฉบับไทยมีชื่อขันทีเพียง ๙ คน สอบฉบับจีนได้ชื่อ “เชียกง” อีกคน ๑ จึงรวมเต็ม ๑๐ คน

สามก๊ก ฉบับย่อ

 

เรื่องย่อสามก๊ก : สามก๊กฉบับย่อ

"ยังมิได้อ่าน สามก๊ก อย่าพึงคิดการใหญ่ "

 


 

      เรื่องย่อสามก๊ก : สามก๊ก (Three Kingdoms) ฉบับย่อ จากเว็บไซต์ สามก๊ก.com ที่สรุปเนื้อหาสำคัญ ของวรรณกรรมจีนเรื่องสามก๊ก ในรูปแบบที่สั้น กระชับ อ่านง่าย คัดเฉพาะใจความสำคัญ ให้ผู้ที่เริ่มศึกษาเรื่องสามก๊กใช้เป็นพื้นฐานต่อไป

ตัวละครสำคัญ

โจโฉ

     1. โจโฉ :  บุรุษผู้ยอมทรยศคนทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้โลกทรยศตน ตำแหน่งสูงสุดคือ มหาอุปราช เป็นผู้กุมอำนาจทั้งปวง อยู่เหนือฮ่องเต้ เดิมทำราชการอยู่ภายในราชสำนัก คนทั้งปวงยำเกรง ถูกแต่งตั้งให้ไปสกัดการโจมตีของขบถโจรโพกผ้าเหลือง สุดท้ายแยกตัวหนีออกมาหลังจาก ลอบฆ่า ตั๋งโต๊ะ ไม่สำเร็จ รวบรวมเจ้าเมืองต่างๆ เข้าโจมตี ตั๋งโต๊ะ แต่ไม่สำเร็จ จึงแยกตัวออกมา ต่างหาก สะสมกำลังพลและแสยานุภาพ ครอบครองหัวเมืองฝ่ายเหนือ จนถูกเชิญมาเป็น มหาอุปราช ได้ใช้ความสามารถ การรู้จักใช้คน และเลห์เหลี่ยมกลยุทธ์ ที่เป็นที่เลื่องลือ จนสามารถครอบครองส่วนของแผ่นดินจีนไว้มากที่สุด ที่ได้ชื่อว่า วุยก๊ก

เล่าปี่

     2. เล่าปี่ : ผู้อ้างว่าสืบเชื้อสายราชวงศ์ฮั่น เดิมเป็นคนยากจน ทอเสื่อขาย ได้ร่วมสาบานเป็นพี่น้อง กับ กวนอู เตียวหุย ปราบปรามขบถโจรโพกผ้าเหลือง นิสัยโอบอ้อมอารี เป็นที่รักใคร่แก่คนทั่วไป ได้เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋ว ภายหลังต้องหกระเหเร่ร่อนไปอาศัยเจ้าเมืองต่างๆอยู่ จนได้ ขงเบ้ง เป็น ที่ปรึกษา จึงได้ฟื้นตัวและสามารถครอบครองดินแดนเสฉวนได้ในชื่อว่า จ๊กก๊ก

ซุนกวน

     3. ซุนกวน : ผู้บุตรของ ซุนเกี๋ยน และน้องของ ซุนเซ็ก ครอบครองดินแดนฝั่งกังตั๋ง อายุน้อยกว่า โจโฉ กับ เล่าปี่ มาก อาศัยความรุ่งเรืองของการค้าขายติดแม่น้ำ สร้างความแข็งแกร่ง ให้กับก๊กตัวเอง ได้ใช้ชื่อว่า ง่อก๊ก

กวนอู

     4. กวนอู : น้องร่วมสาบานของ เล่าปี่ หลังจากตายไปได้ถูกยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ หน้าแดงหน้าแดง จักษุยาว หนวดเครางาม มีง้าวคู่กาย ภายหลังอยู่ร่วมกับ กวนเป๋ง ผู้บุตรบุญธรรม กับ จิวฉอง เป็นเจ้าเมืองเกงจิ๋ว ถูกแผนกลยุทธ์ของ ลกซุน และ ลิบอง ฆ่าตาย

เตียวหุย

     5. เตียวหุย : น้องร่วมสาบานของ เล่าปี่ และ กวนอู นิสัยวู่วามอารมณ์ร้อน ชอบเหล้าสุรา ศีรษะเหมือนเสือ จักษุโตกลม เสียงดัง มีกำลังมาก ติดตาม เล่าปี่ มาตลอด ตายเพราะถูกลอบสังหารจากนิสัยวู่วามของตนเอง

ขงเบ้ง

     6. ขงเบ้ง : ผู้ถูกยกย่องว่า หยั่งรู้ดินฟ้า มหาสมุทร จากคำแนะนำของ ชีซี ทำให้ เล่าปี่ ต้องมาเชิญด้วยตัวเอง ถึงสามครั้งสามครา มีความรู้เป็นเลิศ รับใช้ราชวงศ์เล่าถึง 2 ชั่วอายุคน ภายหลัง เล่าปี่ ตาย ได้ฝากฝัง เล่าเสี้ยน ให้ดูแลแต่ไม่อาจสำเร็จได้ เพราะ พระเจ้าเล่าเสี้ยน หูเบา เชื่อแต่คำยุยง ของขันที ฮุยโฮ ยกทัพไปปราบปรามชาวม่าน และได้สู้รบกับวุยก๊กหลายครั้ง มีคู่ปรับคือ สุมาอี้

สุมาอี้

     7. สุมาอี้ : เริ่มจากการรับราชการในตำแหน่งเล็ก ๆ ในก๊กของ โจโฉ จนเริ่มได้รับความไว้วางใจมากขึ้นในสมัย พระเจ้าโจยอย ออกสู้รบ กับ ขงเบ้ง หลายครั้ง อย่างคู่คี่สูสี เป็นคู่ปรับตัวฉกาจของ ขงเบ้ง มีบุตรชื่อ สุมาสู และ สุมาเจียว ได้ถอด พระเจ้าโจฮอง ออกจากราชสมบัติ สะสมอำนาจเหนือตระกูลโจ ภายหลัง สุมาเอี๋ยน ผู้บุตร สุมาเจียว ถอด พระเจ้าโจฮวน ออก แต่งตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้ รวบรวมแผ่นดินจีน เป็นหนึ่งเดียว สถาปนาราชวงศ์จิ้น

จูล่ง

     8. จูล่ง : วีรบุรุษผู้เก่งกาจติดตาม เล่าปี่ และ ขงเบ้ง เป็น 1 ใน 5 ทหารเสือที่เล่าปี่แต่งตั้งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย จูล่ง กวนอู เตียวหุย ม้าเฉียว และ ฮองตง สร้างวีรกรรมสำคัญคือ จูล่ง ฝ่าทัพรับ อาเต๊า โดยที่ตัวคนเดียวฝ่าช่วยชีวิตท่ามกลางทหารและองครักษ์มากมายของ โจโฉ ที่ยกทัพลงใต้ หวังครอบครองแผ่นดิน จูล่งตีฝ่าออกมาและนำ อาเต๊า คืนแก่ เล่าปี่ อย่างแสนสาหัส ฆ่าทหารเอกและทหารเลว ของ โจโฉ อย่างดาษดื่น เป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมและชื่นชอบมากที่สุดคนหนึ่งในเรื่อง สามก๊ก

ตั๋งโต๊ะ

     9. ตั๋งโต๊ะ : ทรราชที่อ้างตัวมาชุบเลี้ยง พระเจ้าเหี้ยนเต้ แต่ไม่อยู่ในจริยธรรม ฆ่าคนอย่างสนุกสนาน แผ่นดินเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า มีทหารเอกคู่ใจ คือ ลิโป้ ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย ภายหลังตายพราะผู้หญิง โดยเป็นแผนของ อ้องอุ้น ใช้กลยุทธ์ที่เลื่องลือ โดยมีแม่นาง เตียวเสี้ยน หว่านล้อมเสน่ห์ ให้พ่อลูก ตั๋งโต๊ะ กับ ลิโป้ ผิดใจกัน

ลิโป้

     10. ลิโป้ : บุตรบุญธรรมของ ตั๋งโต๊ะ ถูกชุบเลี้ยงมาเป็นองครักษ์ข้างกาย มีฝีมือเป็นหนึ่งในแผ่นดินจีน ยอมฆ่าพ่อบุญธรรมคนเดิม เต๊งหงวน เพราะเห็นแก่ลาภยศ มัวเมาลุ่มหลงอิสตรี ได้ขึ้นชื่อเป็น ลูกทรพี 3 พ่อ ถูกกลยุทธ์แม่นาง เตียวเสี้ยน ลุ่มหลงจนฆ่า ตั๋งโต๊ะ ด้วยมือตนเอง หลบหนีไปพึ่งใบบุญ เล่าปี่ แล้วทรยศซ้ำ ภายหลังถูก โจโฉ ไล่ตามตี จนมุมที่เมืองแห้ฝือ ถูกฆ่า ประหารชีวิต ตัดศีรษะไปเสียบประจาน จบยุคของผู้มีฝีมือเก่งกาจที่สุดในแผ่นดิน

จิวยี่

     11. จิวยี่ : ผู้ได้รับฉายาว่าเป็นผู้ถ่มน้ำลายรดฟ้า ได้อยู่รับใช้ในสมัย ซุนเซ็ก และ ซุนกวน เป็นเพื่อนสนิทของ ซุนเซ็ก ได้ถูกชวนมาร่วมบริหารบ้านเมือง ครั้น ซุนเซ็ก ตาย จึงอยู่มาสมัย ซุนกวน วางแผนออกรบ ร่วมกับ ขงเบ้ง ปราบปรามต่อต้าน โจโฉ ที่ยกทัพมาทำสงครามกับกังตั๋ง ได้ขึ้นชื่อว่าศึกเซ็กเพ็ก สงครามไฟประวัติศาสตร์จารึก ที่เผาผลาญทหาร โจโฉ ร่วมล้านคน ภายหลังถูก ขงเบ้ง ชิงไหวชิงพริบ แย่งชิงเมืองทั้งหลายที่รบได้ไป จึงคิดแค้นใจและถูกพิษเกาทัณฑ์ ขาดใจตาย ก่อนตายได้ตะโกน ว่า "ฟ้าให้ยี่มาเกิด ไฉนจึงให้เหลียงมาเกิดด้วย"

เนื้อเรื่องย่อของวรรณกรรมจีนเรื่อง สามก๊ก


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 1 คำสาบานในสวนดอกท้อ

    คำสาบานในสวนดอกท้อ

         เดิมแผ่นดินจีนเป็นสุขมาช้านานแล้วจึงเป็นศึก ครั้นศึกสงบแล้วก็เป็นสุข เป็นวัฎจักรวนเวียนมาถึงจวบจนสมัยพระเจ้าเลนเต้ ครองราชย์มิได้ตามอยู่โบราณราชประเพณี ทำให้ราชการแผ่นดินที่มีมาได้แปรผันไป เกิดการก่อขบถ ปล้นสะดมทั่วทุกหัวระแห่ง เตียวก๊ก เตียวโป้ เตียวเหลียง ปลุกระดมไพร่พลก่อขบถโจรโพกผ้าเหลือง สุดที่ทหารแผ่นดินจะต้านทานไหว จึงติดประกาศทุกหัวมุมเมือง รับอาสาสมัครผู้กล้าจับโจรให้จงได้

         ฝ่ายเล่าปี่ยืนดูประกาศจากทางการแล้วทอดหายใจอยากช่วยเหลือแต่ติดทางกำลังทรัพย์ ด้วยเดิมเป็นชาวบ้านยากจน อาศัยทอเสื่อขายยังชีพ แต่ได้มีเชื้อราชวงศ์ฮั่นติดตัวมา ทันใดนั้นเตียวหุยได้พบเล่าปี่คิดช่วยเหลือ ทั้งสองจึงยินดีเป็นอันมาก ในร้านสุราเล่าปี่ และเตียวหุย ได้พบกับกวนอูซึ่งหลบหนีการตามล่าจากทางการด้วยไปฆ่าคนมา เห็นว่าทั้งสามมีความเห็นพ้องต้องกันช่วยเหลือการแผ่นดิน จึงทำพิธีสาบานเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันใต้ต้นดอกท้อ โดยเรียงจากอาวุโส เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ตามลำดับออกรวบรวมรี้พล ปราบปรามโจรโพกผ้าเหลือง ได้พบกับตั๋งโต๊ะซึ่งทางการได้แต่งตั้งมาให้ปราบปรามแต่ไร้ความสามารถ เล่าปี่จึงเข้าช่วยเหลือ ภายหลังปราบขบถสิ้นซาก พระเจ้าเลนเต้ได้ปูนบำเหน็จนายทหารใหญ่น้อย แต่ตัวเล่าปี่ซึ่งเป็นเพียงอาสาสมัครยังมิได้บำเหน็จ จึงรอคอยอยู่เป็นเวลานาน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 2 การณ์แปรปรวนในราชสำนัก

    การณ์แปรปรวนในราชสำนัก

         ภายหลังเล่าปี่ถูกแต่งตั้งไปปกครองเมืองอันห้อก้วนซึ่งเป็นเมืองขึ้นเล็กๆ ราษฎรสรรเสริญเป็นอันมาก ต่อมาขุนนางต๊กอิ๊ว ได้เรียกส่วยจากเล่าปี่ พาให้เตียวหุยเดือดดาลเป็นอันมาก โบยตีต๊กอิ๊วแล้วทั้งสามก็หนีออกจากเมืองไป ต่อมาเล่าปี่จึงได้รับไปประจำตำแหน่งที่เมืองเพงงวนก๋วน

         ขันทีทั้งสิบได้เป่าหูพระเจ้าเลนเต้ ทำให้ราชการแผ่นดินฟั่นเฟือนไป ต่อมาพระเจ้าเลนเต้ประชวรหนักจึงสวรรคต มีปัญหาเรื่องการสืบรัชทายาทระหว่างหองจูเหียบผู้น้อง กับหองจูเปียนผู้พี่ โฮจิ๋นผู้เป็นพี่ของพระนางโฮเฮาอัครมเหสีผู้เป็นแม่หองจูเปียน ได้คิดแต่งตั้งให้หองจูเปียนสืบรัชทายาท แต่ขันทีทั้งสิบได้ทำการคิดยกหองจูเปียนผู้น้องขึ้นครองราษฎร์แทน และคิดการลอบฆ่าโฮจิ๋น แต่การรั่วไหลโฮจิ๋นได้บุกเข้าวังหวังกำจัดขันทีทั้งสิบให้ซิ้นซาก แต่ขันทีทั้งสิบได้หลบหนีแล้วไปอ้อนวอนต่อนางโฮเฮาให้ไว้ชีวิต โฮจิ๋นผู้พี่จึงมิอาจทำอะไรได้ แต่โฮจิ๋นได้คิดการที่กำจัดเสี้ยนหนามอยู่ตลอดเวลา แล้วส่งสาสน์ไปหัวเมืองทั้งปวงให้ยกทัพมาช่วยกำจัดขันทีทั้งสิบ

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 3 ทรราชย์ตั๋งโต๊ะ

    ทรราชย์ตั๋งโต๊ะ

         ฝ่ายตั๋งโต๊ะ ผู้มีใจหยาบช้าเห็นได้ทีฮุบราชสมบัติจึงรีบยกพลเข้าเมืองหลวงหวังเพื่อกำจัดขันทีทั้งสิบเสีย ฝ่ายขันทีทั้งสิบเห็นดังนั้นจึงชิงรีบลอบฆ่าโฮจิ๋นเสียก่อนโดยลวงว่านางโฮเฮามีเหตุให้เข้าเฝ้า โฮจิ๋นเสียทีจึงถูกรุมฆ่าตาย ฝ่ายอ้วนเสี้ยวและโจโฉผู้ซึ่งเป็นขุนนางในราชสำนักเหมือนกันซึ่งอยู่ฝั่งโฮจิ๋น เห็นดังนั้นจึงบุกเข้าไปฆ่าขันทีทั้งสิบ การโกลาหลยิ่งนักเพลิงไหม้โหมกระหน่ำเข้ามาในวัง ขันทีที่เหลือจึงอุ้มพระราชบุตรทั้งสองคน ลอบหนีออกจากวังหลบหนีเข้าไปในป่า จึงตามพบ ระหว่างทางพบตั๋งโต๊ะตั้งทัพอยู่ จึงเชิญเสด็จเข้าในวัง

         ฝ่ายตั๋งโต๊ะ พอเข้ามาในวังแล้วกำเริบเสิบสานเข้าชิงทรัพย์ข่มเหงราษฎรแต่ไม่มีผู้ใดห้ามปราม ขุนนางทั้งปวงต่างกลัวเกรง วันหนึ่งตั๋งโต๊ะได้ชวนขุนนางใหญ่น้อยเลี้ยงสุรา แล้วว่าจะให้ถอดหองจูเปียนเสีย แล้วให้หองจูเหียบผู้น้องครองบัลลังค์แทน ฝ่ายเต๊งหงวนพ่อเลี้ยงลิโป้มิชอบใจตั๋งโต๊ะจึงออกรบพุ่งกันอยู่บ่อยครั้ง ลิยูที่ปรึกษาตั๋งโต๊ะเห็นลิโป้มีท่าทีองอาจจึงเชิญชวนมาไว้ เป็นพรรคพวก โดยการส่งลิซกพร้อมกับเครื่องบรรณาการมากมายรวมทั้งม้าเซ็กเธาว์ ฝ่ายลิโป้เห็นแก่ลาภยศจึงบุกเข้าปลอบฆ่าเต๊งหงวนพ่อบุญธรรมเสีย แล้วมาอยู่กับตั๋งโต๊ะเป็นพ่อบุญธรรมคนใหม่ ฝ่ายขุนนางจึงยิ่งกลัวเกรงตั๋งโต๊ะเข้าไปอีก ภายหลังตั๋งโต๊ะได้ถอด หองจูเปียนออกจากราชสมบัติจับไปขังพร้อมนางโฮเฮา แล้วส่งลิยูไปปลงพระชมน์ทั้งคู่ แต่งตั้งหองจูเหียบใช้พระนามว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ ตั้งตัวเองเป็นเซียงก๊ก ผู้สำเร็จราชการ

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 4 รวบรวมหัวเมืองสู้ตั๋งโต๊ะ

    รวบรวมหัวเมืองสู้ตั๋งโต๊ะ

         ต่อมาตั๋งโต๊ะทำการหยาบช้า ตัดศรีษะราษฎร แย่งชิงสิ่งของเป็นอันมาก ทำทีว่าไปปราบโจรขบถมาแล้วชิงทรัพย์สินได้ อาณาประชาราษฎร์เดือดร้อนทุกหัวระแหง แผ่นดินเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า

         ฝ่ายอองอุ้นขุนนางตงฉินคิดแค้นใจตั๋งโต๊ะอยู่เป็นอันมากแต่มิอาจหักหาญสู้กับตั๋งโต๊ะได้ โจโฉจึงอาสาสมัครขอกระบี่เข้าไปลอบฆ่า แต่ไม่สำเร็จเอาตัวรอดหนีออกมาได้ แต่ถูกทางการประกาศจับทั่วทุกตำบล รวมทั้งอ้วนเสี้ยวก็ได้ออกมาตั้งตัวออกจากตั๋งโต๊ะด้วย โจโฉหนีจากทางการไม่พ้นถูกจับได้โดยตันก๋ง แต่ทั้งคู่มีใจช่วยเหลือบ้านเมืองเช่นเดียวกันจึงชวนกันหนีออกมาแต่ตันก๋งมิอาจอยู่ร่วมกับโจโฉได้เมื่อเห็นว่าโจโฉไร้คุณธรรม ที่การไปฆ่าแปะเฉียเพื่อนของบิดาตนเองเนื่องจากการเข้าใจผิดคิดว่าจะจับตัวส่งทางการ

         โจโฉหนีมาถึงเมืองตันหลิว พบบิดาโจโก๋ คิดการปลอมแปลงราชสาสน์ให้ปราบปรามขบถตั๋งโต๊ะ รวบรวมเกลี้ยกล่อมรี้พล ได้เป็นจำนวนมาก ได้แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน โจหยิน โจหอง ลิเตียน งักจิ้น มาเป็นพรรคพวก เมื่อเจ้าเมืองต่างๆ รู้ข่าว จึงรวบรวมทหารเป็นจำนวนมากทยอยมาสมทบ รวมทั้ง เล่าปี่ด้วย กองกำลังได้มาถึงเมืองลกเอี๋ยงอันเป็นเมืองหลวง ฝ่ายตั๋งโต๊ะส่งฮัวหยงทหารเอกผู้มี ฝีมือร้ายกาจเข้าต่อสู้ ฝ่ายโจโฉมิอาจสู้ได้กวนอูจึงได้รับการแต่งตั้งออกสู้ปะมือกับฮัวหยง แม้จะได้รับคำคัดค้านจากอ้วนเสี้ยวผู้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้นำของกองกำลังครั้งนี้ ผลสุดท้านกวนอูตัดหัวฮัวหยงได้สำเร็จ แต่มิได้รับคำสรรเสริญจากอ้วนเสี้ยว แต่กลับได้รับคำสรรเสริญจากโจโฉแทน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 5 โยกย้ายเมืองหลวง

    โยกย้ายเมืองหลวง

         ภายหลังจากฮัวหยงตาย ตั๋งโต๊ะ กับลิโป้ จึงยกทัพมาขัดทัพที่ ด่านเฮาโลก๋วน ลิโป้ออกรบ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ออกต้านพร้อมกันถึงสามคน พอดีมีทัพกระหนาบมา ลิโป้จึงล่าทัพถอย ต่อมาลิยูคิดแผน ย้ายเมืองหลวง อพยพจากลกเอี๋ยงไปเมืองเตียงฮัน ครั้นตอนย้ายตั๋งโต๊ะสั่งการให้ริบทรัพย์จากเศรษฐีเข้าท้องพระคลัง ปล้นชิงจากราษฎร ขุดศพเก็บทรัพย์สินจากพระมหากษัตริย์องค์ก่อนแลศพราษฎร ได้สินทรัพย์เป็นอันมาก ราษฎรเหยียบล้มตาย ทหารก็เข้าช่วงชิงสินทรัพย์ แลฉุดลากภรรยาชาวบ้าน เสียงร้องอื้ออึงไป รวมทั้งจุดไฟเผาลกเอี๋ยงเสีย

          ฝ่ายกองกำลังโจโฉเห็นอย่างนั้นจึงยกทัพพักอยู่ที่ลกเอี๋ยงมิได้คิดตามต่อ โจโฉเห็นท่าไม่ดีจึงแยกเอากำลังตัวเองหมื่นเศษไล่ตามต่อ แต่เสียทีจนเกือบตายดีที่โจหองเข้าช่วยไว้ ฝ่ายซุนเกี๋ยนพบตราหยกสำหรับสำหรับราชสมบัติมีความยินดีนักคิดยกทัพของตัวกลับ อ้วนเสี้ยวสั่งให้เล่าเปียวจัดทัพขวางไว้ ซุนเกี๋ยนหนีออกมาได้ไปปักหลักที่เมืองกังตั๋ง แต่นั้นมาซุนเกี๋ยนกับเล่าเปียวก็ผิดใจกัน แลหัวเมืองต่างๆที่รวมกันก็ผิดใจกันเห็นจะอยู่ต่อไปมิได้จึงทยอยกันกลับ ด้วยตัวอ้วนเสี้ยวหาเป็นผู้นำมิได้

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 6 ซุนเกี๋ยนถึงแก่กรรม

    ซุนเกี๋ยนถึงแก่กรรม

         ครั้นแยกจากกันแล้ว อ้วนเสี้ยวไปพำนักอยู่ที่เมืองโห้ลาย คิดแย่งตีเอาเมืองกีจิ๋ว แต่งกลอุบายหลอกใช้กองซุนจ้านร่วมตี แล้วส่งจดหมายหนึ่งฉบับหาฮันฮกเจ้าเมืองกีจิ๋ว ว่ากองซุนจ้านจะยกมาตี ฮันฮกจึงเปิดประตูเมืองรับอ้วนเสี้ยวมารักษาเมือง ฝ่ายกองซุนจ้านรู้ว่าถูกหลอกจึงยกทัพมาตีหวังให้หายแค้น งันเหลียง บุนทิว ทหารเอกอ้วนเสี้ยวไล่ตามตีกองซุนจ้านจนเสียที ทันใดนั้นจูล่งเข้ามาช่วยสกัดกั้นงันเหลียง บุนทิว พากองซุนจ้านหนีออกมา เล่าปี่รู้ข่าวจึงมาช่วยสกัดอ้วนเสี้ยวไว้ แลแต่นั้นมาจูล่งกับเล่าปี่ก็ถูกโฉลกกัน

         ฝ่ายตั๋งโต๊ะกริ่งเกรงว่า หากผู้ใดชนะจะกำเริบเสิบสาน จึงส่งหนังสือรับสั่งห้ามเสียทั้งสองฝ่าย ฝ่ายอ้วนสุดเจ้าเมืองลำกุ๋นคิดยกทัพยุยงซุนเกี๋ยนให้โจมตีเล่าเปียวเจ้าเมืองเกงจิ๋ว เล่าเปียวสั่งให้หองจอสกัดทัพที่เมืองกังแฮ ทัพหองจอถอยร่นซุนเกี๋ยนจึงยกทัพล้อมเมืองเกงจิ๋วได้ เล่าเปียวใช้แผนล่อให้ซุนเกี๋ยนตามไปที่ซอกเขาฮีสัน แล้วใช้เกาทันฑ์แลก้อนหินระดมยิงใส่ซุนเกี๋ยนถึงแก่ความตาย ผู้บุตรซุนเซ็กจึงได้ปกครองแดนกังตั๋งในเวลาต่อมา

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 7 กลหญิงงาม

    กลหญิงงาม

         ตั๋งโต๊ะยิ่งทำการกำเริบเสิบสานจับคนห้าร้อยคนมาฆ่าดูเล่นอย่างทรมาณในงานเลี้ยงขุนนาง น่าเวทนายิ่งนัก ฝ่ายอองอุ้นก็ยังทุกข์ใจ มิอาจหาทางกำจัดโจรแผ่นดินลงได้ พอดีนางเตียวเสี้ยนหญิงขับร้องมาพบเข้า คิดอ่านแทนคุณแผ่นดินและพ่อบุญธรรม เสนอตัวคิดอ่านล้างตั๋งโต๊ะเสียด้วยแผนการของอองอุ้นให้ เตียวเสี้ยนแสร้งทำกลมารยา ให้ทั้งลิโป้และตั๋งโต๊ะมีความรักใคร่ในตัวแม่นางเตียวเสี้ยน โดยรับปากจะให้เป็นภรรยาของลิโป้และตั๋งโต๊ะ ครั้นตั๋งโต๊ะพาเตียวเสี้ยนไปอยู่กินแล้ว ลิโป้แค้นใจเป็นอันมาก แต่แอบลอบคบหาแม่นางเตียวเสี้ยนอยู่เนืองๆ ตั๋งโต๊ะมาเห็นเข้าจึงขับไล่ลิโป้ออกไปเสีย ลิโป้เดือดดาลใจเป็นอันมาก เมื่อตั๋งโต๊ะไม่ยินยอมยกเตียวเสี้ยนให้ลิโป้

         ฝ่ายอองอุ้นเห็นได้ทีลิโป้เอาใจออกห่าง คิดยุยงให้ลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย ลิโป้เห็นชอบคิดการแก้แค้น อ้างรับสั่งให้เข้าเฝ้า ครั้นถึงที่ตั๋งโต๊ะแลเห็นขุนนางทุกคนถือกระบี่ จึงร้องเรียกลิโป้ผู้บุตร ลิโป้เอาทวนแทงตั๋งโต๊ะที่คอตกรถตาย แลลิยูถูกจับประหารชีวิตเสียด้วยกัน ครั้นตั๋งโต๊ะตายได้จัดศพแห่ขบวนไปทั่วเมือง อาณาประราษฎร์มีใจเจ็บแค้น รุมศพจนศพแหลกละเอียดเปื่อยไป ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวงและราษฎรต่างมีความยินดียิ่งนัก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 8 ลิฉุย กุยกี เข้าราชสำนัก

    ลิฉุย กุยกี เข้าราชสำนัก

         ฝ่าย ลิฉุย กุยกี ลูกน้องตั๋งโต๊ะได้หลบหนีออกมาได้ หาทางเอาตัวรอดแต่อองอุ้นมิยอมยกโทษให้ ลิฉุย กุยกี เห็นจนตรอก รวบรวมพรรคพวกโจมตีเมืองหลวง ลิโป้ออกรบต้านทานติดทัพกระหนาบสองด้านทั้งเสียรี้พล ฝ่ายพรรคพวกตั๋งโต๊ะเป็นไส้ศึกในวัง ได้เปิดประตูเมืองออก ทหารลิฉุย กุยกีกรูเข้าเมือง ลิฉุยกุยกีฆ่าอองอุ้นถึงแก่ความตาย เข้าตัดสินราชการแทนตั๋งโต๊ะทำการชั่วช้าไม่แพ้กัน ฝ่ายม้าเท้งและม้าเฉียวผู้บุตรเข้าโจมตีเมืองหลวง แต่ขาดเสบียงจึงยกทัพกลับไป ต่อมาเกิดขบถโจรโพกผ้าเหลืองออกข่มเหง ราษฎรพระเจ้าเหี้ยนเต้รับสั่งโจโฉไปปราบ และตั้งโจโฉให้ใหญ่กว่าหัวเมืองตะวันออกทั้งปวง

         โจโฉได้รวบรวมสมัครพรรคพวกไว้เป็นอันมาก ทั้งผู้มีสติปัญญาแลทหารเอกก็เข้ามาในเกลี้ยกล่อมเช่น ซุนฮก ซุนฮิว เทียหยก กุยแก อิกิ๋ม เตียนอุย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 9 โจโฉกรีฑาทัพเหยียบชีจิ๋ว

    โจโฉกรีฑาทัพเหยียบชีจิ๋ว

         ฝ่ายโจโฉตั้งเกลี้ยกล่อมทหารแลที่ปรึกษาได้เป็นอันมาก มีความยินดีนักคิดเชิญโจโก๋ ณ เมืองตันลิวมาอยู่ด้วย โจโก๋จึงเก็บทรัพย์สินเดินทางมาพร้อมครอบครัว ผ่านเมืองชีจิ๋วซึ่งมีโตเกี๋ยมเป็นเจ้าเมืองอยู่ ทางโตเกี๋ยมเห็นดังนั้นจึงใช้เตียวคีไปส่งให้ถึงเมือง แต่เตียวคีคิดทรยศฆ่าโจโก๋แลครอบครัวเสียสิ้น ชิงทรัพย์สมบัติหนีไป โจโฉรู้ข่าวคิดแค้นใจเป็นอันมาก สั่งพลบุกหวังเหยียบชีจิ๋วให้พินาศเป็นหน้ากลอง ฝ่ายโตเกี๋ยมคิดส่งตัวเองออกไปแทนชาวเมืองซึ่งเดือดร้อนแต่ถูกคัดค้าน ทางขงหยง เล่าปี่ คิดช่วยเหลือ โตเกี๋ยมจึงเปิดประตูให้แลหวังคิดยกเมืองให้เล่าปี่ทำนุบำรุงต่อไป ฝ่ายเล่าปี่ยังมิยินยอม โตเกี๋ยมจึงให้ไปพำนัก ณ เมืองเสียวพ่ายซึ่งเป็นเมืองขึ้นก่อน

         ฝ่ายลิโป้ซึ่งหลบหนีออกมาจากเมืองหลวงได้สมคบคิดกับตันก๋งที่หนีจากโจโฉมาอยู่ด้วยลิโป้ คิดลอบตีเมืองกุนจิ๋วที่โจโฉยกทัพบุกออกมา ฝ่ายโจโฉเห็นท่าไม่ดีจึงยกทัพกลับตีเอาเมืองคืน ลิโป้ใช้กลอุบายล่อโจโฉเข้ามาในเมืองปักเอี้ยงโจโฉเกือบเสียที โจโฉจึงจำยกทัพไปตั้งอยู่ ณ เมืองเอียนเสีย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 10 ลิโป้เข้าพึ่งใบบุญเล่าปี่

    ลิโป้เข้าพึ่งใบบุญเล่าปี่

         ฝ่ายโตเกี๋ยมป่วยหนักใกล้ตาย ได้เรียกเล่าปี่เข้ามาเพื่อขอให้เป็นเจ้าเมืองต่อแล้วขาดใจตาย เล่าปี่นึกเอ็นดูแก่ชาวเมืองจึงรับไว้

         ฝ่ายโจโฉหลังจากอยู่ ณ เมืองเอียนเสีย เข้าปราบปรามโจรได้เคาทูมาเป็นพวก เห็นกองกำลังลิโป้ที่เมืองกุนจิ๋วอ่อนล้าจึงรบเอาได้โดยง่าย แล้วหักเอาเมืองปักเปี้ยง ลิโป้เข้ารบพุ่งต้านทานสู้ไม่ได้ล่าถอยหนี โจโฉออกตามตีกระหน่ำ ลิโป้เสียที หกระเหินไปพึ่งใบบุญเล่าปี่ ณ เมืองชีจิ๋ว แต่ขัดเคืองใจกับเตียวหุย เล่าปี่จึงจัดแจงให้ลิโป้กับครอบครัวอยู่ ณ เมืองเสียวพ่าย อันเป็นเมืองน้อยของชีจิ๋ว

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 11 พระเจ้าเหี้ยนเต้หนีตาย

    พระเจ้าเหี้ยนเต้หนีตาย

          ฝ่ายลิฉุย กุยกี ทำการหยาบช้ามิได้ขาด เอียวปิวขุนนางรับใช้พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงใช้แผนยุยงให้ลิฉุย กุยกีหมางใจกันหวังให้รบพุ่งฆ่ากันตาย ต่างคนต่างแย่งชิงพระเจ้าเห้ยนเต้ในอาณัติ ทำศึกบาดหมางกันตลอด ฝ่ายตังสินกับเอียวฮองจึงพาพระเจ้าเหี้ยนเต้หนีออกมาได้คิดพาไปพำนัก ณ เมืองลกเอี๋ยงเมืองหลวงเดิม แต่ถูกไล่กระชั้นชิด ตังสินกับเอียวฮองจึงเชิญเสด็จหนีทั้งกลางวันกลางคืน พอถึง ณ เมืองลกเอี๋ยงทรงทอดพระเนตรเห็นพระราชตำหนักแลตึกรามบ้านช่องที่มีมาแต่โบราณเป็นที่เพลิงไหม้สิ้น จึงทรงพระกรรแสง ขุนนางที่เหลือทั้งปวงจึงเชิญเสด็จ ณ ที่อยู่

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 12 โจโฉเป็นมหาอุปราช

    โจโฉเป็นมหาอุปราช

         ลิฉุย กุยกีกลับมาร่วมมือกันออกทัพตามพระเจ้าเหี้ยนเต้หวังฆ่าเสียให้ตาย ครั้นกระชั้นชิดพระเจ้าเหี้ยนเต้รับสั่งเรียกโจโฉมาช่วย โจโฉยกทัพสามสิบหมื่นเข้ามาสกัดทัพลิฉุย กุยกีทันเวลา ฝ่ายโจโฉเข้าเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ มีความเห็นว่าเมืองลกเอี๋ยงมิอาจทำนุบำรุงได้เหมือนเดิมแล้ว จึงเชิญเสด็จไปตั้งเมืองฮูโต๋เป็นราชธานีใหม่ ตั้งตนเป็นมหาอุปราช

         โจโฉภายหลังตั้งตนเป็นมหาอุปราชแล้วมีความเห็นว่า ลิโป้กับเล่าปี่ มีความกล้าแข็ง เกรงเป็นอันตรายต่อไปภายหน้าคิดกำจัดเสีย ซุนฮกที่ปรึกษาจึงคิดแผนการให้เสือสองตัวกัดกันเอง ส่งราชสาสน์ให้เล่าปี่ไปรบอ้วนสุด ฝ่ายเล่าปี่ให้เตียวหุยอยู่รักษาเมือง แต่ด้วยเตียวหุยเป็นคนหยาบช้าทั้งติดสุรา ทำให้ลิโป้แว้งกัดชิงตีเอาเมืองชีจิ๋วไว้ได้ กลับให้เล่าปี่ไปอยู่เมืองเสียวพ่ายแทน เล่าปี่แสร้งมีน้ำใจไม่วู่วามจึงรับไว้

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 13 ซุนเซ็กเป็นใหญ่ฝั่งกังตั๋ง

    ซุนเซ็กเป็นใหญ่ฝั่งกังตั๋ง

         ฝ่ายซุนเซ็กภายหลังบิดาตาย มีเหตุมิให้อยู่เมืองกังหนำจึงไปอยู่รับใช้ด้วยอ้วนสุด ต่อมาคิดเอาตราหยกกษัตริย์ที่ซุนเกี๋ยนผู้เป็นบิดาเก็บได้ครั้งรบกับตั๋งโต๊ะไปจำนำแก่อ้วนสุด ยืมกำลังทหารคิดแก้แค้นเล่าอิ้วแทนบิดา ครั้นได้แล้วซุนเซ็กออกเดินทางมาพบสหายรักเก่าจิวยี่ จึงรับมาร่วมเดินทางด้วย ออกรบเล่าอิ้วได้ไทสูจู้เป็นพวก ภายหลังรบชนะคิดออกตีเงียมแปะฮอเจ้าเมืองต๋องง่อ อ่องหลองเจ้าเมืองห้อยเข ครั้นออกรบแตกพ่ายไปก็ได้เป็นใหญ่ในเมืองฝั่งกังตั๋งและได้ทหารแลสะสมเสบียงอาวุธไว้เป็นอันมาก ส่งสาสน์คำนับไปยังพระเจ้าเหี้ยนเต้และส่งคนไปทวงตราหยกคืนจากอ้วนสุด ครั้งนั้นเกิดเหตุการณ์สำคัญ จิวท่ายทหารเอกออกรบช่วยซุนกวนผู้น้องซุนเซ็กหลบหนีจากโจรป่าไว้ได้ แต่แผลเต็มตัวเห็นว่าจะไม่รอด ซุนเซ็ก ซุนกวนนึกสงสารจึงหาทางเชิญหมอฮัวโต๋ซึ่งเป็นหมอเทวดาในสมัยนั้นมารักษาให้หายขาด หมอฮัวโต๋ต่อมาจึงมีชื่อเสียงยิ่งนัก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 14 ลิโป้ยิงเกาทัณฑ์ห้ามทัพ

    ลิโป้ยิงเกาทัณฑ์ห้ามทัพ

         ฝ่ายอ้วนสุดตั้งแต่ได้ตราหยกมีใจกำเริบคิดตั้งตนเป็นฮ่องเต้ไม่คืนแก่ซุนเซ็ก คิดออกตีเล่าปี่ โดยเอาของไปติดสินบนลิโป้มิให้ช่วยเหลือเล่าปี่ แต่ลิโป้กริ่งเกรงว่าหากมิให้ความช่วยเหลือเล่าปี่ แล้วอีกหน่อยจะมีภัยถึงตัวเป็นแน่ จึงออกห้ามทัพโดยท้าพนันแสดงฝีมือยิงเกาทัณฑ์ติดปลายทวน ที่ไกลห้าเส้นถ้ายิงติดปลายทวนให้กิเหลงซึ่งอ้วนสุดใช้ยกมาตีเล่าปี่ถอยทัพกลับไป ลิโป้ยิงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ กิเหลงจึงมิอาจทำอะไรได้เลยถอยทัพกลับไป

         อ้วนสุดจึงใช้กลยุทธ์ปรองดองขอลูกสาวลิโป้ให้บุตรชายตน ครั้นจะส่งลูกสาวลิโป้คิดกลับคำหน่วงเวลาไว้ลิโป้กับเล่าปี่จึงยังมิได้กินแหนงกันเท่าไหร่นัก ต่อมาเตียวหุยใช้คนไปขโมยฝูงม้าลิโป้ ลิโป้รู้เข้าจึงโกรธยกทัพมาตีเสียวพ่ายแตก เล่าปี่กับครอบครัวจึงรบหนีฝ่ามาพึ่งโจโฉ ณ เมืองฮูโต๋ โจโฉจึงกราบทูลให้เล่าปี่ไปตั้ง ณ เมืองอิจิ๋วรอการแก้แค้น

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 15 โจโฉเสียเตียนอุย

    โจโฉเสียเตียนอุย

         ครั้นอยู่มาเตียวสิ้วกับเล่าเปียวสมคบคิดกันจะมาตีเมืองฮูโต๋ โจโฉจึงสั่งพลออกรบด้วยแล้วส่งสัมพันธไมตรีไปยังลิโป้ ฝ่ายเตียวสิ้วเห็นว่าสู้ไม่ได้จึงยอมเข้าเกลี้ยกล่อมแต่โดยดี มาวันหนึ่งโจโฉเห็นหญิงรูปงามรู้ว่าเป็นอาสะใภ้เตียวสิ้วจึงเลี้ยงไว้เป็นภรรยา เตียวสิ้วคิดน้อยใจอัปยศนักจึงวางแผนหลอกมาตั้งค่ายในค่ายโจโฉให้ชะล่าใจ แล้วจึงจุดเพลิงรอบด้านพาทหารหวังจับโจโฉเสีย โจโฉหลบหนีมาทางข้างหลังได้ แต่เตียนอุยทหารเอกคู่ใจเข้ารบด้วยทหารเตียวสิ้วป้องกันสุดความสามารถ จนอาวุธที่ถือในมือหักจึงฉวยศพเข้าสองมือสู้เป็นสามารถ ทหารเตียวสิ้วระดมเกาทัณฑ์แลทวนเข้าทั่วร่างเตียนอุยต้องอาวุธบาดเจ็บทั่วกาย ยืนพิงประตูค่ายจนสิ้นใจ

         ฝ่ายโจโฉหลบหนีออกมาทางแม่น้ำหยกซุย สูญเสียโจงั่งบุตรเอกกับโจอั๋นบิ๋นผู้หลาน ครั้นรวบรวมทหารได้แล้ว จึงแต่งโต๊ะสุราเซ่นเตียนอุย ว่าแก่ทหารทั้งปวงว่าแม้เราเสียบุตรเอกแลหลานยังมิเสียดายเท่าเสียเตียนอุยเลยนึกเสียดายยิ่งนัก ว่าแล้วก็ร้องไห้รักเตียนอุย ทำให้ทหารทั้งปวงต่างร้องไห้ซึ้งใจยิ่งนัก แล้วจัดแจงยกทหารกลับฮูโต๋

         อยู่มาลิโป้ได้รับหนังสือแต่งตั้งโจโฉจึงยินดียิ่งนัก คิดลำเลิกส่งลูกสาวแลตัดสัมพันธไมตรีกับอ้วนสุด อ้วนสุดโกรธจะยกไปรบลิโป้ ลิโป้จึงส่งจดหมายไปยังโจโฉฉบับหนึ่ง เล่าปี่ฉบับหนึ่งให้ยกมาช่วย แล้วออกรบด้วยอ้วนสุด อ้วนสุดเสียทีหนีไปพบเล่าปี่เข้าสู้ด้วยกวนอู ล่าถอยไปเมืองลำหยง คิดยืมกำลังซุนเซ็ก ซุนเซ็กโต้กลับด่าว่าไอ้โจรขบถ ต่อมาโจโฉส่งสาสน์แต่งตั้งไปแก่ซุนเซ็กให้เป็นเจ้าเมืองห้อยเขแล้วให้ยกไปตีอ้วนสุดด้วย โจโฉ เล่าปี่ ลิโป้ และซุนเซ็กจึงออกรบด้วยอ้วนสุด ณ เมืองลำหยงจากทุกทิศ

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 16 อ้วนสุดหนีโจโฉ

    ตอนที่ 16 อ้วนสุดหนีโจโฉ

          โจโฉจึงให้ลิโป้เป็นปีกซ้าย เล่าปี่เป็นปีกขวามุ่งสู่ลำหยง ครั้นถึงเมืองโจโฉจัดแจงให้ เล่าปี่ ลิโป้ ซุนเซ็ก โอบล้อมเมืองทั้งสี่ด้านให้สัญญาณบุกโจมตีพร้อมกัน อ้วนสุดเห็นต้านทานมิได้จึงพาครอบครัวแอบหลบหนีไปตำบลห้วยหนำ โจโฉมิรู้ว่าอ้วนสุดหนีจากเมืองจึงล้อมเมืองอยู่เดือนครึ่ง ทหารทั้งปวงอดอยากเสบียงอาหารยิ่งนัก โจโฉจึงยืมหัวของอองเฮานายฉาง ตัดหัวแล้วบอกว่าอองเฮากระทำผิดฉ้อข้าว ทหารทั้งปวงเห็นดังนี้จึงมีน้ำใจออกรบ แล้วสั่งให้ทหารทั้งปวงเบิกข้าวที่เหลือจนหมด สั่งให้โจมตีเมืองให้ได้

         ครั้นโจโฉหักเอาเมืองได้รู้ว่าอ้วนสุดหนีไปเมืองห้วยหนำจึงคิดตีตาม รู้ข่าวว่าเตียวสิ้วกลับมาคิดตีจะเอาเมืองฮูโต๋จึงยกทัพกลับฮูโต๋ตระเตรียมการรบด้วยเตียวสิ้ว ต่อมารู้ข่าวว่าตวนอุย งอสิบ ฆ่าลิฉุย กุยกีได้แล้วเอาศีรษะมาให้ก็ยินดียิ่งแล้วยกทัพออกตีเตียวสิ้ว

         ขณะนั้นเป็นฤดูข้าวโภชน์สาลีสุก โจโฉสั่งทหารทั้งปวงห้ามเหยียบข้าวโภชน์สาลีแม้แต่ต้นหนึ่งจะฆ่าเสียมิเว้นแม้แต่นายกองใหญ่ ชาวบ้านทั้งปวงจึงสรรเสริญยิ่ง อยู่มาโจโฉขี่ม้าผ่านไร่สาลี นกบินตัดหน้า ม้าทีโจโฉขี่จึงตื่นวิ่งเตลิดเหยียบข้าวสาลีหักเป็นอันมาก เห็นว่าคำสั่งจะมิเป็นที่นับถือต่อไป จึงคิดอุบายแสร้งชักกระบี่จะเชือดคอตัวเอง นายทัพทั้งปวงจึงห้ามไว้ ว่าแล้วโจโฉจึงตัดเพียงผมเองว่าแก่ทหารทั้งปวง ทหารทั้งปวงจึงสรรเสริญโจโฉมากกว่าแต่ก่อนว่าอยู่ในสัตย์ธรรม

         ครั้นโจโฉคิดตีเมือง กาเซี่ยงที่ปรึกษาเตียวสิ้วคิดอุบายหลอกโจโฉ โจโฉจึงแตกทัพหนีมา รู้ว่าอ้วนเสี้ยวจะยกทัพตีฮูโต๋จึงยกทัพกลับเมือง รู้ว่าอ้วนเสี้ยวทำการกำเริบจึงคิดยกไปตีแลขอความเห็นที่ปรึกษาทั้งปวง กุยแกจึงว่าการตีอ้วนเสี้ยวนั้นไม่ยากแล้วชี้ข้อเด่นของโจโฉสิบประการ ข้อด้อยของอ้วนเสี้ยวสิบประการ แต่ยังมิอาจตีได้ด้วยมีลิโป้คิดลอบตีฮูโต๋อยู่ โจโฉเห็นด้วย

         โจโฉจึงแต่งตั้งอ้วนเสี้ยวเป็นเจ้าเมืองกิจื๋ว อ้วนเสี้ยวรู้ดังนั้นจึงมีความยินดีคิดออกรบด้วยกองซุนจ้าน ให้เล่าปี่ที่โจโฉให้กลับไปอยู่เมืองเสียวพ่ายรอการตลบหลังลิโป้ ให้คิดการจับลิโป้เสีย แล้วตระเตรียมกะเกณท์ทหารเตรียมออกรบ

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 17 ประหารลิโป้

    ประหารลิโป้

         ฝ่ายลิโป้จับเอาม้าใช้ฝ่ายโจโฉที่ส่งหนังสือไปยังเล่าปี่ให้คิดอ่านกำจัดลิโป้ได้ จึงคิดแค้นใจแบ่งกองกำลังไปตีเมืองกุนจิ๋ว และเล่าปี่ที่เมืองเสียวพ่าย เล่าปี่รู้ดังนั้นจึงจัดแจงส่งหนังสือไปยังโจโฉให้ยกทัพมาช่วยโจโฉแจ้งดังนั้นจึงคุมทหารมีฝีมือเป็นอันมาก ออกรบด้วยลิโป้โดยส่งแฮหัวตุ้นเป็นทัพหน้า

         แฮหัวตุ้นได้ออกรบกับโกซุ่นทหารลิโป้ครั้นได้ทีไล่กวดไป โจเสงซุ่มเอาเกาทัณฑ์ยิงเข้าไปที่จักษุซ้ายแฮหัวตุ้นแฮหัวตุ้นร้องขึ้นด้วยเสียงอันดังแล้วดึงเกาทัณฑ์ออก ร้องว่าลูกตาเป็นสิ่งประเสิรฐที่พ่อแม่ให้มาจะให้ตกพื้นเสียมิได้แล้วจึงจับลูกตากลืนเข้าไปในปาก แล้วเอาทวนแทงโจเสงตกม้าตาย

         ครั้นเล่าปี่ออกมาตั้งทัพซุ่มนอกเมือง ลิโป้เห็นดังนั้นจึงตีแตกพ่ายกระจัดกระจายไป ตัวเล่าปี่หนีออกไปหาทัพโจโฉฝ่ายตันกุ๋ย ตันเต๋ง ซึ่งเป็นไส้ศึกของโจโฉที่อยู้ ณ เมืองชีจิ๋ว คิดอุบายให้ลิโป้กับตันก๋งออกรบฆ่ากันเองแล้วยึดเมืองชีจิ๋วเสีย ลิโป้จึงแตกหนีไปยังเมืองเสียวพ่าย แต่ตันเต๋งคิดอุบายหลอกโกซุ่น เตียวเลี้ยวที่ประจำอยู่ ณ เมืองเสียวพ่ายให้ยกออกไปช่วยลิโป้ แล้วยึดเมืองเสียอีก ลิโป้รู้ดังนั้นจึงจำไปอยู่ ณ เมืองแห้ฝือ

         โจโฉยกทัพล้อมเมือองแห้ฝือไว้ ให้เล่าปี่ไปสกัดอ้วนสุดกันมาช่วยลิโป้ ฝ่ายลิโป้มิคิดออกรบเชื่อฟังแต่ภรรยาไม่สนแผนอุบายของตันก๋ง เสพย์สุราทุกวันครั้นจะคิดให้อ้วนสุดมาช่วยรบก็มิได้ ด้วยอ้วนสุดให้ส่งบุตรสาวของตนที่เคยคิดส่งไปให้ก่อน แลโจโฉ เล่าปี่ได้ล้อมกองกำลังแน่นหนามิอาจฝ่าไปได้ ลิโป้จึงเสพย์สุราทุกวันมิได้ขาด วันหนึ่งภรรยาลิโป้เอากระจกมาส่องให้ดู ลิโป้เห็นตัวเองเสื่อมโทรมหมดราศีเพราะสุรา จึงสั่งห้ามให้ทหารทั้งปวง ห้ามกินสุราถ้าพบเห็นผู้ใดจะตัดศีรษะเสีย

          วันหนึ่งลิโป้พบเฮาเสงคิดเลี้ยงสุรา จึงสั่งโบยหวายห้าสิบที เฮาเสงคิดแค้นใจเป็นอันมากจึงร่วมมือกับซุยเหียน ลักม้าเซ็กเธาว์ของลิโป้ไปกำนัลด้วยโจโฉ แล้วทั้งสองได้แอบไปจับมัดลิโป้ขณะนั่งหลับที่ประตูเมือง โจโฉเห็นดังนั้นได้ทีบุกเข้ายึดแห้ฝือได้ จับได้ทหารทั้งปวงหลังจากปิดล้อมอยู่หลายเดือน

          โจโฉสั่งประหารโกซุ่น ลิโป้ เสีย แลตันก๋งคิดยอมตายเองมิยอมเป็นบ่าวสองนาย โจโฉเสียใจร้องไห้รักเป็นอันมากมิอาจรั้งไว้ได้จึงสั่งเลี้ยงดูบุตรภรรยาเป็นอย่างดี ส่วนเตียวเลี้ยวโจโฉเลี้ยงดูไว้เป็นทหารเอก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 18 แผนฆ่าโจโฉ

    แผนฆ่าโจโฉ

         โจโฉปูนบำเหน็จทแกล้วทหารใหญ่น้อยทั้งปวง แล้วพาเล่าปี่ไปเข้าเฝ้า พระเจ้าเหี้ยนเต้ลำดับเชื้อพระวงศ์ดูจึงเรียกเล่าปี่เป็นอา

         ขณะนั้นอำนาจทั้งปวงอยู่ในมือโจโฉสิ้น ครั้งหนึ่งโจโฉพาพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกประพาสป่ายิงเนื้อ แล้วทำหยาบช้าให้พระเจ้าเหี้ยนเต้เสียหน้ายิ่งนัก พระเจ้าเหี้ยนเต้คิดระกำใจโทมนัสอยู่ ฮกอ้วนผู้เป็นบิดานางฮกเฮาผู้เป็นมเหสีพระเจ้าหี้ยนเต้เสนอคิดอ่านล้างโจโฉจึงชักชวน ตังสิน จูฮก จูลัน ตันอิบ โงห้วน ม้าเท้งแลเล่าปี่ เข้าล้างโจโฉ แลทั้งเจ็ดได้ลงหนังสือสัญญากัน สั่งห้ามแพร่งพรายไป


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 19 อ้วนสุดตาย

    อ้วนสุดตาย

         ครั้นเล่าปี่รับคำตังสินแล้วจึงแสร้งถ่อมตัวปลูกผักอยู่แต่ในบ้าน โจโฉสงสัยจึงเชิญเล่าปี่กินโต๊ะ เสพสุราที่สวนแล้วปรึกษาการราชการอยู่

         โจโฉแสร้งถามหาผู้คิดการใหญ่ เก่งกล้าในแผ่นดินดังมังกรสำแดงเดชหวังจับพิรุธเล่าปี่ เล่าปี่บ่ายเบี่ยงไปตอบเจ้าเมืองอื่น โจโฉจึงว่าอันผู้มีสติปัญญาริอ่านคิดการใหญ่เห็นจะมีแต่เรากับท่านเท่านั้น เล่าปี่ครั้นพอได้ยิน จึงสะดุ้งตกใจเป็นการใหญ่ ตะเกียบที่ถืออยู่หลุดจากมือ ขณะนั้นเกิดพายุหนักได้ยินเสียงฟ้าร้อง เล่าปี่จึงแสร้งทำเป็นว่าตกใจฟ้าร้องแล้วเอามือปิดหูไว้ ตะเกียบหลุดออกจากมือ โจโฉเห็นดังน้นก็สิ้นสงสัย นึกว่าเล่าปี่ขี้ขลาดนัก ต่อมาโจโฉจึงไม่ได้คิดแคลงระแวงเล่าปี่

         อยู่มาเล่าปี่ได้ยินข่าวว่ากองซุนจ้านแพ้อ้วนเสี้ยวเสียแล้ว ตัวนั้นฆ่าบุตรภรรยาเสียสิ้น แล้วเชือดคอตายเล่าปี่นึกสงสารยิ่งนักทั้งยังนึกถึงจูล่งด้วย ต่อมาได้ข่าวว่าอ้วนสุดหวังไปรวมกับอ้วนเสี้ยว ณ เมือง กิจิ๋ว เล่าปี่จึงอาสาออกสกัดตี ทั้งคิดหนีเงื้อมมือโจโฉ โจโฉจึงยกให้ทหารไปห้าหมื่นไปสกัดทัพ

         เล่าปี่ออกรบด้วยอ้วนสุด ณ เมืองชีจิ๋ว กองทัพเล่าปี่ไล่ฆ่าทหารอ้วนสุดแตกกระจายไป อ้วนสุดจึงหนีไปทางเมืองฉิวฉุน ระหว่างทางถูกโจรชิงตีเอาทรัพย์แลเสบียงไปเป็นอันมาก อ้วนสุดนึกเสียใจยิ่งนัก หนีไปขอทานอาหารชาวบ้านกิน ชาวบ้านมีใจเจ็บแค้นเอาข้าวทั้งเปลือกหุงให้กิน อ้วนสุดกินไม่ได้ถามหาน้ำผึ้งละลายกิน ชาวบ้านโกรธตวาดว่าที่กันดารแห่งนี้ มีแต่โลหิตคน อ้วนสุดนึกน้อยใจ อาเจียนโลหิตออกแล้วขาดใจตายบนเตียง ฝ่ายเล่าปี่รู้ว่าอ้วนสุดตายแล้ว จึงแจ้งไปยังโจโฉว่าขอไปรักษาเมืองชีจิ๋ว แล้วเตียวหุยได้ฆ่ากีเหมาซึ่งโจโฉสั่งมากำกับเสียเล่าปี่คิดเกรงกลัวโจโฉมาตียิ่งนัก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 20 เริ่มยุทธการกัวต๋อ

    เริ่มยุทธการกัวต๋อ

          เล่าปี่จึงเชื้อเชิญอ้วนเสี้ยวมาช่วยตีโจโฉ อ้วนเสี้ยวจึงตัดสินใจยกตี แล้วอ้วนเสี้ยวส่งจดหมาย ไปทั่วทุกเมืองห้ามเข้าด้วยโจโฉ โจโฉรู้ดังนั้นสั่งให้เล่าต้าย อองต๋งไปสกัดทัพเล่าปี่โดยให้ธงสำคัญไปเสมือนว่า โจโฉยกมาเองอีกส่วนหนึ่งให้โจหยินสกัดที่กัวต๋อ อนึ่งทัพอ้วนเสี้ยวยังรีรออยู่ยังมิออกรบพุ่งยืดเยื้ออยู่

         ฝ่ายเล่าปี่จับตัวเล่าต้าย อองต๋งได้ รู้ว่าโจโฉไม่ได้นำทัพใหญ่มาเอง จึงปล่อยเล่าต้าย อองต๋งเสีย โจโฉโกรธคิดตีเล่าปี่ ขงหยงที่ปรึกษาจึงบอกว่าควรเกลี้ยกล่อมเล่าเปียว เตียวสิ้ว เสียก่อนจึงไม่พะวงหน้าพะวงหลัง โจโฉเห็นชอบด้วย

         โจโฉจึงส่งเล่าหัวไปเกลี้ยกล่อมเตียวสิ้ว เตียวสิ้วกับกาเซี่ยงที่ปรึกษาตกลงเข้าด้วยโจโฉ โจโฉจึงแต่งตั้งเตียวสิ้วเป็นนายทหารผู้ใหญ่ กาเซี่ยงเป็นที่ปรึกษา

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 21 เปิดโปงแผนลอบฆ่า

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 21 เปิดโปงแผนลอบฆ่า

          ฝ่ายเล่าเปียว โจโฉแต่งตั้งยีเอ๋งไปเกลี้ยกล่อม ด้วยยีเอ๋งมีนิสัยหยาบช้า เล่าเปียวจึงมิเข้าด้วยโจโฉ ทั้งส่งยีเอ๋งไปให้หองจอฆ่า

         อยู่มาเกียดเป๋งหมอหลวงเข้าร่วมด้วยตังสินคิดอ่านล้างโจโฉ ออกอุบายเข้ารักษาโรคปวดหัวของ โจโฉแลใส่ยาพิษลงไปในยา โจโฉรู้ทันแลรู้ตัวผู้สมคบคิด จึงจับตัวเกียดเป๋งไปทรมาณจนตายและจับตัวตังสิน จูฮก จูลัน ตันอิบ โงห้วน เสียพร้อมบุตรภรรยาไปฆ่าเสียสิ้นนอกกำแพงเมือง รวมทั้งนางตังกุยหุยผู้น้องตังสินซึ่งเป็นมเหสีพระเจ้าเหี้ยนเต้ด้วย แล้วสั่งโจหองให้กำกับตรวจตราพระราชวัง ห้ามมิให้เชื้อพระวงศ์เข้าไปได้

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 22 โจโฉเกลี้ยกล่อมกวนอู

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 22 โจโฉเกลี้ยกล่อมกวนอู

          โจโฉระดมพลเตรียมล้างเล่าปี่ ฝ่ายเตียนห้องแนะนำอ้วนเสี้ยวให้ตีฮูโต๋เวลานี้ด้วยเมืองยังว่างอยู่ แต่อ้วนเสี้ยวมิเชื่อมัวแต่กังวลบุตรที่ยังป่วยอยู่ มิมีใจออกรบพุ่งจึงตั้งมั่นอยู่ในเมือง

         ฝ่ายเล่าปี่ เตียวหุยคิดอุบายแอบปล้นค่ายโจโฉ แต่ทำการมิสำเร็จถูกโจโฉตีแตกพ่ายกระจัดกระจายไป เล่าปี่หนีไปตัวคนเดียวเข้าพึ่งอ้วนเสี้ยว โจโฉจับตัวกวนอูที่อยู่รักษาครอบครัวเล่าปี่ที่เมืองแห้ฝือได้ เข้าเกลี้ยกล่อม กวนอูยอมปลงใจอยู่ด้วยโจโฉโดยมีข้อแม้สามประการ ประการหนึ่งจะอยู่รับใช้พระเจ้าเหี้ยนเต้มิใช่โจโฉ อีกประการหนึ่ง ขออยู่รับใช้พี่สะใภ้ทั้งสองเองห้ามมิให้ใครกล้ำกลาย ประการสุดท้ายหากรู้ว่าเล่าปี่อยู่ที่ไหนจะรีบไปหาอย่างไม่รีรอ โจโฉตกลงยินยอมรับกวนอู

         ตั้งแต่กวนอูมาอยู่โจโฉเอาใจทุกวันมิได้ขาด สามวันแต่งโต๊ะเลี้ยงทีหนึ่ง แต่กวนอูยังมีใจอยู่กับเล่าปี่ โจโฉจึงนึกเสียใจยิ่ง วันหนึ่งโจโฉยกม้าเซ็กเธาว์ให้กวนอู กวนอูปลาบปลื้มใจยิ่งนักว่าจะได้กลับไปหาเล่าปี่ได้เร็วขึ้น โจโฉจึงมีความวิตกยิ่งนัก ฝั่งหนึ่งชื่มชมกวนอูว่ามีความกตัญญูหาผู้ใดเสมอมิได้


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 23 กวนอูฆ่างันเหลียง บุนทิว

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 23 กวนอูฆ่างันเหลียง บุนทิว

          อยู่มาอ้วนเสี้ยวเชื่อคำยุยงของเล่าปี่ที่ไปอยู่ด้วยให้ออกตีโจโฉ อ้วนเสี้ยวจึงสั่งงันเหลียงทหารเอกยกทัพออกตี เป็นทัพหน้าก่อนเข้าทางด่านแปะแบ๊ กวนอูอาสาออกตี เอาง้าวฟันงันเหลียงคอขาดตาย อ้วนเสี้ยวจึงส่งบุนทิวออกรบอีก กวนอูก็ฆ่าบุนทิวตายเสียอีกคน อ้วนเสี้ยวรู้ดังนั้นก็โกรธก็สั่งฆ่าเล่าปี่ที่ให้กวนอูมาฆ่าทหารเอกเสียถึงสองคน เล่าปี่จึงกล่าวอ้างว่ามิรู้เรื่องแลจะยกกวนอูให้อ้วนเสี้ยวได้ทำการสืบไป อ้วนเสี้ยวจึงตกลงยินยอม

         อยู่มากวนอูได้ข่าวว่าเล่าปี่ไปอยู่ด้วยอ้วนเสี้ยว ก็คิดทำการออกจากโจโฉไปหาเล่าปี่ แต่ยังรั้งรอไว้อยู่ด้วยยังมิได้ร่ำลาโจโฉ

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 24 กวนอูหักด่านรายทาง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 24 กวนอูหักด่านรายทาง

         ฝ่ายโจโฉคิดทำการหน่วงเหนี่ยวกวนอูไว้มิยอมให้กวนอูร่ำลาแต่มิสำเร็จ นึกเสียใจยิ่งนักด้วยเลี้ยงดูไว้มิได้ ที่ปรึกษาแลนายทหารแนะนำโจโฉให้กำจัดเสีย มิเช่นนั้นจะเป็นเสี้ยนหนามต่อไปภายภาคหน้า โจโฉจึงว่ากวนอูมีใจกตัญญูต่อเล่าปี่แลให้สัตย์สัญญาไว้ ครั้นจะให้จับตัวมาก็เสียวาจาไปจึงออกมาส่งกวนอูถึงกลางทาง แลสรรเสริญกวนอูยิ่งนักทั้งมอบเสื้อผ้าให้แก่กวนอู ครั้นกวนอูออกมาถึงด่านกลางทางเจอนายด่านสกัดไว้ไม่ให้ผ่าน เรียกหาใบเบิกทาง กวนอูว่าไม่มีจึงเข้ารบพุ่งด้วยฆ่านายด่านเสียหลายคนหักเสียห้าด่านหนีออกมาได้ พบแฮหัวตุ้นเข้าสกัดทัพอยู่จึงได้รบพุ่งกันเป็นสามารถ พอดีเตียวเลี้ยวนำใบเบิกทางแลคำสั่งโจโฉมาห้ามไว้ แฮหัวตุ้นจึงหยุดรบกับกวนอู แล้วเตียวเลี้ยว แฮหัวตุ้น จึงปล่อยกวนอูเดินทางไปหาเล่าปี่ต่อไป


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 25 สามพี่น้องพบพาน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 25 สามพี่น้องพบพาน

         ฝ่ายกวนอูกับพี่สะใภ้เดินทางมาได้จิวฉองมาเป็นพวก พบเตียวหุยที่เขาบองเอี๋ยงสันจึงเข้าไปหา เตียวหุยเข้าห้ามไว้ด้วยเข้าใจผิดว่ากวนอูเป็นพวกโจโฉแล้ว เข้ารบกันเป็นสามารถ พอดีทหารโจโฉที่คิดแค้นไล่ตามมา กวนอูจึงวกกลับไปตัดศีรษะมาให้เตียวหุยดูว่ามิใช่เป็นพวกเดียวกับโจโฉ เตียวหุยจึงโผเข้าคำนับกวนอูว่าตัวนั้นใจเบาผิดนัก แลพี่น้องทั้งสองจึงร้องไห้รักกัน

         อยู่มากวนอูเดินทางรั้งรอให้ซุนเขียนไปแจ้งเล่าปี่ให้หนีออกมาจากอ้วนเสี้ยว แลพักที่กระท่อมแห่งหนึ่ง นายบ้านยกกวนเป๋งบุตรชายตนให้เป็นบุตรบุญธรรมกวนอู ฝ่ายเล่าปี่แสร้งออกอุบายแก่อ้วนเส้ยวว่าจะไปเกลี้ยกล่อมเล่าเปียว ณ เมืองเกงจิ๋ว อ้วนเสี้ยวไม่รู้กลอุบายเห็นชอบด้วย

         ฝ่ายเล่าปี่หนีออกมาพบกวนอูดีใจยิ่ง พบจูล่งเที่ยวเป็นโจรอยู่ในป่า เล่าปี่จึงว่าครั้นจูล่งอยู่กับกองซุนจ้าน ยังหาบุญไม่จึงมิได้มาอยู่ร่วมคิดกัน บัดนี้มีบุญวาสนายิ่ง จูล่งจึงว่าตั้งแต่มาทุกเมืองยังมิหาคนโอบอ้อมอารีเท่าเล่าปี่ จึงขออยู่รับใช้ด้วยเล่าปี่ เล่าปี่มีความยินดียิ่ง

         ทั้งสามพี่น้องจึงได้มาพบพานพร้อมหน้ากันอีกครั้งแลไปตั้งซ่องสุมคน ณ เมืองยีหลำ ฝ่ายอ้วนเสี้ยวรู้เข้าก็โกรธจะยกไปตีเล่าปี่ ที่ปรึกษาจึงว่าเห็นว่าเล่าปี่ทหารน้อยจะยกไปทำการเมื่อไรก็ได้ บัดนี้วิตกอยู่แต่โจโฉให้รีบกำจัดเสีย อ้วนเสี้ยวเห็นชอบด้วย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 26 ซุนกวนขึ้นครองฝั่งกังตั๋ง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 26 ซุนกวนขึ้นครองฝั่งกังตั๋ง

         ฝ่ายซุนเซ็กตั้งแต่เป็นใหญ่ ณ ฝั่งกังตั๋ง ทำการหยาบช้าฆ่าเค้าก๋องเมืองง่อกุ๋นเสีย ทหารเค้าก๋องคิดแค้นจึงลอบฆ่าซุนเซ็กได้รับบาดเจ็บเป็นหลายแห่ง หมอฮัวโต๋เข้าทำการรักษาจนหาย แลด้วยบาดแผลมีพิษจึงห้ามซุนเซ็กอารมณ์ร้อนเสียร้อยวัน ด้วยซุนเซ็กเป็นคนด่วนใจเร็วเห็นอิเกียดที่ได้อ้างตนว่า เป็นผู้วิเศษรักษาคนอยู่ ณ แดนกังตั๋ง ผู้คนนับถือเป็นอันมากนึกอิจฉาจึงจับมาฆ่าเสีย ต่อมาซุนเซ็กจึงได้เห็นแต่ภาพหลอนอิเกียดมาหลอกหลอน ไม่เว้นแต่ละวันจนคลุ้มคลั่งด้วยพิษกำเริบร่างกายทรุดโทรม เห็นว่าตัวจะมิรอดจึงเรียกซุนกวนผู้น้องยกตำแหน่งบ้านเมืองให้ทำนุบำรุงต่อไป อันการข้างในให้ปรึกษาเตียวเจียว การสงครามให้ปรึกษาจิวยี่ สั่งเสร็จแล้วก็สิ้นใจ ซุนกวนจึงออกว่าราชการแทนซุนเซ็กแต่นั้นมา

         ตั้งแต่ซุนกวนครองตำแหน่งแทนซุนเซ็กก็เชื้อเชิญเกลี้ยกล่อม โลซก จูกัดกิ๋น แลผู้มีสติปัญญาเป็นอันมาก มาช่วยว่าราชการ แลส่งหนังสือเข้าด้วยโจโฉ โจโฉจึงแต่งตั้งซุนกวนเป็นเจ้าเมืองกังตั๋ง แต่นั้นมา บรรดาราษฎรทั้งปวงแลเมืองขึ้น ก็มีใจยินดีต่อซุนกวนเป็นอันมาก


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 27 ศึกประวัติศาสตร์

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 27 ศึกประวัติศาสตร์

         ฝ่ายอ้วนเสี้ยวกะเกณท์ทหารในเมืองกิจิ๋ว อิวจิ๋ว เซียงจิ๋ว เป๊งจิ๋ว ได้เจ็ดสิบหมื่นยกทัพไปตีฮูโต๋ แฮหัวตุ้นซึ่งรักษาอยู่ตำบลกัวต๋อแจ้งไปยังโจโฉ โจโฉจึงเกณท์ทหารเจ็ดหมื่นห้าพันไปบรรจบกับแฮหัวตุ้น ตั้งคอยทัพอยู่ตำบลแม่น้ำฮองโห

         อ้วนเสี้ยวตั้งประชิดค่ายโจโฉเผชิญหน้ากับอ้วนเสี้ยวต่อสู้ออกรบกันอย่างยืดเยื้อ ทหารโจโฉน้อยกว่าเก้าส่วนสิบส่วน ตั้งสกัดทัพต้านอ้วนเสี้ยวอยู่ โจโฉนับวันจะตกที่นั่งลำบากเสบียงอาหารไม่พอ จึงคิดจะยกกลับฮูโต๋ ซุนฮกซึ่งรักษาเมืองฮูโต๋จึงส่งจดหมายตอบไปว่าฝ่ายอ้วนเสี้ยวขาดแม่ทัพสองคน แลถึงจะมีทหารมากแต่ขาดความชำนาญให้รีบรุดเอาชัยเสีย โจโฉเห็นด้วย ต่อมาได้ข่าวว่าอ้วนเสี้ยวกำลังลำเลียงเสบียงมายัง ณ กัวต๋อจึงส่งคนไปตีเผาเสบียงเสีย กองทัพอ้วนเสี้ยวจึงขาดแคลนเสบียงลงจึงเรียกเสบียงจากตำบลอัวเจ๋า แลที่เก็บเสบียงของอ้วนเสี้ยว ณ ตำบลกัวเจ๋านี้ มีอิเขงดูแลอยู่ แลอิเขงนั้นเสพสุราทุกวันมิได้ขาดไม่สนใจการดูแลเสบียง อยู่มาเขาฮิวที่ปรึกษาอ้วนเสี้ยวน้อยใจหนีออกไปสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ เขาฮิวกับโจโฉนี้เป็นเพื่อนกันมาก่อน โจโฉจึงออกรับขับสู้อย่างดี เขาฮิวเสนอแผนการปล้นเผาเสบียง ณ ตำบลกัวเจ๋าตัดกำลังเสบียงอ้วนเสี้ยวเสีย โจโฉจึงแต่งทหารปลอมเป็นทหารอ้วนเสี้ยวลอบตีอัวเจ๋าแล้วเข้าโจมตีจุดไฟเผาทันที เผายุ้งฉางเสบียงได้หมด อ้วนเสี้ยวรู้ดังนั้นจึงตกใจสั่งเตียวคับ โกลำออกลอบตีค่ายโจโฉแทน โจหอง แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน โจหยิน ลิเตียนออกรบเป็นสามารถ เตียวคับ โกลำสู้ไม่ได้ถอยร่นลงมา

         ขณะนั้นกัวเต๋าที่ปรึกษาอ้วนเสี้ยวเกรงว่าแผนที่ให้เตียวคับ โกลำไปตีค่ายโจโฉมิสำเร็จคิดให้ร้ายแก่เตียวคับ โกลำ เตียวคับ โกลำรู้ดังนั้นจึงคิดว่าถ้ากลับไปตัวต้องตายแน่ จึงเข้าสวามิภักดิ์ด้วยโจโฉ ทหารอ้วนเสี้ยวรู้ว่าเตียวคับ โกลำไปอยู่ด้วยโจโฉก็เกิดความระส่ำระสาย โจโฉเห็นได้ทีจึงออกปล้นค่ายอ้วนเสี้ยวตอนดึก ทั้งแบ่งทหารออกเป็นแปดกอง เข้าโจมตีค่ายอ้วนเสี้ยว ทหารอ้วนเสี้ยวมิมีใจจะรบ ทหารโจโฉจึงฆ่าฟันทหารอ้วนเสี้ยวล้มตายเป็นอันมาก อ้วนเสี้ยวเห็นดังนั้นก็ตกใจตัวรีบหนีข้ามแม่น้ำฮองโหไป ค่ายอ้วนเสี้ยวจึงแตกพ่ายไป แลโจโฉเกลี้ยกล่อมได้ทหารอ้วนเสี้ยวทั้งเก็บทรัพย์สินสิ่งของเป็นจำนวนมาก ดุลอำนาจหัวเมืองตะวันออกของโจโฉ กับอ้วนเสี้ยวจึงเปลี่ยนไปเมื่อโจโฉได้เป็นฝ่ายกำชัยชนะ


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 28 เล่าปี่ขออาศัยเล่าเปียว

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 28 เล่าปี่ขออาศัยเล่าเปียว

         ฝ่ายอ้วนเสี้ยวเมื่อแตกไปกลับมารวบรวมทหารกลับไปเมืองกิจิ๋วสติฟั่นเฟือนไป พอดีอ้วนถัน อ้วนฮีผู้บุตร โกกันผู้หลานคุมทัพมาช่วย อ้วนเสี้ยวมีความยินดีนำทหารสิบหมื่นเศษออกรบโจโฉอีกไป ตั้งมั่น ณ ตำบลซองเต๋ง โจโฉยกทัพตามออกไปพบทัพอ้วนเสี้ยวจึงรบกันเป็นสามารถ อ้วนเสี้ยวสู้มิได้หลบหนีกลับเข้าเมืองอีก แลตัวนั้นป่วยมิออกว่าราชการให้อ้วนซงผู้บุตรออกว่าราชการแทน

         ฝ่ายเล่าปี่นำทหารห้าหมื่นยกทัพมาจะตลบตีฮูโต๋ โจโฉจึงออกรบพุ่งด้วยเล่าปี่แลตั้งค่ายมั่นไว้หลอกเล่าปี่ แล้วแบ่งกำลังไปตีเสบียงเล่าปี่ แลตีเมืองยีหลำ เล่าปี่รู้ดังนั้นก็ตกใจให้เตียวหุยไปช่วยแก้เสบียง กวนอูไปช่วยครอบครัว ณ เมืองยีหลำ แล้วเตรียมถอยค่ายเสีย ฝ่ายโจโฉให้คนมาดักรอ เล่าปี่กับจูล่งจึงช่วยกันรบเป็นสามารถ เล่าปี่เห็นจวนตัวจึงหนีออกมาตัวคนเดียวพบเตียวคับมาสกัดอยู่ เล่าปี่คิดท้อใจฆ่าตัวตาย พอดีจูล่งนำทหารเข้ามาช่วยแก้ไปได้ กวนอูก็พาเตียวหุยกลับมาหาเล่าปี่แล้วหนีมา คิดไปเข้าอาศัยด้วยเล่าเปียว เจ้าเมืองเกงจิ๋ว ฝ่ายเล่าเปียวมีใจยินดีรับไว้ ฝ่ายโจโฉก็ยกทัพกลับไปเมือง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 29 อ้วนเสี้ยวตาย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 29 อ้วนเสี้ยวตาย

         ขณะนั้นพระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จมาอยู่ ณ ฮูโต๋ได้แปดปี อ้วนเสี้ยวตั้งมั่นอยู่ที่เมืองกิจิ๋ว โจโฉจึงนำกำลัง ออกตีอ้วนเสี้ยวอีกครั้ง อ้วนซงผู้บุตรอาสาออกตีโจโฉแต่กลับพ่ายแพ้กลับมา อ้วนเสี้ยวรู้ดังนั้นเป็นกังวล โรคป่วยเก่าจึงกำเริบขึ้นมาเจรจาไม่ออก ว่าให้อ้วนซงปกครองเมืองต่อแลพอลมปะทะเข้ามาก็ขาดใจตาย

         ต่อมาอ้วนซงผู้น้องอ้วนถำจึงขึ้นครองเมืองกิจิ๋วแทนบิดา ฝ่ายอ้วนถำผู้พี่คิดน้อยใจด้วยเป็นบุตรคนโต จึงคิดแย่งชิงอำนาจจากอ้วนซง พอดีโจโฉยกทัพเข้ามาอ้วนถำจึงเข้ารบด้วย อ้วนซง อ้วนฮี โกกัน จึงเข้าช่วยรบโจโฉ โจโฉแบ่งกองกำลังตีพร้อมกันทั้งสี่ค่าย ฝ่ายอ้วนถำ อ้วนซง อ้วนฮี โกกันสู้มิได้จึงถอยร่นมา โจโฉคิดตีตาม กุยแกที่ปรึกษาจึงว่าหากตีตามบุตรอ้วนเสี้ยวทั้งสามจะสมัครสามัคคีกัน ควรที่จะกลับเมือง รอดูให้บุตรทั้งสามแก่งแย่งชิงเมืองกันเอาเองจึงจะรบได้โดยง่าย โจโฉเห็นชอบด้วย


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 30 โจโฉปราบปรามหัวเมืองฝ่ายตะวันออก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 30 โจโฉปราบปรามหัวเมืองฝ่ายตะวันออก

         ต่อมาอ้วนถำ อ้วนซงจึงรบแก่งแย่งชิงดีกันเป็นสามารถ อ้วนถำสู้มิได้ขอเข้าอยู่ด้วยโจโฉ โจโฉเห็นได้ที จึงยกทัพขึ้นเหนือมาลอบตีค่ายอ้วนซงแตก ตีได้เมืองกีจิ๋ว อ้วนถำกลับเข้ารบด้วยโจโฉกลับถูกโจหองแทงตกม้าตาย โจโฉจึงยกไปตีโกกันต่อ อ๋องต๋ำทหารโกกันลอบฆ่าโกกันเสียตัดศีรษะไปให้โจโฉ โจโฉมีความยินดีจึงล่วงไปตีอ้วนซง อ้วนฮีแลกุยแกนั้นป่วยหนักนอนมาบนเกวียน โจโฉจึงล่วงไปตีหัวเมืองฝ่ายตะวันตกก่อน ครั้นพอกลับมารู้ว่ากุยแกตายแล้ว ก็ร้องไห้รักเป็นมากว่ากุยแกอายุน้อยกว่าอีกหน่อยจะฝากฝังบ้านเมืองให้ดูแลแลมาตายนี้มิควรเลย อุปมาเหมือนเทพดามาทำลายชีวิตเราเสียแล้วจุดเทียนเซ่นศพกุยแกร้องไห้รัก

         แลก่อนตายนั้นกุยแกแต่งหนังสือเสนอมิให้ตามอ้วนซง อ้วนฮีที่ไปอาศัยอยู่กับกองซุนของ กองซุนของคอยท่าโจโฉเกรงว่าจะรบมาตีจึงเลี้ยงดูอ้วนซง อ้วนฮีไว้เป็นทหาร พอเห็นว่าโจโฉมิได้ตามตีจึงฆ่าอ้วนซง อ้วนฮีตัดศีรษะไปให้โจโฉเอาความชอบ โจโฉจึงปราบปรามหัวเมืองฝ่ายตะวันออกราบคาบแต่นั้นมาแล้วยกทัพกลับฮูโต๋

         ต่อมาโจโฉพบนกยูงทองแดงเปล่งประกายอยู่ โจโฉจึงเกณฑ์ชาวเมืองก่อสร้างปราสาทสูงใหญ่ริมแม่น้ำเจียงโห เอานกยูงไว้บนปราสาท หนึ่งปีจึงเสร็จสิ้น ให้ชื่อว่าปราสาทนกยูงสัมฤทธ์ กะเกณท์ได้ทหารอ้วนเสี้ยว มาห้าสิบหมื่นแลทหารเอกเป็นจำนวนมากบำรุงทแกล้วทหารอยู่


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 31 สมภพอาเต๊า

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 31 สมภพอาเต๊า

          ฝ่ายเล่าปี่ครั้นมาอยู่กับเล่าเปียวเวลาล่วงมานาน นางกำฮูหยินภรรยาเล่าปี่ได้ให้กำเนิดบุตรชาย ให้ชื่อว่าอาเต๊าแลเล่าเปียวให้เล่าปี่ไปอยู่ ณ เมืองซินเอี๋ย แต่ตัวเล่าเปียวยังเรียกเล่าปี่มาปรึกษาราชการอยู่เนืองๆ อยู่มาเล่าเปียวเชิญเล่าปี่มาปรึกษาเรื่องการยกตำแหน่งเจ้าเมืองเกงจื๋วให้บุตรทั้งสอง เล่าปี่เสนอให้ยกให้เล่ากี๋ด้วยว่าเป็นบุตรคนโต ชัวฮูหยินกับชัวมอผู้ซึ่งคิดให้เล่าจ๋องขึ้นครองอำนาจคิดแค้นเล่าปี่เป็นอันมาก จึงคิดแผนเชิญเล่าปี่เป็นเจ้าภาพแทนเล่าเปียวรับคำนับหัวเมืองในวันปีใหม่พยายามลอบฆ่าแต่มิสำเร็จ เล่าปี่หนีออกทางประตูเมืองทางด้านตะวันตกแลพลัดหลงมิรู้ไปทางใดหนีมาถึงแดนเมืองลำเจี๋ยง


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 32 เล่าปี่ได้ชีซีเป็นที่ปรึกษา

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 32 เล่าปี่ได้ชีซีเป็นที่ปรึกษา

         เล่าปี่หนีมาพอเวลาเพลาพบเด็กเลี้ยงควายทักว่าเล่าปี่ เล่าปี่นึกสงสัยว่ารู้จักได้อย่างไร เด็กเลี้ยงควายจึงพาไปพบอาจารย์สุมาเต็กโช ครั้นสนทนากัน สุมาเต็กโชว่าผู้มีสติปัญญามิสู้ไกลนัก อันฮกหลงกับฮองซูหากได้มาแต่ผู้หนึ่งก็สามารถครองแผ่นดินได้ เล่าปี่ได้ครุ่นคิดนัก รุ่งเช้าจูล่งเที่ยวตามหาจนพบ เล่าปี่จึงคำนับสุมาเต็กโชลาออกมา พบชีซีเดินทำเพลงด้วยถ้อยคำแยบคาย เล่าปี่กริ่งใจว่าเป็นผู้มีสติปัญญา จึงเข้าสนทนาด้วยรู้ว่าเป็นชีซีจึงเชื้อเชิญเข้ามาทำการด้วยให้คุมบังคับบัญชาทหารทั้งปวง

         อยู่มาโจหยิน ลิเตียนซึ่งอยู่ ณ เมืองห้วนเสียรู้ว่าเล่าปี่อยู่ที่เมืองซินเอี๋ยจึงเข้ารบด้วย ชีซีเสนอแผนการให้จูล่งเข้าแก้กระบวนพยุหะแปดกุญแจทองของโจหยินแลให้กวนอูอ้อมเข้าตีเมืองห้วนเสีย โจหยิน ลิเตียนสู้มิได้จึงถอยหนีไปเมืองฮูโต๋ ครั้นเล่าปี่ได้เมืองห้วนเสียแล้วได้เล่าฮองเป็นบุตรบุญธรรม ให้จูล่งอยู่รักษาเมือง ตัวเล่าปี่ ชีซี กวนอู เตียวหุย กลับไปเมืองซินเอี๋ย


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 33 เล่าปี่เยือนกระท่อมโงลังกั๋ง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 33 เล่าปี่เยือนกระท่อมโงลังกั๋ง

         ฝ่ายโจหยินหนีไปพบโจโฉ รู้ว่าเล่าปี่ได้ชีซีเป็นที่ปรึกษาคิดดึงตัวมาอยู่ด้วยมิให้เล่าปี่คิดการกำเริบ จึงเชิญมารดาชีซีมาเลี้ยงดูแล้วส่งจดหมายปลอมเป็นว่าให้เรียกตัวชีซีมาอยู่ด้วยโจโฉ ด้วยชีซีเป็นคนกตัญญูจึงมิได้รู้เท่าทันจึงลาเล่าปี่ไปอยู่ ณ ฮูโต๋ แลก่อนไปนั้นเล่าปี่ร้องไห้รักเป็นอันมาก ชีซีจึงว่าใกล้ๆนี้มีผู้มีสติปัญญาอยู่ด้วยชื่อว่าฮกหลงหรือว่าขงเบ้ง เล่าปี่มีใจยินดีเป็นอันมาก ชีซีจึงลาไปแล้วรู้ว่าแม่ฆ่าตัวตายเนื่องจากตัวหลงเบาปัญญาซึ่งโจโฉ ต่อมาชีซีจึงมิมีใจอยู่ด้วยโจโฉโดยสุจริต

         ฝ่ายเล่าปี่จึงพากวนอู เตียวหุย ไปเขาโงลังกั๋งเพื่อคำนับขงเบ้งครั้งแรกมิเจอพบแต่เพื่อนขงเบ้ง ต่อมาเล่าปี่รู้ข่าวว่าขงเบ้งกลับมาแล้วจึงไปเยือนอีกครั้งก็มิพบแต่ให้เขียนจดหมายคำนับฝากไว้เพียงพบเพื่อนขงเบ้งคุยกัน ณ ร้านสุราเล่าปี่สำคัญผิดจึงเข้าไปคำนับ ครั้นรู้ว่ามิใช่จึงละอายยิ่งนัก

         อยู่มาฤดูหนาวเล่าปี่จัดแจงไปคำนับอีกครั้งจึงพบ ขงเบ้งนอนอยู่จึงมิอาจปลุก ขงเบ้งแสร้งนอนถึงตะวันคล้อย จึงตื่นเข้าสนทนาด้วยเล่าปี่ทั้งบิดพริ้วอยู่ ขงเบ้งแจงให้เห็นว่า กำลังแผ่นดินจีนจะแบ่งออกเป็นสามก๊ก เล่าปี่ได้ฟังอย่างนั้นนึกเลื่อมใสแลว่าอย่าบิดพริ้วอยู่เลยไปทำราชการด้วยกันเถอด ขงเบ้งจึงปลงใจอยู่ด้วย จัดแจงร่ำลาจูกัดกิ๋นผู้น้องแล้วไปอยู่ด้วยเล่าปี่ ณ เมืองซินเอี๋ย เล่าปี่จึงให้เป็นที่ปรึกษากิจการทั้งปวง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 34 ซุนกวนคิดตีเล่าเปียว

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 34 ซุนกวนคิดตีเล่าเปียว

         อยู่มาฝ่ายซุนกวนเกลี้ยกล่อมผู้มีสติปัญญาเป็นอันมาก ซุนเซียงผู้น้องกับงอฮูหยินผู้เป็นมารดาถึงแก่ความตาย ซุนกวนจึงให้แต่งการศพไว้ แลได้ข่าวว่ากำเหลงหนีออกจากเล่าเปียวกับหองจอเข้ามาอยู่ด้วย ซุนกวนจึงรับไว้ กำเหลงเสนอให้ซุนกวนออกตีหองจอเจ้าเมืองกังแฮ กำเหลงอาสาออกตีด้วย เอาเกาทัณฑ์ยิงไปถูกหองจอตกม้าตาย แลซุนกวนจึงเอาศีรษะหองจอมาเซ่นไหว้บิดา ด้วยแต่ก่อนหองจอเป็นคนฆ่าซุนเกี๋ยนผู้บิดา ตอนรวมหัวเมืองเข้าสู้ตั๋งโต๊ะแล้วซุนกวนก็เลิกทัพกลับเข้าเมืองกังตั๋งด้วยเกรงเล่าเปียวจะวางกำลังไว้แน่นหนา

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 35 เผาทุ่งพกบ๋อง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 35 เผาทุ่งพกบ๋อง

         ฝ่ายเล่าเปียวคิดใช้ให้เล่าปี่ไปตีเมืองกังตั๋งหวังแก้แค้น ขงเบ้งคิดอ่านให้บ่ายเบี่ยงก่อน แลเล่าเปียวจะยกเมืองให้เล่าปี่ เล่าปี่ก็มิอาจรับ อยู่มาเล่ากี๋ผู้บุตรเล่าเปียวเข้าขอคำปรึกษาขงเบ้ง เรื่องกลัวอันตรายจากชัวฮูหยินกับชัวมอ ขงเบ้งจึงแนะนำให้เล่ากี๋ไปอยู่ ณ เมืองกังแฮ

         ฝ่ายโจโฉได้สุมาอี้เป็นที่ปรึกษาคิดกำเริบหวังตีหัวเมืองชายทะเลสิ้น ส่งแฮหัวตุ้นกับทหารสิบหมื่นออกตีเล่าปี่ ณ เมืองซินเอี๋ย เล่าปี่กองกำลังน้อยกว่าขงเบ้งจึงให้ตั้งค่ายซุ่ม ณ ทุ่งพกบ๋องแลแฮหัวตุ้นประมาทมิฟังคำทัดทานของลิเตียน จึงถูกลอบวางเพลิงเสีย ทหารแฮหัวตุ้นวิ่งหนีแตกตื่นเหยียบตายกันเป็นอลหม่านบ้างหนีไม่ทันตายในเพลิงเป็นอันมาก ด้วยสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าแขมไฟจึงลามไปทั่วกองทัพ ศพดาษดังขอนไม้ โลหิตแดงไปทั้งป่า ทหารสิบหมื่นตายสิ้น แฮหัวตุ้นเสียทีดังนั้นจึงทิ้งทหารหนีกลับเมืองฮูโต๋ แลฝีมือของขงเบ้งแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แต่นั้นมา เตียวหุย กวนอูกับนายทหารอื่นจึงเลื่อมใสขงเบ้งยิ่งนัก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 36 โจโฉยาตราทัพลงใต้

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 36 โจโฉยาตราทัพลงใต้

          ฝ่ายเล่าเปียวป่วยหนักใกล้ตายเรียกเล่ากี๋เข้าพบแต่ถูกชัวมอห้ามไว้เล่ากี๋มิรู้ทำอย่างไร จึงจำใจกลับไปเมืองกังแฮ อยู่มาเล่าเปียวโรคป่วยกำเริบจึงถึงแก่ความตาย จึงให้แต่งการศพตามประเพณี แล้วชัวมอก็ตั้งให้เล่าจ๋องเป็นเจ้าเมืองแทนบิดาต่อไป

          อยู่มาโจโฉกะเกณท์ทหารเข้าถึงห้าสิบหมื่นยกลงใต้หวังตีแผ่นดินให้ราบคาบ เล่าจ๋องรู้ดังนั้นจึงตกใจ คิดอ่านยกเมืองเกงจิ๋วให้โจโฉ โจโฉแจ้งดังนั้นก็มีความยินดี

         ฝ่ายเล่าปี่รู้ว่าเล่าเปียวตายแล้วจึงร้องไห้จนสลบ แล้วขงเบ้งคิดอ่านให้เล่าปี่ย้ายจากเมืองซินเอี๋ย ไปเมืองอ้วนเซีย เพื่อคิดอ่านป้องกันโจโฉแลเล่าปี่จึงชักชวนราษฎรประชาราษฎร์ให้ติดตามไปด้วย ฝ่ายโจหยิน เคาทูยกทัพเป็นกองหน้าเข้าเห็นเมืองซินเอี๋ยว่างอยู่จึงเข้าไปพัก ถูกกลขงเบ้งให้จูล่งเข้าเผาเมือง ทหารโจหยินเหยียบหนีตายกันอลหม่านหนีมาถึงริมฝั่งแม่น้ำ ถูกกวนอูซุ่มให้ทหารพังทำนบน้ำไหลบ่าลงมา ทหารโจหยินจมน้ำตายเป็นอันมาก เตียวหุยเข้าสกัดไว้อีกทัพโจหยินแตกหนีมิมีใจจะรบจึงหนีมาเข้ารวมกับโจโฉ

         โจโฉรู้ดังนั้นก็โกรธให้ชีซีไปเกลี้ยกล่อมเล่าปี่ ณ เมืองอ้วนเซีย เล่าปี่มิยอมโจโฉจึงยาตราทัพ ไปเมืองอ้วนเซียหวังล้างเล่าปี่ให้สิ้น แลขงเบ้งเห็นว่าถ้าตั้งอยู่ที่เมืองอ้วนเสียนั้นมิได้จึงโยกย้ายไปเมืองซงหยง ราษฎรแลอาณาประชาราษฎร์ขอติดตามเล่าปี่ไปด้วย ชาวเมืองทั้งปวงก็ทิ้งบ้านเมืองเสียอพยพร้องไห้ตามเล่าปี่ เสียงนั้นอื้ออึงไป แลเล่าปี่ไปถึงเมืองซงหยงนั้นเข้าไม่ได้จึงไปยังเมืองกังเหลง

         ฝ่ายโจโฉติดตามมาถึงเมืองอ้วนเซียใกล้จะทันอยู่แล้ว ขงเบ้งจึงให้กวนอูไปขอทหารจากเล่ากี๋ ณ เมืองกังแฮ ให้จูล่งคุมครอบครัว ตัวเล่าปี่ เตียวหุยคุมทหารไปป้องกันอยู่หลังทัพ แลเดินทางได้แต่วันละร้อยเส้น

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 37 จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 37 จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า

         ครั้นโจโฉยกทัพมาถึงเมืองซงหยง เล่าจ๋องจึงออกมาคำนับ โจโฉจึงให้เล่าจ๋องไปอยู่เมืองเฉงจิ๋ว ให้ชัวมอ เตียวอุ๋นเป็นนายกองทัพเรือฝึกทหารทั้งปวง แล้วโจโฉจึงส่งอิกึ๋มไปฆ่าเล่าจ๋องกับชัวฮูหยินเสียระหว่างทาง ครั้นบำรุงไพร่พลทหารเสร็จแล้วจึงยกกองทัพหลวงต่อไปยัง ณ เมืองกังเหลง ฝ่ายเล่าปี่เร่งเดินทางอยู่ ขงเบ้งจึงออกไปตามกวนอู ณ เมืองกังแฮอีกคน

         ครั้นประมาณสามยามเล่าปี่ได้ยินเสียงโห่ร้องอื้ออึงมา เล่าปี่ก็ตกใจยกทหารสองพันเข้ารบด้วยโจโฉเป็นสามารถ เตียวหุยเห็นดังนั้นก็เข้าช่วยหักไปช่วยเล่าปี่ ทหารโจโฉจึงรุกไล่ฆ่าฟันอาณาประชาราษฎร์หลบหนีวุ่นวาย การโกลาหลยิ่งนัก ครอบครัวเล่าปี่ถูกทหารไล่มาก็พลัดพรากกระจายไปกับชาวบ้าน เล่าปี่กับเตียวหุยก็ช่วยต้านทานเป็นสามารถ แต่มิอาจสู้ได้เหลือทหารแต่ร้อยหนึ่ง แลครอบครัวราษฎรบาดเจ็บล้มตายยิ่งนัก

         เล่าปี่กับเตียวหุยหลบหนีผ่านสะพานเตียงปันเกี้ยวไป ตัวเตียวหุยก็วกกลับเข้ามายืนขี่ม้าถือทวนสกัด แต่เพียงผู้เดียว ทหารโจโฉสำคัญเป็นเตียวหุยก็เกิดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ ฝ่ายจูล่งซึ่งเล่าปี่ให้คุมครอบครัวตัวอยู่นั้น ตะลุมบอนอยู่ในทัพโจโฉ ตีตลบกลับแล้วตีหักไปอีก ตามหาตัวอาเต๊าบุตรเล่าปี่แลกำฮูหยิน บิฮูหยินภรรยาเล่าปี่ก็มิพบ จนรุ่งสว่างจึงหักเข้าไปควานหาอีก พบชาวบ้านต้องอาวุธบาดเจ็บเป็นอันมาก แลเสียงร้องไห้อื้ออึงคะนึงไป พบนางกำฮูหยิน จึงพาออกมาถึงต้นสะพานแล้ววกกลับเข้าไปหาอีกเป็นหลายตลบ พบบิฮูหยินบาดเจ็บอุ้มอาเต๊าอยู่ จูล่งรีบเข้าไปแล้วชวนให้รีบหนี ฝ่ายนางบิฮูหยินรู้ว่าตัวบาดเจ็บจะเป็นตัวถ่วงจึงรั้นมิไป ฝากอาเต๊าให้จูล่ง แล้วตัวก็รีบกระโจนลงในบ่อที่อยู่ข้างๆตกลงไปตาย จูล่งเห็นดังนั้นจึงร้องไห้แลกลบปากบ่อเสียหวังมิให้ทหารโจโฉพบ แล้วถอดเกราะเอาอาเต๊าไว้ข้างใน รบฝ่าหนีทหารโจโฉออกมาแต่เพียงผู้เดียว ฝ่ายทหารโจโฉเข้าล้อมสกัดเป็นอันมาก จูล่งก็รบฝ่าออกมารบพุ่งกันอลหม่านฆ่าทหารเอกแลทหารเลวโจโฉมากมาย โลหิตนั้นติดกายแลเกราะเป็นอันมาก จูล่งก็ขับม้ารีบหนีไปถึงสะพานเตียงปันเกี้ยว ตัวจูล่งแลม้าที่ขี่ก็อ่อนแรงลง เตียวหุยจึงว่าเจ้ารีบขับม้าพาบุตรไปให้เล่าปี่เถิด จูล่งก็ขับฝ่าไป เตียวหุยเข้าสกัดแลเห็นสัปทนกั้นมาข้างหลังก็รู้ว่าโจโฉทัพหลวงมาถึงเอง จึงร้องตวาดด้วยเสียงอันดัง ทหารโจโฉก็กลัวมิกล้าเข้าใกล้ทั้งเกรงในกลขงเบ้ง แล้วเตียวหุยก็ให้ชักกระดานสะพานเสียพาทหารกลับมาหาเล่าปี่ แลโจโฉสำคัญในกลจึงให้ทำสะพานแล้วยกทหารตามไป

         ฝ่ายเล่าปี่เห็นผงคลีฟุ้งตลบอยู่ แลเสียงโห่ร้องอื้ออึงคนึง ก็สำคัญว่าโจโฉยกทัพมาถึงตัวแล้ว แลมิรู้จะหนีไปทางใด พอดีกวนอู เล่ากี๋ยกทหารข้ามเรือมาช่วยพอดีเข้าช่วยสกัดรบพุ่งทหารโจโฉ เล่าปี่เห็นดังนั้นก็มีความยินดียิ่งนัก ขงเบ้งจึงให้กวนอูไปอยู่เมืองแฮเค้า ตัวเล่าปี่ ขงเบ้งไปอยู่กับเล่ากี๋ ณ เมืองกังแฮ ฝ่ายโจโฉนึกสำคัญว่ากลขงเบ้งจึงมิอาจไล่ตีตามด้วยเกรงอยู่ แล้วไปอยู่ ณ เมืองเกงจิ๋ว สะสมพลทหารลือว่าได้ร้อยหมื่น

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 38 ขงเบ้งเจรจากับที่ปรึกษาซุนกวน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 38 ขงเบ้งเจรจากับที่ปรึกษาซุนกวน

         ฝ่ายซุนกวนรู้ว่าโจโฉยกมาเป็นการเอิกเริกยิ่งนัก จึงให้โลซกไปสืบราชการ ณ เมืองเกงจิ๋ว ครั้นโลซกมาถึงก็เข้าแวะเยี่ยมเล่าปี่ ขงเบ้ง จึงได้สนทนากัน ฝ่ายขงเบ้งคิดยุให้โจโฉกับซุนกวนผิดใจกัน จึงลาเล่าปี่ไปเข้าพบซุนกวน ณ เมืองกังตั๋ง

         ครั้นมาถึงเมืองกังตั๋งโลซกก็จัดหาที่อยู่ให้ขงเบ้ง แล้วตัวโลซกเข้าพบซุนกวน พบที่ปรึกษาแลนายทหารทั้งปวงเกี่ยงกันเป็นสามารถด้วยฝ่ายหนึ่งให้เข้าอ่อนน้อมด้วยโจโฉ อีกฝ่ายให้เข้าสู้รบเป็นสามารถ ฝ่ายซุนกวนด้วยเป็นคนเรรวนมิรู้จะทำประการใดจึงนิ่งอยู่ พอดีโลซกว่าขงเบ้งมา ณ เมืองกังตั๋ง ซุนกวนมีความยินดีจึงเชิญขงเบ้งเข้ามา

         ครั้นขงเบ้งเข้ามาพบที่ปรึกษาซุนกวนหลายคน จึงเข้าสนทนาอยู่ ฝ่ายเตียวเจียว ยีหวน โปเจ๋า ซีหอง ลกเจ๊ก เหยียมจุ้น เทียตก ผู้สนับสนุนให้ซุนกวนเข้าอ่อนน้อมด้วยโจโฉ ปะทะคารมกับขงเบ้งเป็นอันมาก แลแต่ละคนมิสู้ปากขงเบ้งก็เลยนิ่งอยู่ ครั้นอุยกายพาขงเบ้งเข้าพบซุนกวน ขงเบ้งก็เข้ายุแหย่ซุนกวนให้สู้ด้วยโจโฉ ซุนกวนก็ยังเรรวนอยู่มิรู้ทำประการใด ด้วยฝ่ายขุนนางเข้าด้วยเตียวเจียวให้เข้าอ่อนน้อมแก่โจโฉ แลฝ่ายทหารเข้าด้วยโลซกแลขงเบ้งให้รบด้วยโจโฉ จึงมิรู้ทำประการใด

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 39 ซุนกวนตัดสินใจรบด้วยโจโฉ

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 39 ซุนกวนตัดสินใจรบด้วยโจโฉ

         ซุนกวนก็มีความวิตกนัก พอดีนางงอก๊กไถ้ผู้เป็นแม่น้าจึงว่า ตอนที่ผู้พี่เจ้าตายการข้างในให้ปรึกษาเตียวเจียว การข้างนอกให้ปรึกษาจิวยี่ ซุนกวนก็เพิ่งรำลึกถึงจิวยี่ได้ก็มีความยินดีจึงเรียกจิวยี่เข้าไปพบเพื่อปรึกษา

         ฝ่ายจิวยี่เข้าพบขงเบ้งแลโลซก จิวยี่จึงว่าให้อ่อนน้อมด้วยโจโฉ ฝ่ายขงเบ้งจึงเข้ายุแหย่จิวยี่ให้สู้รบ โดยอ้างว่าโจโฉมากังตั๋งต้องการสองนางไปบำเรอ ชื่อว่า นางเสียวเกี้ยว กับนางไต้เกี้ยว จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็โกรธด้วยว่านางเสียวเกี้ยวเป็นภรรยาของตัวอยู่นั่นเอง แล้วเข้าพบซุนกวนเพื่อเสนอให้เข้าสู้โจโฉ ซุนกวนจึงตัดสินใจเด็ดขาดให้จิวยี่ถืออาญาสิทธิ์ทั้งปวงแล้วเข้ารบด้วยโจโฉ

         ฝ่ายจิวยี่เห็นขงเบ้งหลักแหลมรู้น้ำใจคนจึงว่านานไปจะเป็นศัตรูต้องรีบกำจัดเสีย ครั้นอยู่มาเล่าปี่รู้ข่าวว่าซุนกวนตัดสินใจตีโจโฉจึงจัดแจงพลทหารสิ้นไปตั้งอยู่ ณ เมืองแฮเค้า จิวยี่จึงแสร้งทำอุบายเชิญเล่าปี่มาปรึกษาราชการที่เมืองกังตั๋งหวังลอบฆ่าเสีย เล่าปี่จึงพากวนอูมาด้วย ทหารจิวยี่เห็นกวนอูจึงเกรงกลัวยิ่งนักมิอาจทำอันตรายเล่าปี่ได้ ฝ่ายขงเบ้งรู้ว่าเล่าปี่มายังกังตั๋งจึงเข้าพบแล้วว่า เดือนอ้ายแรมห้าค่ำให้จูล่งมารับ ณ ริมฝั่งแม่น้ำ แล้วเล่าปี่ก็ลากลับไป ณ เมืองแฮเค้า


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 40 ขงเบ้งยืมเกาทัณฑ์

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 40 ขงเบ้งยืมเกาทัณฑ์

         ฝ่ายชัวมอ เตียวอุ๋นจัดแจงฝึกทัพเรือให้กล้าแข็ง ด้วยทหารโจโฉเป็นชาวเหนือไม่ชำนาญทางเรือ จิวยี่รู้ดังนั้นก็คิดอุบายกำจัดชัวมอ เตียวอุ๋นเสีย พอดีเจียวก้านข้ามมายัง ณ กังตั๋งหวังเกลี้ยกล่อมจิวยี่เข้าด้วยโจโฉ จิวยี่เห็นได้ทีจึงทำทีเชิญเจียวก้านกินโต๊ะแล้วเผลอหลับไป ฝ่ายเจียวก้านนอนไม่หลับลุกขึ้นมา พบจดหมายที่ชัวมอ เตียวอุ๋นส่งมาให้จิวยี่ที่จิวยี่ปลอมไว้ สำคัญว่าจริงก็รีบแอบนำจดหมายกลับมาให้โจโฉ

         ฝ่ายโจโฉครั้นได้เปิดอ่านแล้ว มิรู้เท่าทันกลจิวยี่ จึงเรียกให้ชัวมอ เตียวอุ๋นไปประหารเสีย จิวยี่แจ้งดังนั้นในอุบายก็มีความยินดีสิ้นวิตก ฝ่ายขงเบ้งรู้เท่าทันกลจิวยี่ จิวยี่รู้ดังนั้นก็มีความริษยาขงเบ้งเป็นอันมาก คิดอุบายหาขงเบ้งเข้ามาแล้วว่าให้ช่วยทำเกาทัณฑ์สิบหมื่นดอกในสิบวัน ขงเบ้งรู้ดังนั้นก็แจ้งว่า จิวยี่ปราถนาจะหาความผิดใส่ตัวเสียจะได้ฆ่าเสีย จึงออกปากเพียงว่าจะได้ลูกเกาทัณฑ์ในสามวันเท่านั้น จิวยี่จึงนึกว่าขงเบ้งหลงในอุบายตัวเข้าแล้ว

         ฝ่ายขงเบ้งนิ่งเสียสองวันครั้นวันที่สามจึงชวนโลซกลงเรือ แล้วพาเรือเล็กยี่สิบลำ ไปยังทัพโจโฉตอนดึก เรือแต่ละลำนั้นเต็มไปด้วยหุ่นฟางมัดสีดำเป็นอันมาก ขณะนั้นหมอกลงจัดฝ่ายโจโฉเห็นเรือแล่นเข้ามา ก็สำคัญว่าเป็นเรือข้าศึกก็ระดมยิงเกาทัณฑ์เข้าใส่เรือเป็นอันมาก มิเห็นว่าทหารมากแลน้อย ครั้นลูกเกาทัณฑ์เต็มฝั่งขงเบ้งก็ให้กลับแคมรับอีกฝั่งนึง จนเรือแต่ละลำเต็มไปด้วยเกาทัณฑ์จึงยกกลับ ได้เกาทัณฑ์ติดฟางมาเป็นอันมากนับได้เกินสิบหมื่น จิวยี่เห็นดังนั้นก็ทอดใจใหญ่แล้วว่า ขงเบ้งมีสติปัญญาลึกซึ้งยิ่งนัก

         พอดีขงเบ้งเดินเข้ามา จิวยี่จึงว่าทัพโจโฉยกทัพมาขนาดนี้เห็นจะหักโหมเข้าไปก็จะขัดสน จึงว่าเรามีกลอุบายอยู่อันนึง ขงเบ้งจึงว่าให้เขียนกลอุบายลงฝ่ามือ ออกมาดูพร้อมกัน จิวยี่เห็นชอบ ครั้นเขียนเสร็จก็แบมืออกมาพบคำว่าเพลิงต้องกัน แล้วแต่ละคนก็หัวเราะ จิวยี่จึงว่าอย่าให้การนี้แพร่งพรายไป

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 41 ขงเบ้งเรียกลมตะวันออก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 41 ขงเบ้งเรียกลมตะวันออก

         ฝ่ายจิวยี่วิตกอยู่ด้วยหาคนไปสอดแนมฝ่ายโจโฉ อุยกายเห็นดังนั้นจึงอาสาทำทีเป็นเข้าด้วยโจโฉ จิวยี่มีความยินดีนัก รุ่งเช้าจึงสั่งให้โบยอุยกายเสียทำทีให้เจ็บแค้น แล้วส่งงำเต๊กไปแต่งกลลวงโจโฉ โจโฉก็สำคัญเชื่อให้หาอุยกายเข้ามา ครั้นยังคลางแคลงใจอยู่ จึงหาผู้อาสาไปสอดแนมราชการที่เมืองกังตั๋ง ดูว่าเป็นจริงแลร้ายประการใด ฝ่ายเจียวก้านเห็นดังนั้นจึงว่าตัวขออาสาไปสอดแนมอีกครั้ง ด้วยขอแก้ตัวซึ่งครั้งก่อนซึ่งทำการพลาดไป โจโฉก็ยินยอมให้ไป

         ครั้นเจียวก้านมาถึงจิวยี่ก็ทำทีเป็นโกรธแล้วให้ไปคุมไว้ ณ วัดเชิงเขา ฝ่ายเจียวก้านมีความทุกข์ มิเป็นอันกินอันนอน พบบังทองเจียวก้านจึงเข้าไปคำนับแล้วว่าท่านนี้หรือคืออาจารย์ฮองซู มีความยินดีเป็นอันมากจึงเชิญไปพบโจโฉ ณ ค่ายโดยหารู้ไม่ว่าต้องกลอุบายจิวยี่เสียแล้ว

         ครั้นเจียวก้านพาบังทองมายังค่าย โจโฉก็มีความยินดีนักแล้วพาบังทองไปชมทัพเรือ บังทองเห็นดังนั้นจึงแสร้งแนะนำให้ผูกเรือติดกันเข้าไว้ด้วยโซ่ตรวนเพื่อไม่ให้ทหารเมาคลื่นระส่ำระสาย ด้วยเรือธรรมดานั้นโคลงเคลงทหารโจโฉไม่สันทัดจึงอาจเมาได้ง่าย โจโฉมิทันคิดก็มีความยินดีนัก แล้วให้เร่งทำการตามบังทองบอก แล้วบังทองก็ลวงโจโฉว่าจะไปเกลี้ยกล่อมคน ณ เมืองกังตั๋งให้เข้าด้วยโจโฉ โจโฉมีความยินดีนักจึงให้ไป ฝ่ายเทียหยกจึงเข้าว่าให้เรือผูกติดกันฉะนี้หากข้าศึกใช้เพลิงเผาเสียก็จะมีอันตรายเป็นมั่นคง โจโฉได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะแล้วว่าฤดูนี้เป็นเทศกาลแจ้งเห็นแต่จะมีลมว่าวแต่ลมตะวันตกหากจิวยี่ใช้ เพลิงก็จะกลับเข้าไปเผาตัวเองเป็นมั่นคง

         ฝ่ายจิวยี่แลเห็นปลายธงพัดมาจากต้นลม ณ ค่ายโจโฉก็สะดุ้งใจ จึงคิดว่าการที่คิดไว้เห็นจะไม่เป็นผล ด้วยลืมฉุกคิดถึงเรื่องลมเสีย ว่าแล้วก็อาเจียนโลหิตสลบลงกับที่แล้วก็ป่วยอยู่ ฝ่ายขงเบ้งรู้ดังนั้นก็เข้าพบจิวยี่รู้ว่า ณ เดือนอ้ายแรมห้าค่ำจะเกิดลมสลาตัน จึงแสร้งว่าสามารถทำพิธีเรียกลมสลาตันได้ จิวยี่รู้ดังนั้นมีความยินดีที่ป่วยอยู่ก็คลายลง

         ครั้น ณ เดือนอ้ายแรมสามค่ำขงเบ้งก็ทำพิธี จิวยี่จึงให้อุยกายจัดแจงกองทัพไว้ให้พร้อม รอลมมาจะยกทำการตีโจโฉทันที ถึงเวลาสองยามเศษได้ยินเสียงลมจากทิศอาคเนย์อื้ออึงมา จิวยี่จึงมีความยินดีเห็นคงเบ้งมีสติปัญญาเป็นอันมากจึงส่ง ชีเซ่ง เตงฮองไปฆ่าเสีย ฝ่ายขงเบ้งพอเรียกลมเสร็จแล้วก็หลบหนี ไปพบจูล่ง ณ ริมฝั่ง ฝ่ายชีเซ่ง เตงฮองตามไปก็อาจสู้จูล่งได้ ครั้นขงเบ้งมาถึงก็ให้เล่าปี่ไปรอดักซุ่มตีทางหนีโจโฉ

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 42 โจโฉแตกทัพเรือ

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 42 โจโฉแตกทัพเรือ

         ฝ่ายโจโฉนั้นตั้งใจคอยฝั่งอุยกายอยู่ตลอดเวลา ครั้นถึงเวลาเห็นอุยกกายนำเรือเข้ามาใกล้ เทียหยกเห็นผิดสังเกตจึงว่าแก่โจโฉ โจโฉเห็นชอบด้วยจึงให้บุนเพ่งไปห้ามเรือเสียก่อน อุยกายเห็นได้ทีดังนั้นก็สั่งเรือเร่งเข้าไปจุดไฟขึ้น ครั้นลมสลาตันพัดหนักกล้า ทหารโจโฉก็เข้าดับเพลิงมิทัน เรือที่ผูกติดกันแก้ไม่ได้ก็ถูกเพลิงวอดสิ้นเพลิงลามติดเป็นหลายตำบล ทหารโจโฉก็วิ่งวุ่นวายไปการนั้นโกลาหลนัก ขณะนั้นทัพจิวยี่ จิวท่าย ชีเซ่ง เตงฮองมาถึงก็ตีหักเข้าไป ทหารจิวยี่เข้าไปถึงไหน เพลิงก็ลุกติดขึ้น แลทหารโจโฉหนีมิทันต้องอาวุธเจ็บปวดล้มตายเป็นอันมาก ที่หนีมิทันก็ตายในกองเพลิงบ้าง ตกน้ำตายบ้าง

         ฝ่ายโจโฉเห็นดังนั้นก็ตกใจขี่ม้าหลบหนีไปทางตำบลฮัวหลิมพบลิบอง เล่งทองเข้าไล่ตีตามมา เตียวเลี้ยวกับซิหลงก็เข้าสู้เป็นสามารถมิได้แพ้ชนะกัน ซิหลงก็พาโจโฉหนีต่อ พบกำเหลงดักทางอยู่จึงหนีไปทางหับป๋า

         ครั้นหนีมาใกล้ตำบลฮัวหลิมพบจูล่งเข้าสกัดทางอยู่ เตียวคับ เตียวเลี้ยวก็เข้าช่วยป้องกันทางด้านหลัง แลทหารโจโฉทิ้งม้าแลศัสตราวุธเป็นอันมากแล้วโจโฉก็สั่งให้รีบหนีไป ครั้นมาถึงตำบลโฮเลาก๊ก ก็ให้หยุดหุงอาหารอยู่ยังมิทันสุกได้กิน เตียวหุยก็เข้าล้อมไว้ เคาทู เตียวเลี้ยว ซิหลง ก็เข้าป้องกันเป็นสามารถแล้วรีบหนีไป ทหารที่หนีมานั้นก็อิดโรยทั้งต้องอาวุธบาดเจ็บเป็นมากแลเห็นทางเข้าลำกุ๋น ก็หลงในกลขงเบ้ง เข้าไปทางน้อยแลทางนั้นแคบเดินลำบากนักโจโฉก็ให้เร่งให้เดินไป ครั้นพ้นซอกเขาโจโฉก็หัวเราะขึ้นแล้วว่า หากขงเบ้งให้คนมาซุ่มอยู่ตรงนี้เห็นตัวจะมิรอดแน่ครั้นขาดคำได้ยินเสียงประทัด กวนอูถือง้าวคุมสกัดทางไว้ โจโฉเห็นจวนตัวจะมิรอดทหารที่มาก็เหลือเพียงร้อยเศษ จึงวอนกวนอูให้ปล่อยตัวให้พ้นภัย กวนอูนึกถึงครั้งสมัยที่โจโฉเลี้ยงดูตนนึกสงสารจึงหลีกทางให้โจโฉไป

         ฝ่ายโจโฉหนีมาพบโจหยิน คิดยกกลับฮูโต๋ ให้โจหยินอยู่รักษาเมืองลำกุ๋น แฮหัวตุ้นรักษาเมืองซงหยง เตียวเลี้ยวรักษาเมืองหับป๋า แล้วโจโฉก็จัดแจงทหารยกกลับไปฮูโต๋ ฝ่ายจิวยี่ครั้นรบมีชัยจึงยกกองทัพไปตั้งอยู่ที่ตำบลลิมกั๋ง หวังจะคิดอ่านไปตีเมืองลำกุ๋น

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 43 จิวยี่ไปเอาเมืองซงหยง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 43 จิวยี่ไปเอาเมืองซงหยง

         ฝ่ายจิวยี่รู้ว่าเล่าปี่ไปตั้งอยู่ ณ ปากน้ำเมืองอิวกั๋ง แล้วก็สะดุ้งตกใจ รู้ว่าขงเบ้งเห็นทีจะตัดหน้า ชิงเอาเมืองลำกุ๋นเสียเป็นมั่นคง จึงเชิญเล่าปี่มากินโต๊ะแล้วว่าหากเราตีเมืองลำกุ๋นก็ให้ท่านยกตีเสียเถิด เล่าปี่จึงตกปากรับคำ จิวยี่จึงยกไปตีได้ด่านอิเหลงแลยกมาถึงเมืองลำกุ๋น ถูกกลโจหยินตีพ่าย แลตัวจิวยี่ถูกลูกเกาทัณฑ์อาบพิษที่ขาซ้าย ทหารเข้าาช่วยแก้ หมอจึงว่าให้ระงับความโกรธเสีย หากเมื่อใดมีความโกรธพิษเกาทัณฑ์จะกำเริบขึ้น

         ฝ่ายจิวยี่ทำอุบายว่าถูกพิษเกาทัณฑ์กลุ้มขึ้นถึงแก่ความตาย ฝ่ายโจหยินสำคัญว่าตายจริงก็เชื่อเข้าปล้นค่ายจิวยี่ ถูกจิวยี่ซ้อนกลให้ล้อมสี่ด้านกระหนาบเข้ามา ตัวโจหยินสู้มิได้จึงถอยเสีย ครั้นจะกลับเมืองก็มิได้ด้วยกำเหลง เล่งทองสกัดทางไว้ จึงหลบหนีไปยังเมืองซงหยง ฝ่ายจิวยี่จึงพาทหารจะเข้าไปเมืองลำกุ๋น

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 44 เล่าปี่ชิงเอาเมืองตัดหน้า

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 44 เล่าปี่ชิงเอาเมืองตัดหน้า

         ครั้นถึงเมืองลำกุ๋นขงเบ้งก็ให้จูล่งมาชิงเมืองตัดหน้าเสีย จิวยี่มีความคับแค้นใจเป็นอันมาก ด้วยว่าทำสงครามเสียลี้พลแลเสบียง สิ่งของเงินทองเป็นอันมาก อันตัวเล่าปี่นั้นมิได้เสียเงินทองแลทหารเลย มาชุบมือเปิบเอาเมืองเห็นมิชอบ แล้วฉุกคิดว่าเมืองเกงจิ๋ว ซงหยงเกลือกขงเบ้งจะแย่งชิงตัดหน้าเสียอีกจึงรีบยกทัพไป

         ครั้นมาถึงรู้ว่าขงเบ้งแต่งอุบายให้กวนอู เตียวหุย ชิงสองเมืองนี้แล้ว คับแค้นใจเป็นมาก ปราถนาฆ่าขงเบ้งเสีย พิษเกาทัณฑ์กลุ้มขึ้นมาจนจิวยี่สลบลง คนทั้งปวงช่วยกันแก้ไข แล้วจิวยี่จึงเลิกทัพกลับไปเมืองฉสองกุ๋น

         ฝ่ายโลซกเข้าเจรจาด้วยเล่าปี่ ขงเบ้ง ขงเบ้งจึงอ้างว่าอันสามเมืองนี้เดิมขึ้นแก่เล่าเปียว ครั้นเราตีสามเมืองนี้ยกให้แก่เล่ากี๋นั้นตัวผิดด้วยหรือ โลซกจึงว่าหากเล่ากี๋ถึงแก่ความตายก็ให้ยกสามเมืองนี้คืนแก่กังตั๋ง ขงเบ้งก็รับคำ

         ฝ่ายเล่าปี่ใคร่ปราถนาที่จะครอบครองเมืองนี้ไว้เองจึงออกตีบุเหลง เมืองเตียงสา เมืองฮุยเอี๋ยง เมืองเลงเหลงอันเป็นหัวเมืองฝ่ายใต้เพื่อสะสมไพร่พลแลเสบียงเป็นกำลังต่อไป ได้ฮองตงแลอุยเอี๋ยนเป็นทหารเอก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 45 เล่าปี่แต่งซุนฮูหยิน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 45 เล่าปี่แต่งซุนฮูหยิน

         ฝ่ายซุนกวนได้รบกับเตียวเลี้ยว ณ เมืองหับป๋ามาช้านานกว่าสิบครั้งก็ยังไม่แพ้ชนะกัน ไทสูจู้เสนออุบายตีค่ายเตียวเลี้ยว เตียวเลี้ยวรู้ทันซ้อนกลไทสูจู้ได้ ตัวไทสู้จู้ถูกเกาทัณฑ์เจ็บปวดเป็นหลายแห่งเห็นจะมิรอด ซุนกวนจึงคิดวิตกนักยกทัพกลับมาเมืองลำซี ครั้นยกกลับมาไทสูจู้ก็ถึงแก่ความตาย ซุนกวนก็สงสารอยู่มิได้ขาด

         อยู่มาเล่ากี๋ป่วยตายโลซกจึงเดินทางมาหาเล่าปี่ทวงเมืองเกงจิ๋วคืน ขงเบ้งจึงทำโกรธว่า หากการรบครั้งนี้ไม่มีเล่าปี่แลเราการก็คงมิสำเร็จ โลซกได้ฟังดังนั้นก็นิ่งอยู่ แล้วขงเบ้งจึงว่าหากเราไปรบตีเมืองเสฉวน ซึ่งขึ้นแก่เล่าเจี้ยงได้ก่อนจึงคืนเมืองให้ โลซกได้ยินดังนั้นก็คำนับออกมา

         ฝ่ายโลซกกลับมาบอกจิวยี่ จิวยี่จึงโกรธแล้วว่าตัวนั้นนี้ซื่อนักที่ไหนจะได้เมืองกลับมา อยู่มาจิวยี่รู้ข่าวว่ากำฮูหยินภรรยาเล่าปี่อีกคนตายเสียแล้ว จึงคิดอ่านทำอุบายเข้าว่าแก่ซุนกวนให้ยกน้องสาวแก่เล่าปี่ ล่อลวงเล่าปี่มาจับไว้ ซุนกวนเห็นชอบด้วย การนั้นเป็นความลับอยู่ ฝ่ายขงเบ้งรู้ทันในอุบายจึงซ้อนกลให้เล่าปี่ไปด้วยจูล่ง ครั้นพอถึง จูล่งก็ให้ปล่อยข่าวไปทั่วเมือง การรู้ข่าวถึงนางงอก๊กไถ่ผู้เป็นแม่น้าซุนกวน นางงอก๊กไถ่จึงเข้าไปต่อว่าซุนกวน ว่าทำการอัปยศนักเห็นทีต้องจับแต่งงานเสียจริงๆ แล้วก็ให้จัดแจงให้เล่าปี่กับซุนฮูหยินตามประเพณี

         ฝ่ายเล่าปี่ก็หลงใหลในภรรยาแลสมบัติพัศถานที่ซุนกวนนำมาให้ก็หลงละเลิงไป มิมีใจคิดที่จะกลับเมืองเกงจิ๋ว จูล่งจึงใช้อุบายที่ขงเบ้งฝากมาให้ จึงลวงแก่เล่าปี่ว่าโจโฉจะยกมาตีเกงจิ๋ว เล่าปี่มีความอาลัยยิ่งนัก ซุนฮูหยินจึงหนีตามเล่าปี่มา ณ เมืองเกงจิ๋ว ทหารจิวยี่ก็ตามมามิทัน แลตัวซุนกวนนั้นอัปยศนัก ทั้งเสียน้องสาวไปให้แก่เล่าปี่

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 46 จิวยี่ตาย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 46 จิวยี่ตาย

         ฝ่ายโจโฉตั้งแต่แตกทัพเรือครั้งนั้นก็มีความอัปยศนัก ครั้นได้ข่าวว่าเล่าปี่ชิงเอาเกงจิ๋วได้แล้ว ก็ว่าเล่าปี่เหมือนมังกรได้ออกทะเลใหญ่เห็นทีจะกำจัดขัดสนนัก แล้วคิดแต่งตั้งให้จิวยี่เป็นเจ้าเมืองลำกุ๋น หวังให้มีมานะไปตีแก้แค้นเล่าปี่

         ฝ่ายซุนกวนให้โลซกไปเจรจาทวงเมืองกับเล่าปี่อีกครั้ง เล่าปี่ก็ทำเป็นร้องไห้หนักว่าไม่มีที่อาศัย โลซกคิดสงสารจึงลากลับไปหาจิวยี่อีกครั้ง จิวยี่จึงว่าท่านแพ้ความคิดเล่าปี่ ขงเบ้งเสียแล้ว เล่าปี่นั้นหาเจรจาเหมือนปากไม่ แล้วก็คิดอุบายได้ข้อหนึ่งให้ทำทีว่าจะตีเมืองเสฉวนให้เล่าปี่ พอผ่านเมืองเกงจิ๋วให้ไปยืมเสบียงเล่าปี่ ครั้นเล่าปี่ออกมาจะจับฆ่าเสีย ขงเบ้งรู้ในกลจึงซ้อนกลจิวยี่ ถึงเวลาจิวยี่ยกทัพมาถึงให้ไปขอเสบียง ก็มิเห็นเล่าปี่แลทหารผู้ใดออกมารับ พบแต่จูล่งสั่งปิดเมืองแล้วตะโกนว่ากลอุบายท่าน ขงเบ้งนั้นแจ้งอยู่แล้ว จิวยี่ก็นึกเสียใจนักด้วยเสียรู้ขงเบ้ง พิษเกาทัณฑ์ก็กำเริบออกมาสิ้นสติ ทหารก็เข้ามาช่วยกันแก้จนฟื้น เห็นว่าตัวจะมิรอดก็สั่งเสียแก่ทหารทั้งปวง ให้ช่วยทำนุบำรุงซุนกวนครั้นสั่งเสร็จ พิษเกาทัณฑ์ก็กลุ้มขึ้นมา จิวยี่คิดแค้นนักจึงแหงนหน้าขึ้นดูฟ้าแล้วร้องว่า ฟ้าให้ยี่มาเกิดแล้ว ไฉนจึงให้เหลียงมาเกิดด้วย ว่าแล้วก็ขาดใจตาย เมื่อจิวยี่ตายนั้นอายุได้สามสิบหกปี

         ฝ่ายซุนกวนครั้นแจ้งว่าจิวยี่ตายแล้วก็ร้องไห้รักจิวยี่เป็นอันมากแล้วให้แต่งศพตามบรรดาศักดิ์ แล้วตั้งให้โลซกเป็นขุนนางผู้ใหญ่แทนจิวยี่


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 47 เล่าปี่ได้บังทอง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 47 เล่าปี่ได้บังทอง

         ฝ่ายขงเบ้งรู้ว่าจิวยี่ตายแล้ว ก็คิดไปสืบหาผู้มีสติปัญญาที่เมืองกังตั๋ง แล้วพาจูล่งไปด้วย ครั้นไปถึงขงเบ้งก็รีบเข้าไปคำนับศพจิวยี่ ทหารจิวยี่เห็นขงเบ้งก็แค้นใจเป็นอันมากคิดฆ่าขงเบ้ง ขงเบ้งจึงแสร้งทำโศกเศร้าร้องไห้รักจิวยี่เสียเป็นอันมาก ทหารจิวยี่ก็หลงเชื่อในมารยาขงเบ้ง อีกทั้งมีจูล่งมาด้วยจึงมิอาจทำอะไรได้

         อยู่มาขงเบ้งเจอบังทองเพื่อนสนิทจึงสนทนากัน แล้วทำหนังสือปิดขึ้นมาฉบับหนึ่งแล้วว่าว่า หากคิดจะทำการด้วยเล่าปี่ก็ให้เอาหนังสือฉบับนี้ออกไปให้แก่เล่าปี่ด้วย ถ้าบังเอิญตัวเรามิได้อยู่ บังทองก็รับคำแล้วขงเบ้งก็กลับเกงจิ๋ว

         ฝ่ายบังทองก็เข้าไปขอทำราชการด้วยซุนกวน ซุนกวนเห็นบังทองรูปร่างอัปลักษณ์นัก เห็นจะมิได้ราชการจึงมิเอาไว้ บังทองน้อยใจนักจึงไปสมัครทำราชการด้วยเล่าปี่ ขณะนั้นขงเบ้งออกไปชำระทุกข์ราษฎมิได้อยู่ บังทองจึงเข้าไปหาเล่าปี่ เล่าปี่เห็นรูปร่างบังทองวิปริตก็มิใคร่นับถือโดยปกติแล้วให้ไปอยู่ ณ เมืองลอยเอี๋ยง ซึ่งเป็นเมืองน้อย บังทองจึงน้อยใจนัก มิได้เอาหนังสือของขงเบ้งให้เล่าปี่ แล้วไปอยู่ ณ เมืองลอยเอี๋ยงเอาแต่เสพแต่สุรา มิได้ออกว่าราชการ

         เล่าปี่ก็โกรธนักให้เตียวหุยไปสืบดู บังทองก็ออกตัดสินเนื้อความราษฎรที่ค้างอยู่เสร็จแต่ครู่หนึ่ง เตียวหุยเห็นดังนั้นก็เลื่อมใสยิ่งนักกลับเข้าว่าแก่เล่าปี่ พอดีขงเบ้งเข้ามาว่ากล่าวแก่เล่าปี่ เล่าปี่ก็ฉุกรำลึกขึ้นได้ตอนสนทนากับสุมาเต็กโชว่า ฮกหลงกับฮองซูถ้าได้มาแต่คนหนึ่ง ก็อาจครองแผ่นดินได้ บัดนี้ได้มาพร้อมกันถึงสองคน มีความยินดีนักจึงตั้งบังทองเป็นที่ปรึกษา

         ฝ่ายโจโฉคิดกำจัดม้าเท้งจึงทำหนังสือพระเจ้าเหี้ยนเต้ ลวงไปว่าให้หาตัวเข้ามาคิดราชการ ม้าเท้งรู้ดังนั้นจึงให้ม้าเฉียวผู้บุตรกับหันซุยอยู่รักษาเมืองเสเหลียง แล้วยกทหารไปฮูโต๋ ต้องกลโจโฉถูกจับได้ แล้วโจโฉก็ให้ตัวม้าเท้งไปฆ่าเสีย ม้าเท้งก็ด่าโจโฉมิได้ขาดคำจนทหารลงดาบฟันถึงแก่ความตาย ฝ่ายม้าเฉียวคิดแค้นนักก็ยกทหารจะไปตีฮูโต๋

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 48 โจโฉตัดหนวด

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 48 โจโฉตัดหนวด

         ฝ่ายม้าเฉียวก็ยกทัพออกรบใช้อุบายตีได้เมืองเตียงฮันแลด่านตงก๋วน โจโฉจึงยกทหารมาหวังตีเอาด่านคืน เห็นม้าเฉียวสง่าองอาจนัก แลทหารเมืองเสเหลียงนั้นมีกำลังกล้าแข็งเสมอกันทุกคน แล้วมาเฉียวก็ให้ทหารตะลุมบอนเข้าไปจับโจโฉ ทหารโจโฉสู้กำลังทหารม้าเฉียวมิได้ก็แตกกระจัดกระจาย โจโฉเห็นดังนั้นก็ตกใจหนีเข้าไปปะปนกับทหารเลว เหล่าทหารจึงร้องว่า อ้ายหนวดยาวนี่แหละโจโฉ โจโฉก็เอากระบี่ตัดหนวดเสียหวังหลบทหาร พอดีม้าเฉียวควบม้า ไล่เข้ามาใกล้ ก็หนีหลบเข้าไปในป่ารอดมาได้ แล้วก็ตั้งมั่นอยู่มิออกรบ

         อยู่มาโจโฉคิดอ้อมไปตีเสบียงม้าเฉียว ม้าเฉียวสำคัญในกลจึงออกตีโจโฉพ่ายไป ตัวโจโฉก็หนีลงเรือไป หวิดมิรอดดีที่เคาทูเข้ามาช่วยป้องกันตัวโจโฉไว้ ฝ่ายม้าเฉียวก็เข้าปล้นค่ายโจโฉมิได้ขาด

         อยู่มาโจโฉคิดอุบายได้ข้อหนึ่งให้หันซุยกับม้าเฉียวกินแหนงต่อกัน จึงเชิญหันซุยออกมาสนทนาหน้าค่าย โจโฉก็ขับม้าออกมาสนทนาแต่เรื่องสมัยเป็นขุนนางราชการอยู่ด้วยกัน ม้าเฉียวก็นึกสงสัยอยู่ แล้วโจโฉก็ให้ เขียนจดหมายฉบับหนึ่งไปให้แก้หันซุย สลักหลังผนึกเป็นอักษรให้ลบเลือนเสีย ม้าเฉียวเห็นดังนั้นก็โกรธจะฆ่าหันซุยเสีย ทหารหันซุยก็เข้าป้องกันพาหันซุยหนีเข้าค่าย หันซุยน้อยใจนักด้วยม้าเฉียวมิได้คำนันนับถือผู้ใหญ่ คิดเข้าไปสมัครอยู่ด้วยโจโฉ ม้าเฉียวรู้ดังนั้นก็เข้าไปฟันแขนหันซุยขาด ทหารหันซุยแลทหารม้าเฉียวก็เข้ารบฟันกันเอง โจโฉเห็นได้ทีจึงเข้าร่วมรบตีทัพม้าเฉียวแตกพ่ายไป ม้าเฉียวเสียทีดังนั้นก็หลบหนีไปยังเมืองเสเหลียง โจโฉจึงตั้งให้หันซุยเป็นเจ้าเมืองเสเหลียง แฮหัวเอี๋ยนอยู่รักษาเมืองเตียงฮัน แล้วก็ยกทหารกลับฮูโต๋

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 49 เล่าปี่เข้าเสฉวน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 49 เล่าปี่เข้าเสฉวน

         ฝ่ายเตียวฬ่อเจ้าเมืองฮันต๋งเกรงว่าโจโฉจะยกทหารมาทำอันตราย ก็คิดทำการซ่องสุมทหารเพื่อต่อสู้โจโฉ จึงคิดไปตีเอาเมืองเสฉวนเป็นที่มั่น ฝ่ายเล่าเจี้ยงเจ้าเมืองเสฉวนรู้ดังนั้นก็ให้เตียวสง ไปยุยงโจโฉให้เข้าตีเมืองฮันต๋ง เมืองเสฉวนจะได้ปลอดภัย ฝ่ายเตียงสงก็ได้ลอบเขียนแผนที่เมืองเสฉวนไปด้วย หวังยกให้แก่โจโฉ เมื่อเข้าถึงฮูโต๋แล้ว โจโฉเห็นอาการเตียวสงเจรจาหยาบช้านัก จึงไล่เตียวสงออกไปเสีย ฝ่ายเตียวสงคิดอับอายนัก ก็มิกล้ากลับไปเมืองด้วยมิสมคำรับปากแก่เล่าเจี้ยง จึงเข้าไปหาเล่าปี่ ตัวขงเบ้ง แลเล่าปี่ก็ออกมาต้อนรับขับสู้อย่างดี เตียวสงจึงซาบซึ้งใจนักมอบแผนที่เมืองให้แก่เล่าปี่แล้วก็ลากลับเมือง

         ฝ่ายเตียวสงก็ให้หวดเจ้ง เบ้งตัดเป็นธุระอยู่ข้างใน แล้วเข้าบอกเล่าเจี้ยงให้เชิญเล่าปี่มา ช่วยคิดอ่านป้องกันเมือง เล่าเจี้ยงเห็นด้วยแลขุนนางคัดค้านทัดทานเป็นอันมาก เล่าเจี้ยงก็มิฟังแล้วว่าเล่าปี่กับตัวแซ่เดียวกัน คงมิคิดร้ายด้วย แล้วเชิญเล่าปี่เข้ามา เล่าปี่จึงเอาแต่บังทอง ฮองตง อุยเอี๋ยนไป เล่าเจี้ยงก็แต่งโต๊ะเลี้ยงเล่าปี่ทุกวัน บังทองก็ว่าให้เร่งกำจัดเล่าเจี้ยงเสีย เล่าปี่ก็มิยอมทำตามด้วยเป็นแซ่เดียวกันอิดเอื้อนอยู่


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 50 จูล่งชิงอาเต๊าคืน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 50 จูล่งชิงอาเต๊าคืน

          ฝ่ายซุนกวนรู้ว่าเล่าปี่ยกไปเสฉวน จึงคิดอุบายว่ามารดาป่วยหนักอยู่ให้หาตัวซุนฮูหยินกลับมาให้เห็นหน้า แลให้เอาอาเต๊าหลานชายไปดูด้วย นางซุนฮูหยินสำคัญว่าจริงก็รีบพาอาเต๊าลงเรือไปกังตั๋ง ฝ่ายจูล่งรู้ว่านางซุนฮูหยินจะไปเมืองกังตั๋ง จึงรีบลงเรือมาแย่งชิงอาเต๊าคืนมาได้ แล้วว่าท่านจะไปก็ตามเถิด แต่ให้อาเต๊าอยู่นี่ ฝ่ายนางซุนฮูหยินก็ขัดใจนัก แล้วให้ทหารรีบแจวเรือไปกังตั๋ง ฝ่ายซุนกวนรู้ว่าได้ซุนฮูหยินกลับมาแล้ว ก็ตัดขาดกับเล่าปี่ แลคิดเตรียมการไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วคืน

          ฝ่ายโจโฉก็คิดเลื่อนเป็นที่วุยก๋ง แลซุนฮกเข้าว่าเห็นมิชอบ โจโฉขัดใจนัก ก็เอาตระบะเปล่าปิดตราประจำเสีย ฝ่ายซุนฮกสำคัญว่าก็เข้าใจว่าอันตรายจะถึงตัว จึงโทมนัสยิ่งนักแล้วก็กินยาตาย แล้วโจโฉก็ยกทัพไปตีกังตั๋ง พอเข้าเทศกาลหน้าฝน โจโฉก็ยกทัพกลับเมืองฮูโต๋

         ฝ่ายเล่าเจี้ยงก็ให้เล่าปี่ไปประจำอยู่ด่านแฮบังก๋วน แลเข้ามาขอทหารแลเสบียงเล่าเจี้ยง ขุนนางทั้งหลายเข้าทัดทานยิ่งนัก เล่าเจี้ยงคิดแคลงใจอยู่ จึงให้แต่ทหารชราสี่พันกับข้าวหมื่นถึง เล่าปี่แจ้งดังนี้ ก็โกรธนักว่าเสียแรงมาช่วยป้องกันบ้านเมืองให้ แล้วคิดอุบายจะเอาเมืองเสฉวนให้ได้ตีได้ด่านโปยสิก๋วน ฝ่ายเล่าเจี้ยงจับได้หนังสือที่เตียวสงส่งไปให้เล่าปี่ จึงโกรธนักให้ประหารเสีย แล้วสั่งกวดขันมิให้เล่าปี่เข้ามาเอาเมืองได้

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 51 บังทองตาย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 51 บังทองตาย

         ฝ่ายเล่าปี่ตีเอาได้เอาด่านหลายด่าน จะไปตีเอาเมืองลกเสีย พบทางใหญ่น้อยสองทาง เล่าปี่จึงไปทางใหญ่ บังทองไปทางน้อย แลขณะไปนั้นม้าบังทองขาหัก เล่าปี่จึงเปลี่ยนม้าของตนไปให้บังทองขี่ บังทองจึงไปทางน้อย แลทางนั้นคับขันนักจึงถามทหารชาวเมืองว่าตำบลนี้ชื่อใด แลทหารนั้นตอบว่า ตำบลลกห้องโหแปลว่าหงส์ตกทุ่ง บังทองได้ยินดังนั้นก็นึกว่าชื่อนั้นคล้องกับตัวนักด้วยฮองซูนั้นแปลว่าหงส์ จึงสะดุ้งตกใจเร่งให้ทหารถอยกลับ เตียวหยิมซึ่งซุ่มอยู่จุดประทัดโห่ร้องขึ้นชี้ว่าคนขี่ม้าขาวนั้นเล่าปี่ แล้วเอาเกาทัณฑ์ระดมยิงเข้าไปถูกบังทองตกม้าขาดใจตาย


         ฝ่ายเล่าปี่รู้ว่าบังทองถึงแก่ความตายแล้ว ก็ร้องไห้จนสลบไปแล้วเรียกหาขงเบ้งเข้ามาช่วยคิดการต่อ ขงเบ้งจึงให้กวนอูอยู่รักษาเมืองเกงจิ๋ว แล้วพาเตียวหุย จูล่ง มาด้วย ฝ่ายเตียวหุยยกมาถึงแดนปากุ๋น เตียวหุยก็ใช้อุบายจับเงียมหงันเจ้าเมืองปากุ๋นได้แล้วมัดมา เงียมหงันก็ด่าเตียวหุยเป็นข้อหยาบช้าต่างๆนานา เตียวหุยเห็นเงียมหงันมีใจยั่งยืน ไม่ย่อท้อต่อความตายจึงปล่อยมัดเงียมหงันเสีย เงียมหงันเห็นดังนั้นก็ซาบซึ้งใจนัก ยอมทำการอยู่ด้วยเตียวหุย ครั้นเตียวหุยไปถึงตำบลใด นายด่านเห็นเงียมหงัน จึงยอมเข้าด้วยเตียวหุยตลอด มิได้ขัดขวางแต่ประการใด

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 52 เล่าปี่ชิงได้เมืองเสฉวน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 52 เล่าปี่ชิงได้เมืองเสฉวน

         ครั้นขงเบ้งมาบรรจบเล่าปี่แล้วก็คิดอ่านตีเมืองลกเสีย เตียวเอ๊กก็ได้ตัดหัวเล่ากุ๋ยแล้วเปิดประตูเมืองรับเล่าปี่ เล่าปี่ก็ได้เมืองลกเสีย ขงเบ้งจึงให้จูล่งไปปราบหัวเมืองเตงกั๋ง เงียมหงันแลเตียวหุยไปกำจัดหัวเมืองเตงกั๋ง แล้วขงเบ้งก็คิดจะไปตีเอาด่านกิมก๊กแลส่งหนังสือให้เล่าเจี้ยงนอบน้อมแต่โดยดี เล่าเจี้ยงแจ้งดังนั้นก็โกรธฉีกหนังสือทิ้งเสีย แล้วก็แต่งหนังสือไปให้เตียวฬ่อให้ช่วยตีเล่าปี่

         ฝ่ายม้าเฉียวซ่องสุมทหารได้เป็นอันมาก พาบังเต๊กยกไปตีได้เมืองกิจิ๋ว ถูกแฮหัวเอี๋ยนล้อมตีคืน ม้าเฉียวจวนตัวนักเหลือทหารอยู่เจ็ดคน จึงหนีฝ่าออกมาหนีออกไปอยู่กับเตียวฬ่อ เตียวฬ่อจึงให้ม้าเฉียวไปตีเล่าปี่ ตัวบังเต๊กป่วยอยู่มิได้ไปด้วย

         ฝ่ายอุยหวนที่รักษาด่านกิมก๊กยอมนอนน้อมขงเบ้งแต่โดยดี พอดีม้าใช้แจ้งมาว่าเตียวฬ่อ ให้ม้าเฉียวมาตีเอาด่านแฮบังก๋วน ขงเบ้งจึงให้เตียวหุยเป็นยกไปช่วยก่อน แลม้าเฉียวกับเตียวหุยรบกันเป็นสามารถ ก็มิได้แพ้ชนะกัน ขงเบ้งจึงคิดอุบายให้ม้าเฉียวมาเป็นพวก ก็ส่งของกำนัลให้เอียวสง ไปคอยยุแยงเตียวฬ่อ ม้าเฉียวก็มิอาจกลับเมืองได้ จึงขอยอมอยู่ด้วยขงเบ้ง ครั้นเล่าปี่กลับมายังด่านกิมก๊กแล้ว ก็ให้ม้าเฉียวไปประชิดเมืองเสฉวน แลตัวเล่าเจี้ยงเห็นว่าการจวนตัว ก็คิดที่จะออกไปนอบน้อมโดยดี จึงเอาตราสำหรับที่ออกไปคำนับเล่าปี่ เล่าปี่เห็นดังนั้น ก็จูงเอามือเล่าเจี้ยงขึ้นมาที่ข้างบน แล้วร้องไห้ว่าตัวเราซึ่งทำการครั้งนี้เป็นการจำใจ คิดแต่จะทำนุบำรุงแผ่นดินให้มีความสุข แล้วก็ให้เล่าเจี้ยงไปอยู่เมืองกองอั๋น ซึ่งเป็นเมืองน้อยขึ้นอยู่แก่เมืองเกงจิ๋ว เล่าปี่จึงได้เมืองเสฉวนแต่นั้นมา แล้วก็ได้ตรากฎหมายขึ้นมาใหม่ ตั้งให้ กวนอู เตียวหุย จูล่ง ม้าเฉียว ฮองตงเป็นที่ห้าทหารเอก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 53 โจโฉตีได้ฮันต๋ง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 53 โจโฉตีได้ฮันต๋ง

         ฝ่ายซุนกวนรู้ว่าเล่าปี่ก็ให้จูกัดกิ๋นพี่ชายขงเบ้งไปทวงเมืองเกงจิ๋วตามสัญญา เล่าปี่ก็มิยอมให้ ขงเบ้งจึงว่ากล่าวให้คืนแต่เมืองเตียงสา เลงเหลง ฮุยเอี๋ยงซึ่งเป็นเมืองขึ้นแก่เกงจิ๋ว ให้ไปว่ากล่าวแก่กวนอูเอาเอง ครั้นจูกัดกิ๋นมาถึงเมืองเกงจิ๋ว กวนอูก็มิยอมให้ จูกัดกิ๋นก็กลับไปหาเล่าปี่อีกครั้ง เล่าปี่ก็บอกว่ากวนอูน้ำใจดื้อดึง ปากก็ว่าตีได้เมืองฮันต๋งเมื่อไหร่ จึงจะคืนเกงจิ๋วให้ จูกัดกิ๋นมิรู้ทำประการใดก็ลาออกมา

         ซุนกวนรู้ดังนั้นก็โกรธนัก ให้โลซกเชิญกวนอูออกมากินโต๊ะจะได้จับฆ่าเสีย ฝ่ายกวนอูก็มิเกรงกลัวลงเรือไปกับจิวฉอง ขณะกินอยู่นั้นโลซกได้เอ่ยทวงเมืองเกงจิ๋ว กวนอูก็โกรธแล้วตอบว่า ตอนที่เล่าปี่ไปสกัดโจโฉหลายตำบล ตัวก็เสียเสบียงแลทหาร จะได้เมืองเกงจิ๋วอยู่ก็ยังมิเพียงพอ แล้วก็แสร้งทำเป็นเมาสุราจูงมือโลซกมาให้ส่งถึงเรือ ทหารที่ซุ่มอยู่ก็มิอาจทำอะไรได้ ด้วยกลัวจะเป็นอันตรายแก่โลซก
    ฝ่ายซุนกวนรู้ดังนั้นก็โกรธ จัดแจงเกณฑ์ทหารสิ้นทั้งเมืองจะไปตีเมืองเกงจิ๋ว พอดีม้าใช้มาแจ้งว่าโจโฉจะยกมาตีกังตั๋ง ซุนกวนจึงออกไปตั้งรับ ณ ตำบลหับป๋า

         ฝ่ายโปหั้นเข้าว่ากล่าวแก่โจโฉว่ากังตั๋งเป็นแดนกันดาร เห็นจะเอาชนะลำบาก โจโฉจึงงดกองทัพไว้ แล้วคิดที่จะเลื่อนเป็นวุยอ๋องอีก ฝ่ายซุนฮิวก็ว่ากล่าวทัดทานอยู่ โจโฉก็โกรธ แล้วว่าท่านกล่าวทัดทานเช่นนี้เห็นจะเหมือนซุนฮก ซุนฮิวก็ลากลับมาบ้านมีความทุกข์น้อยใจเป็นอันมาก จนตรอมใจตาย

          ฝ่ายพระเจ้าเหี้ยนเต้กลัวว่าโจโฉเป็นที่วุยอ๋องแล้ว จะคิดขบถเอาราชสมบัติเสียมั่นคง จึงเขียนหนังสือส่งให้ฮกอ้วนผู้เป็นบิดานางฮกเฮามเหสี ให้ช่วยคิดการกำจัดโจโฉเสีย โจโฉจับได้หนังสือก็โกรธ ก็จับฮกอ้วน นางฮกเฮาแลครอบครัวมาฆ่าเสียสิ้น แล้วกะเกณฑ์ทหารจะไปตีเมืองฮันต๋ง ฝ่ายเตียวฬ่อก็ให้บังเต๊กออกรบด้วยโจโฉ โจโฉเห็นบังเต๊กชำนาญสงครามนัก ก็ใคร่อยากได้มาบังเต๊กมาอยู่ด้วย ก็จับได้ตัวบังเต๊ก บังเต๊กก็ยอมมาอยู่ด้วย ฝ่ายเตียวฬ่อสู้โจโฉมิได้ ก็ยอมสวามิภักดิ์ด้วยโจโฉ โจโฉมีใจเอ็นดู จึงตั้งให้เตียวฬ่อเป็นเจ้าเมืองปาต๋ง


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 54 ยุทธการที่เขาเตงกุนสัน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 54 ยุทธการที่เขาเตงกุนสัน

         ฝ่ายอาณาประชาราษฎร์ในเมืองเสฉวนรู้ว่า โจโฉตีได้เมืองฮันต๋งแล้วก็สะดุ้งตกใจ เกรงโจโฉมาตีเมืองเสฉวน ขงเบ้งจึงออกอุบาย ส่งหนังสือให้ซุนกวน ว่าให้ตีเมืองหับป๋าเสีย แล้วจะคืนเมืองขึ้นเกงจิ๋วสามเมืองให้ ซุนกวนจึงออกตีได้เมืองอ้วนเซีย แล้วจะไปตีเมืองหับป๋า ฝ่ายเตียวเลี้ยวซึ่งรักษาเมืองหับป๋าอยู่นั้น ก็ส่งหนังสือไปถึงโจโฉ โจโฉจึงให้แฮหัวเอี๋ยนอยู่รักษาเมืองฮันต๋ง แล้วก็ยกทหารมาบรรจบเตียวเลี้ยว

         ฝ่ายโจโฉแลซุนกวนก็ออกรบกันเดือนเศษ ซุนกวนก็ยอมอ่อนน้อมแก่โจโฉ ส่งหนังสือไปยังโจโฉขอเลิกทัพ โจโฉก็ยกกลับฮูโต๋ ขุนนางใหญ่น้อยก็กราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ ให้โจโฉเป็นวุยอ๋อง โจโฉมีความยินดีนัก แลตั้งให้โจผีบุตรคนโตเป็นที่ชีจู๊ สืบตำแหน่งโจโฉ อยู่มาม้าใช้มาบอกว่าโลซกที่ปรึกษาซุนกวนถึงแก่ความตายแล้ว แลเล่าปี่คิดจะมาตีเอาเมืองฮันต๋ง โจโฉแจ้งดังนั้นก็โกรธ ให้โจหองยกทหารไปช่วยแฮหัวเอี๋ยน

         ฝ่ายเล่าปี่ก็รุกเข้าตีทหารเตียวคับแตก แลยึดได้ที่เก็บเสบียงที่เขาเทียนตองสัน ก็รุกคืบเข้าจะไปตีเอาที่เก็บเสบียงข้างเขาเตงกุนสัน ซึ่งแฮหัวเอี๋ยนรักษาอยู่ ฝ่ายโจโฉรู้ดังนั้นก็ยกทหารมาบรรจบโจหอง ณ เมืองฮันต๋ง ให้แฮหัวเอี๋ยนระวังรักษาเสบียงไว้ให้ดี

         ฝ่ายขงเบ้งก็ให้ฮองตงออกตีเขาเตงกุนสัน ฮองตงใช้อุบายล่อให้แฮหัวเอี๋ยนออกมา แฮหัวเอี๋ยนมิสำคัญในกล ก็ออกมาถูกฮองตงเอาดาบฟันแฮหัวเอี๋ยนศรีษะขาดตาย ฝ่ายโจโฉรู้ดังนั้น ก็ร้องไห้รักแฮหัวเอี๋ยนเป็นอันมาก แล้วโกรธยกทหารสี่สิบหมื่นหวังแก้แค้นแทนแฮหัวเอี๋ยนกลับสู้อุบายขงเบ้งมิได้ แตกหนีมาต้องยกทัพกลับฮูโต๋ ทั้งเสียเมืองฮันต๋ง ขณะนั้นพระเจ้าเหี้ยนเต้มาอยู่ฮูโต๋ได้ยี่สิบสามปี เล่าปี่ก็ได้ทำพิธีตั้งตัวเป็นเจ้าเรียกว่าเจ้าฮันต๋ง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 55 ประหารกวนอู

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 55 ประหารกวนอู

         ฝ่ายโจโฉเมื่อรู้ว่าเล่าปี่ตั้งตัวเป็นเจ้า ก็โกรธนัก สุมาอี้จึงเสนออุบายให้ชวนซุนกวน เข้าร่วมตีเอาเมืองเกงจิ๋วคืน ฝ่ายซุนกวนก็เห็นชอบ ด้วยมีความแค้นอยู่นานแล้ว

         ฝ่ายกวนอูได้รับตราตั้งจากเล่าปี่ให้เป็นใหญ่ในเมืองเกงจิ๋ว แลให้ไปตีเอาเมืองอ้วนเซีย กวนอูจึงให้ปลูกร้านรายทางตามริมน้ำ หวังมิให้ลิบองซึ่งตั้งทัพอยู่ด่านแฮเค้ามาโจมตีได้ หากมีทหารยกมา แต่ละร้านก็จะจุดควันเพลิงเป็นสัญญาณ ก็จะช่วยถึงกันได้ แล้วกวนอูก็ออกตีมาประชิดเมืองอ้วนเซีย โจโฉรู้ดังนั้นก็ให้อิกิ๋มแลบังเต๊ก ออกช่วยตีกวนอู อิกิ๋ม บังเต๊กก็ตั้งค่ายทัพอยู่

         ขณะนั้นเกิดน้ำท่วมใหญ่ ค่ายอิกิ๋ม บังเต๊ก ทหารล้มตายเป็นอันมาก กวนอูเห็นได้ทีจึงเข้าตีค่าย อิกิ๋มสู้ไม่ได้เข้ายอมอ่อนน้อม กวนอูจึงจับส่งไปเกงจิ๋ว แลตัวบังเต๊งกวนอูจับได้ก็ให้ไปฆ่าเสีย แล้วกวนอูก็ยกทหารเข้าจะตีเมืองอ้วนเซีย ขณะนั้นโจหยินยืนอยู่บนหอรบ ให้ทหารยิงเกาทัณฑ์ไปถูกไหล่ซ้ายกวนอู กวนเป๋งก็เข้าไปแก้กวนอูกลับมาค่าย กวนอูก็ป่วยอยู่

         ขณะนั้นหมอฮัวโต๋พอดีมาที่ค่าย เข้าช่วยรักษาแผลกวนอู ว่าแผลถูกพิษเกาทัณฑ์ จะรักษาต้องความเจ็บปวดเป็นอันมาก กวนอูก็มิครั่นคร้าม ยอมให้หมอฮัวโต๋ขูดพิษจากกระดูกออก ตัวนั้นนั่งเล่นหมากรุกอยู่ หวังมิให้ทหารเสียน้ำใจ หมอฮัวโต๋มีความนับถือกวนอู ว่ามีความอดทนเป็นอันมาก แล้วลาออกมา

         ฝ่ายลิบองเห็นกวนอูตระเตรียมการมั่นคงก็มิรู้ทำประการใด จึงแกล้งป่วยอยู่ ฝ่ายลกซุนก็เข้าเยี่ยม เสนอแผนการให้กวนอูตายใจ ลิบองเห็นด้วยจึงทำทีเป็นยกตำแหน่งให้ลกซุนดูแลด่านแฮเค้าแทน แลตัวลกซุนก็ส่งหนังสือทำเป็นอ่อนน้อมแก่กวนอู ฝ่ายกวนอูเห็นลกซุนมิได้มีชื่อเสียงเรียงนาม แลทำทีอ่อนน้อม จึงหาแคลงไม่ก็เรียกทหาร ที่ตรวจตราตามรายแม่น้ำ ไปช่วยตีเมืองอ้วนเซีย

         ฝ่ายลิบองเห็นดังนั้นก็ทำทีปลอมเป็นเรือลูกค้าแล่นผ่านร้านไฟ ทำทีเป็นหลบพายุ แล้วก็จับทหารที่ดูร้านไฟเสีย ปูนบำเหน็จเป็นอันมาก แล้วให้ไปเรียกชาวเมืองให้เปิดประตูรับ ฝ่ายทหารในเมืองสำคัญว่าพวกเดียวกัน ก็เปิดประตูรับ ลิบองจึงให้ทหารกรูเข้าไป ได้เมืองเกงจิ๋วโดยง่ายมิได้สู้รบเลย แล้วเอาอิกึ๋มออกจากคุกคืนให้แก่โจโฉ ฝ่ายโจโฉก็ยกทัพหลวงหวังมาช่วยเมืองอ้วนเซีย ฝ่ายกวนอูรู้ว่าโจโฉยกมาแลเมืองเกงจิ๋วก็เสียแก่ลิบองแล้ว ก็มิได้เชื่อ แลซิหลงซึ่งยกทัพมาถึงก็เข้าสู้ด้วยกวนอู โจหยินซึ่งรักษาเมืองอ้วนเซียอยู่ เห็นดังนั้นก็ออกมาช่วยรบกระหนาบ กวนอูเห็นจะสู้มิได้ก็หนีออกมา ฝ่ายทหารกวนอูก็คิดถึงบุตรภรรยาที่อยู่ในเมืองเกงจิ๋ว ก็มิมีใจสู้รบ หลบหนีออกมาเป็นอันมาก กวนอูก็รบต้านทานอยู่ แล้วหนีไปอยู่เมืองเป๊กเสีย แล้วขอความช่วยเหลือจากเล่าฮอง เบ้งตัด ซึ่งอยู่เมืองซงหยง ฝ่ายเล่าฮอง เบ้งตัด ก็มิช่วยเหลือ กวนอูรู้ดังนั้นเห็นจะต้านทานที่เมืองเป๊กเสียไม่ได้ ให้จิวฉองอยู่รักษาเมืองเป๊กเสียไว้ แล้วก็หลบหนีออกมาหวังไปเสฉวน ทหารซุนกวนก็จับกวนอูได้ ฝ่ายซุนกวนเห็นว่ากวนอูมีความซื่อสัตย์นัก เห็นจะเลี้ยงไว้มิได้ก็ให้ประหารกวนอู กวนเป๋งเสีย ฝ่ายจิวฉองรู้ดังนั้นก็เอาดาบเชือดคอตายตาม

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 56 โจโฉตาย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 56 โจโฉตาย

          ฝ่ายเล่าปี่ครั้นรู้ข่าวกวนอูแล้วก็ร้องไห้สิ้นสติสมประดีไป ครั้นฟื้นขึ้นก็ว่าจะปองล้างกังตั๋งตลอดไป แล้วจะยกทหารไปล้างกังตั๋งเสีย ฝ่าขงเบ้งให้ระงับไว้ก่อน เล่าปี่ก็ยอม แล้วก็ให้ฆ่าเล่าฮอง บุตรบุญธรรมเสีย ส่วนเบ้งตัดหนีไปสวามิภักดิ์แก่โจผี

         อยู่มาโจโฉคิดสร้างวังใหม่ เห็นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งโจโฉสั่งให้ตัดเสีย ชาวบ้านจึงว่าต้นไม้ต้นนี้ มีเทพารักษ์สถิตอยู่ โจโฉมิได้กลัวก็สั่งให้ตัดเสีย ต่อมาโจโฉก็ถูกเทพารักษ์มาหลอกหลอนตลอด โจโฉก็ปวดหัวเป็นกำลัง ให้หาหมอฮัวโต๋มารักษา ครั้นหมอฮัวโต๋มาถึงก็เสนอการรักษา ให้ผ่าศีรษะชำระโรค โจโฉได้ยินดังนั้นก็โกรธ ว่าเป็นอุบายจะฆ่าตัวให้ตาย ก็จับหมอฮัวโต๋ไปใส่คุกทรมาณอยู่ อยู่มาไม่นานหมอฮัวโต๋ก็ตาย

         ฝ่ายโจโฉโรคปวดหัวก็กำเริบเป็นกำลัง แลไปเห็น นางตังกุยหุย นางฮกเฮา ฮกอ้วน ตังสิน ซึ่งโจโฉฆ่านั้นมาหลอกหลอน ทั้งได้ยินเสียงปีศาจร้องไห้เซ็งแซ่ ก็เห็นว่าตัวจะมิรอดแล้ว ก็ให้หา โจหอง ตันกุ๋ย สุมาอี้ กาเซี่ยง ฝากฝังบุตรภรรยา ให้โจผีสืบทอดตำแหน่งต่อไป สั่งแล้วก็ทอดใจใหญ่ ก็ผวาล้มลงขาดใจตาย เมื่อโจโฉตายนั้น อายุได้หกสิบหกปี พระเจ้าเหี้ยนเต้มาอยู่เมืองฮูโต๋ได้ยี่สิบห้าปี

         ฝ่ายพระเจ้าเหี้ยนเต้ก็พระราชตราตั้งให้แก่โจผี ให้สืบดำรงตำแหน่งโจโฉต่อไป ฝ่ายโจสิดน้องโจผี ก็มิได้มายอมคำนับศพบิดา โจผีจึงสั่งให้ลงอาญาแก่โจสิด ฝ่ายโจสิดก็มิได้เกรงกลัว โจผีก็โกรธนักให้เคาทูไปจับตัวโจสิดมา ฝ่ายมารดาโจผีเห็นโจผีทำดังนั้น ก็ร้องไห้อ้อนวอน โจผีก็ให้โจสิดทำโคลงเกี่ยวกับพี่น้อง ภายใจเจ็ดก้าวโดยมิให้เอ่ยคำว่าพี่น้อง หากทำมิได้ก็จะให้ฆ่าเสีย โจสิดก็มิย่อท้อ เดินคิดโคลงได้เจ็ดก้าวก็เอ่ยว่า คั่วถั่วเอากิ่งถั่วมาเป็นฟืนไฟ เมล็ดถั่วในกระทะจะไหม้ก็เพราะกิ่งถั่วต้นรากอันเดียวกันนั่นเอง เหตุใดจึงเร่งไฟให้หนักนัก โจผีได้ยินก็รำลึกถึงพี่น้องแล้วก็ร้องไห้รัก ให้โจสิดไปอยู่เมืองอันเหียง แลตัวโจผีนั้นก็ทำยศยิ่งกว่าโจโฉ ข่งเหงพระเจ้าเหี้ยนเต้ ฝ่ายแฮหัวตุ้นป่วยเป็นไข้หนัก อยู่มาไม่นานก็ตาย

         อยู่มาโจผีบังคับให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ออกเสียจากบัลลังค์ แล้วให้โจผีขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แทน สถาปนาราชวงค์วุย ให้ไปสร้างวังใหม่อยู่ ณ เมืองลกเอี๋ยง ฝ่ายขงเบ้งแจ้งดังนั้น ก็จัดแจงทำพิธียกเล่าปี่ขึ้นเป็นกษัตริย์บ้าง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 57 เล่าปี่ยาตราทัพเหยียบกังตั๋ง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 57 เล่าปี่ยาตราทัพเหยียบกังตั๋ง

          ฝ่ายเล่าปี่ก็นึกแค้นซุนกวน จึงจัดแจงเตรียมทหารหวังล้างกังตั๋งให้ได้ ขุนนางทั้งปวงต่างทัดทาน เล่าปี่ก็มิฟังให้ขงเบ้งอยู่รักษาเมืองเสฉวน แล้วเตรียมทหารจะยกไป

         ฝ่ายเตียวหุยซึ่งรักษาเมืองลองจิ๋ว รู้ดังนั้นก็จัดแจงสั่งให้ ฮอมเกียง เตียวตัด เตรียมเครื่องนุ่งห่มขาว ม้าขาวธงขาวแลเครื่องศัตราวุธ ให้เสร็จสิ้นภายในสามวัน ฝ่ายฮอมเกียง เตียวตัดก็เห็นว่าจัดหามิทัน เตียวหุยก็สั่งให้โบยเสีย ฝ่ายฮอมเกียง เตียวตัดก็คิดแค้นนัก แลคิดหนีไปสวามิภักดิ์ซุนกวน ตกดึกเห็นเตียวหุยเมาสุราหลับอยู่ ก็เข้าไปกระบี่แทงที่ท้องแลซอกคอ เตียวหุยร้องขึ้นมาคำเดียวก็ตาย แล้วฮอมเกียง เตียวตัด ก็ตัดศีรษะเตียวหุยหนีไปเมืองกังตั๋ง

         ฝ่ายเล่าปี่รู้ดังนั้นก็ร้องไห้รักเป็นอันมาก แล้วสั่งเคลื่อนทัพไปกังตั๋ง เอากวนหิน เตียวเปา บุตรกวนอู เตียวหุยไปด้วย ฝ่ายซุนกวนแต่งแม่ทัพออกมาสกัดตั้งทัพที่เมืองอิเหลง เล่าปี่ก็ให้ฮองตงออกรบ ทหารพัวเจี้ยงก็เอาเกาทัณฑ์ยิงไปถูกฮองตงตาย ฝ่ายสะโมโขเจ้าเมืองลำมัน ยกทัพมาช่วยเล่าปี่พบกำเหลง ก็เอาเกาทัณฑ์ยิงไปถูกำเหลงตาย ทหารเล่าปี่ก็เข้ารบทหารซุนกวน มีชัยชนะเป็นลำดับ ฝ่ายซุนกวนรู้ดังนั้นก็สะดุ้งตกใจนัก เห็นการใหญ่หลวงนัก ส่งไมตรีไปหาเล่าปี่ เล่าปี่ก็มิยอมรับหวังล้างกังตั๋งเสียให้ได้ กำเจ๊กจึงเสนอให้ลกซุนออกสกัดตีเล่าปี่ ซุนกวนได้ฟังดังนั้นก็ฉุกคิดขึ้นได้ ให้เรียกหาตัวลกซุน ให้อาญาสิทธ์มอบกระบี่ บังคับบัญชาทหารทั้งปวง แล้วก็ยกทหารออกไป

         ฝ่ายลกซุนก็รักษาค่ายอยู่มิได้ออกรบ ทหารเล่าปี่ก็เข้ามาท้าสู้อยู่มิได้ขาด ลกซุนก็มิได้ออกรบ เล่าปี่เห็นดังนั้นก็นึกประมาท จึงไปตั้งค่ายอยู่รายแม่น้ำอยู่เจ็ดพันเส้น ลกซุนเห็นเล่าปี่ตั้งค่ายมิต้อง ตำราพิชัยสงครามก็ดีใจ ครั้นถึงเวลาค่ำก็เข้าตีหัวท้ายค่ายเล่าปี่ เอาเพลิงจุดสลับค่ายกันไป ฝ่ายทหารเล่าปี่เห็นดังนั้น ก็วิ่งหนีวุ่นวายไป วิ่งเหยียบล้มตายกันเป็นอันมาก ครั้นจะช่วยถึงกันก็มิได้ ลกซุนก็ให้ทหารเข้าตีค่ายเล่าปี่ ทหารเล่าปี่ล้มตายเป็นอันมาก ค่ายเล่าปี่ก็แตก เล่าปี่ก็เห็นเหลือกำลังจะสู้รบ ก็แตกหนีไปถึงเมืองเป๊กเต้

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 58 เล่าปี่ตาย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 58 เล่าปี่ตาย

         ฝ่ายเล่าปี่ตั้งแต่เสียทัพแตกมานั้น ก็อัปยศอดสูใจยิ่งนัก มิยอมกลับเสฉวน ครั้นอยู่มาป่วยหนัก รู้ว่าตัวจะตายแน่แล้ว ก็เรียกหาขงเบ้ง จูล่ง แลนายทหารทั้งปวงเข้ามา เล่าปี่ก็ฝากฝังอาเต๊าให้แก่ขงเบ้ง ช่วยทำนุบำรุงต่อไป ครั้นสั่งสิ้นความก็ตรอมใจตาย ครองราชย์ได้สามปี แล้วขุนนางทั้งปวงก็เชิญ อาเต๊าขึ้นสืบราชสมบัติ มีพระนามว่า พระเจ้าเล่าเสี้ยน

          ฝ่ายสุมาอี้เห็นว่าบ้านเมืองเสฉวนยังมิปกติ จึงเสนอพระเจ้าโจผีให้ตีเสฉวนเสีย พระเจ้าโจผีเห็นด้วย ก็ให้ตระเตรียมทหารแล้วยกไปเป็นห้าทาง พระเล้าเล่าเสี้ยนรู้ดังนั้นก็ตกพระทัยนัก เรียกหาขงเบ้งเข้ามาช่วยคิดราชการ ขงเบ้งจึงให้เตงจี๋ไปผูกพันธไมตรีกับซุนกวน ซุนกวนก็ยอมด้วย พระเจ้าโจผีเห็นว่า เมืองเสฉวนกับเมืองกังตั๋งเป็นไมตรีกัน ดีร้ายจะยกมาบรรจบตีลกเอี๋ยง ก็ให้ยกไปตีเมืองกังตั๋ง ซุนกวนก็ส่งหนังสือขอกองทัพไปช่วย ขงเบ้งก็ให้จูล่งยกทหารจะไปตีเมืองเซ่งอั๋น พระเจ้าโจผีรู้ดังนั้นก็ถอยทัพกลับ ชีเซ่ง เตงฮอง เห็นได้ทีก็ไล่ตามเข้าไป เตียวเลี้ยวเห็นดังนั้นก็เข้าช่วยพระเจ้าโจผี ถูกเกาทัณฑ์บาดเจ็บ อยู่มาพิษเกาทัณฑ์ก็กลุ้มขึ้น แล้วก็ตาย

         อยู่มาพระเจ้าเล่าเสี้ยนเสวยราษฎร์ได้สามปี เบ้งเฮ็กเจ้าเมืองมันอ๋อง คิดรุกรานเสฉวน ขงเบ้งก็ขอออกไปปราบปรามหัวเมืองให้สิ้นซาก แลเส้นทางไกลกันดารนัก ทั้งโรคร้ายก็มาก ขงเบ้งก็ได้ยกทหารลงใต้ จับตัวเบ้งเฮ็กได้เป็นหลายครั้ง แลน้ำใจชาวเผ่าทางใต้นั้นดุร้ายนัก ก็มิอาจหักได้ด้วยกำลังทหาร ขงเบ้งก็หวังปราบปรามหัวเมืองให้สิ้นซาก จึงปล่อยตัวเบ้งเฮ็กเสียหกครั้ง ไล่ต้อนเบ้งเฮ็กจนอับจน ก็จับได้ เบ้งเฮ็กจึงยอมอ่อนน้อมด้วยขงเบ้ง ไม่คิดรุกรานเสฉวนอีกเลย ขงเบ้งก็ยกทหารกลับเสฉวน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 59 ขงเบ้งตีวุยก๊ก

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 59 ขงเบ้งตีวุยก๊ก

         ฝ่ายพระเจ้าโจผีครองราชย์ได้เจ็ดปี ก็ประชวรหนักเห็นว่าตัวจะมิรอด ก็เรียกโจจิ๋น สุมาอี้ ฝากฝังโจยอยผู้บุตรให้สืบราชสมบัติต่อไป สั่งเสร็จแล้วก็ขาดใจตาย ขุนนางทั้งปวงจึงเชิญพระเจ้าโจยอย ขึ้นเสวยราชสมบัติแล้วให้สุมาอี้ ไปรับหน้าศึกที่เมืองเสเหลียง

          ฝ่ายขงเบ้งเห็นว่าสุมาอี้มีสติปัญญา ก็คิดอุบายปล่อยข่าวลือไปทั่วลกเอี๋ยงว่าสุมาอี้คิดขบถ พระเจ้าโจยอยก็ทรงเชื่อ ก็ถอดสุมาอี้ออกจากขุนนาง ให้ไปเป็นไพร่ทำมาหากิน อยู่บ้านเก่า ฝ่ายขงเบ้งรู้ดังนั้นก็ยินดี เข้ากราบทูลพระเจ้าเล่าเสี้ยน ขอไปตีลกเอี๋ยง ขณะนั้นพระเจ้าเล่าเสี้ยนครองราชย์ได้ห้าปี

         ฝ่ายขงเบ้งออกจากเมืองฮันต๋ง แวะเข้าคำนับที่ฝังศพม้าเฉียว แล้วตีถลำเข้ามาจะตีเอาเมืองเทียนซุย ให้จูล่งซุ่มทหารอยู่ แลขงเบ้งก็ใช้อุบายล่อม้าจุ้น เจ้าเมืองเทียนซุยออกมา เกียงอุยซึ่งเป็นนายทหารในเมืองนั้นสำคัญในอุบาย ก็ซ้อนกลเสีย จูล่งเสียทีก็กลับเข้าไปหาขงเบ้ง ฝ่ายขงเบ้งเห็นว่าเกียงอุยมิสติปัญญารู้ล่วงนัก ก็ใคร่ได้มาอยู่ด้วย จึงทำอุบายเสีย เกียงอุยจึงยอมมาทำการอยู่ด้วยขงเบ้ง ขงเบ้งก็ยกมาถึงเขากิสาน พระเจ้าโจยอยก็ตั้งให้โจจิ๋น ออกต้านทานขงเบ้ง ฝ่ายโจจิ๋นสู้ขงเบ้งมิได้ ก็แตกหนีมา

        ฝ่ายพระเจ้าโจยอยเห็นดังนั้น ก็มิรู้จะหานายทัพมาสู้ขงเบ้ง จงฮิวจึงเสนอให้กลับแต่งตั้งสุมาอี้ เข้าสู้ด้วยขงเบ้ง พระเจ้าโจยอยเห็นชอบด้วย ก็ตั้งให้สุมาอี้เป็นขุนนางอย่างเก่า แล้วให้ไปบรรจบกับพระเจ้าโจยอย ณ เมืองเตียงฮัน

         ฝ่ายขงเบ้งรู้ว่าพระเจ้าโจยอยให้สุมาอี้กลับตำแหน่งอย่างเก่าก็ตกใจนัก แล้วว่าสุมาอี้จะมาตีปิดต้นทาง จึงหาผู้อาสาไปรักษาด่านเกเต๋ง ม้าเจ๊กก็ได้อาสาแลทำทัณฑ์บนไว้ แล้วยกไป ฝ่ายม้าเจ๊กเมื่อมาถึงก็เห็นประมาท ไปตั้งทัพสกัดบนยอดเนินเขา เมื่อสุมาอี้เมื่อยกทัพมาถึง เห็นดังนั้น ก็เข้าล้อมเนินเขา ปิดทางน้ำแลจุดไฟเผาเสีย ทหารม้าเจ๊กก็แตกตื่นเป็นอลหม่าน ทหารสุมาอี้ก็เข้าล้อมอยู่ ม้าเจ๊กเห็นดังนั้นก็จวนตัวหนีหักออกมา แลรักษาต้นทางเกเต๋งไว้มิได้

         ฝ่ายขงเบ้งรู้ดังนั้นก็ตกใจ ก็รีบเตรียมถอยทัพกลับฮันต๋ง เดินทางไปถึงเมืองเสเสีย ก็ให้หยุดอยู่ แลทหารบอกว่า สุมาอี้ยกทัพมาถึงแล้ว ทหารขงเบ้งก็ตกใจหน้าซีดเสียทุกคน แลขงเบ้งเห็นว่าจวนตัวคับขันนัก ก็ให้เปิดประตูเมืองทั้งสี่ด้าน แล้วมิให้ผู้ใดส่งเสียง แล้วตัวขงเบ้งก็ขึ้นไปบนกำแพงเมือง เล่นดีดพิณสบายอยู่ สุมาอี้เห็นดังนั้นก็นึกสงสัย พิเคราะห์อยู่ก็เห็นว่า ขงเบ้งแต่งกลมีทหารซุ่มเป็นมั่นคง ก็ให้เร่งถอยทหารกลับ

         ฝ่ายทหารทั้งปวงเห็นสุมาอี้ยกทัพกลับไป ก็มีความยินดี แล้วขงเบ้งก็ให้ล่ากลับฮันต๋ง ฝ่ายจูล่งซึ่งล่วงมาอยู่ตำบลกิก๊ก ก็ฝ่ากลับออกมาได้อย่างมิเป็นอันตราย ครั้นขงเบ้งกลับถึงฮันต๋งก็ฝืนใจ ให้ประหารม้าเจ๊กตามอาญาแลทัณฑ์บน แลขงเบ้งก็ให้เตรียมทหารพรักพร้อมไว้ รอการตีลกเอี๋ยงอีกคราหนึ่ง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 60 จูล่งตาย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 60 จูล่งตาย

         อยู่มาพระเจ้าเล่าเสี้ยนได้รับหนังสือจากซุนกวน ให้ออกตีลกเอี๋ยง พระเจ้าเล่าเสี้ยนเห็นชอบด้วย ก็ให้ขงเบ้งยกไปตีลกเอี๋ยง แลขณะไปนั้นก็รู้ข่าวว่าจูล่งตายแล้ว ขงเบ้งก็ร้องไห้รักเป็นอันมาก แล้วว่าซึ่งจูล่งถึงแก่ความตายนี้ เหมือนดั่งแขนซ้ายพระเจ้าเล่าเสี้ยนขาด พระเจ้าเล่าเสี้ยนก็ร้องไห้รัก แล้วให้แต่งการศพเป็นอย่างดี

         ฝ่ายขงเบ้งก็ยกทัพมาทางตันฉอง พระเจ้าโจยอยก็ให้โจจิ๋นออกสู้ขงเบ้ง อยู่มาไม่นานเสบียงหมด ขงเบ้งจึงยกทัพกลับฮันต๋ง ฝ่ายเมืองกังตั๋งก็ทำพิธีราชาพิเษก ยกซุนกวนเป็นกษัตริย์ แล้วก็ส่งไมตรีไปทางเสฉวน ให้ช่วยรบลกเอี๋ยง ตีสองทาง พระเจ้าเล่าเสี้ยนรู้ดังนั้น ก็ให้ขงเบ้งออกตีลกเอี๋ยงอีกคราหนึ่ง

         พระเจ้าโจยอยรู้ดังนั้นก็ตั้งให้สุมาอี้เป็นใหญ่ คุมอาญาสิทธ์ทั้งปวง ขงเบ้งก็รุกไล่เข้ามา สุมาอี้ก็ตั้งค่ายสกัดอยู่ แลมิได้ออกรบ ตั้งมั่นให้ช้าอยู่ ขงเบ้งเห็นดังนั้น ก็คิดอุบายทำทีเป็นถอยทหารกลับ สุมาอี้ก็มิได้หลงตามตี ขงเบ้งก็ให้ถอยทุกสามร้อยเส้น เตียวคับเห็นดังนั้น ก็ขอออกตีขงเบ้ง สุมาอี้ก็ให้ไปแลยกทัพหนุนไปช่วย ถูกกลขงเบ้ง ทัพสุมาอี้ก็แตก อยู่มาขงเบ้งก็ป่วยหนัก ให้ถอยทัพกลับเสฉวน ครั้นรักษาไม่นานก็หาย แล้วขงเบ้งก็ให้ซักซ้อมทหารหัดปรือกันอยู่ จะไปตีเมืองลกเอี๋ยงอีกครั้งหนึ่ง

          ฝ่ายพระเจ้าโจยอยเห็นขงเบ้งทำการกำเริบ ก็ให้โจจิ๋นแลสุมาอี้ไปตีเสฉวน ครั้นเดินทางมาเกิดฝนตกห่าใหญ่ จึงเลิกทัพกลับ ขงเบ้งเห็นได้ทีก็ยกทหารตามตี โจจิ๋นได้รับความอัปยศนัก ก็ตรอมใจตาย แลสุมาอี้ก็ได้เข้ารบกับขงเบ้ง เสียทียกทหารหนีถอยมา ขงเบ้งก็ล่วงลึกเข้ามา ตั้งค่ายอยู่ ณ เขากิสาน สุมาอี้ก็คิดอุบายปล่อยข่างลือ ไปยังเสฉวนว่าขงเบ้งคิดขบถ พระเจ้าเล่าเสี้ยนรู้ดังนั้นก็สำคัญว่าจริง เรียกขงเบ้งกลับ ขงเบ้งก็ถอนใจใหญ่ว่า การทำมาถึงเพียงนี้ จะทำกลับทำการสักร้อยครั้ง ก็มิได้มาถึงนี่ได้อีกครั้ง แล้วก็เลิกทัพกลับ แล้วเข้าว่าพระเจ้าเล่าเสี้ยน พระเจ้าเล่าเสี้ยนก็ว่าตัวนั้นผิด หูเบา เชื่อฟังแต่คนชั่ว ครั้นขงเบ้งสืบสาวเอาเรื่องแล้ว ก็จัดทแกล้วทหาร จะไปตีเตียงฮัน ขณะนั้นพระเจ้าเล่าเสี้ยนเสวยราษฎร์ได้เก้าปี

          ฝ่ายสุมาอี้รู้ดังนั้นก็ออกมาสกัดทัพขงเบ้ง ให้เตียวคับเป็นกองหน้า ขงเบ้งก็ยกมาถึง ณ เขากิสาน อยู่มา ขงเบ้งได้ข่าวว่า ซุนกวนจะยกมามาตีเสฉวน ขงเบ้งรู้ดังนั้นก็ตกใจ ถอยทัพกลับ เตียวคับก็ตามไป ต้องกลขงเบ้งถึงแก่ความตาย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 61 ขงเบ้งตาย

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 61 ขงเบ้งตาย

         ฝ่ายขงเบ้งซ่องสุมทหารได้สามปี ก็ลาพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปปราบวุยก๊กให้ราบคาบ แล้วก็ยกทหารมาเขากิสานอีก สุมาอี้ก็ออกสกัดทัพ ขงเบ้งก็ได้แต่งหนังสือชวนซุนกวนตีกระหนาบ ซุนกวนก็ยกทัพหลวงมาเอง พระเจ้าโจยอยก็ออกไป สกัดซุนกวนที่เมืองหับป๋า ครั้นรบกัน ทหารซุนกวนก็สู้มิได้จึงยกทัพกลับกังตั๋ง ฝ่ายขงเบ้งก็รบกับสุมาอี้ยืดยาวอยู่ สุมาอี้ก็ตั้งมั่นมิได้ออกรบ ขงเบ้งก็ให้ทหารส่งผ้าซับในผู้หญิง ไปยังค่ายสุมาอี้ ทำทีเป็นเยาะเย้ย มิใช่ชายชาติทหาร สุมาอี้เห็นดังนั้นก็โกรธแต่อยู่ในใจ แล้วก็ถามถึงตัวขงเบ้งกับทหารผู้นั้น ทหารผู้นั้นก็ว่า ขงเบ้งนอนมิได้ปรกติ ตรวจกำชับดูแลทหารอยู่เสมอ การใหญ่น้อยก็มิได้ผ่อนผันให้ผู้ใดทำ สุมาอี้ได้ยินดังนั้นก็ว่าเห็นขงเบ้งจะอายุสั้นเสียแล้ว แล้วก็ให้บำเหน็จรางวัลแก่ทหารผู้นั้น ตามสมควร

         ครั้นขงเบ้งอยู่ในค่าย แลเห็นดาวประจำตัวเศร้าหมองนัก ก็ว่าเห็นตัวจะตายเป็นมั่นคง เกียงอุยก็ว่าให้ทำพิธีต่ออายุ ก็จะพอสืบไปได้บ้าง ขงเบ้งเห็นด้วย ก็ให้จัดทำพิธีต่ออายุ ครั้นทำพิธีอยู่หกคืน สุมาอี้ก๊แลเห็นดาวอุปราชเมืองเสฉวน เศร้าหมองอยู่ ก็เห็นได้ที ให้ทหารไปร้องท้าทายถึงค่าย อุยเอี๋ยนเห็นดังนั้น ก็เข้าไปข้างใน หวังจะบอกขงเบ้ง ก็สะดุดโคมต่ออายุนั้นดับไป ขงเบ้งเห็นดังนั้นก็ตกใจ แล้วว่าคงจะเห็นไม่พ้นความตายเป็นมั่นคง

         ครั้นขงเบ้งก็ได้ให้เอียวหงี ทำหุ่นรูปแทนตัวนั่งเกวียนอยู่ ให้ทหารทำตัวเป็นปรกติ แล้วก็สั่งเสียก่อนตาย ให้เจียวอ้วนเป็นมหาอุปราชแทนตน ให้เกียงอุยว่าราชการฝ่ายทหาร ครั้นสั่งเสร็จแล้วก็ตาย ขณะนั้นพระเจ้าเล่าเสี้ยนเสวยราษฎร์ได้สิบสองปี ฝ่ายสุมาอี้รู้ดังนั้นก็ติดตามไป หวังจะตีทหารเสฉวน แลไปเห็นหุ่นขงเบ้ง ก็สำคัญว่าขงเบ้งยังไม่ตาย แลเห็นจะต้องกลขงเบ้งเสียแล้ว ก็รีบให้ยกทหารกลับ

         ฝ่ายอุยเอี๋ยนรู้ว่าขงเบ้งตายแล้วก็คิดขบถ ก็ไปตั้งอยู่หน้ากำแพงเมืองฮันต๋ง ขงเบ้งขณะก่อนตายนั้น ก็ได้ฝากความลับไว้แก่ม้าต้าย ให้ไปอยู่เป็นไส้ศึกด้วยอุยเอี๋ยน เมื่ออุยเอี๋ยนยกมาตั้งหน้ากำแพงเมืองแล้ว เอียวหงีก็ฉีกหนังสือขงเบ้ง เป็นใจความว่าให้ลวงอุยเอี๋ยนมีใจกำเริบ ให้ร้องขึ้นว่าใครอาจสามารถฆ่ากูได้ เอียงหงีก็ท้าให้อุยเอี๋ยนทำตาม แลขณะอุยเอี๋ยนแหงนหน้าจะร้องขึ้น ม้าต้ายก็เข้ามาข้างหลัง ใช้กระบี่ฟันถูกศรีษะอุยเอี๋ยน ขาดออกจากกาย เอียงหงี เกียงอุยก็มีความยินดี แล้วให้เอาศพขงเบ้งไปฝังไว้ ณ เขาเตงกุนสัน

         ฝ่ายพระเจ้าโจยอยก็ตั้งให้สุมาอี้เป็นมหาอุปราช แลอยู่มาไม่นานก็สิ้นพระชมน์ ขณะนั้นพระเจ้าโจยอยครองราชย์ได้สิบสามปี สุมาอี้ก็ให้โจฮองสืบราชสมบัติต่อมา ฝ่ายเกียงอุยก็มาตีวุยก๊กอยู่เนืองๆ อยู่มาพระเจ้าโจฮองเสวยราษฎร์ได้สิบสามปี สุมาอี้ก็ป่วยตาย พระเจ้าโจฮองก็ตั้งให้สุมาสู สุมาเจียวผู้บุตรสุมาอี้ คุมอำนาจบ้านเมืองแลทหารทั้งปวง

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 62 สุมาเจียวตีเมืองเสฉวน

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 62 สุมาเจียวตีเมืองเสฉวน

         ขณะนั้นลกซุนแลจูกัดกิ๋น ผู้มีสติปัญญาเมืองกังตั๋งก็ตายแล้ว อยู่มาพระเจ้าซุนกวน เสวยราษฎร์ได้ยี่สิบสี่ปี ก็ประชวรหนักถึงแก่ความตาย จูกัดเก๊กแลขุนนางทั้งปวงก็ตั้งให้ซุนเหลียง เสวยราษฎร์แทน

         ฝ่ายสุมาสูแลสุมาเจียว ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยก็อยู่ในบังคับบัญชาสิ้น แลทำการกำเริบ พระเจ้าโจฮองก็คิดทำการกำจัดเสีย สุมาสูแจ้งดังนั้นก็โกรธนัก ถอดพระเจ้าโจฮองออกจากราชสมบัติ ก็ให้โจมอ หลานพระเจ้าโจผี ครองราษฎร์แทน พระเจ้าโจมอก็แต่งตั้งให้สุมาสูเป็นมหาอุปราช

         อยู่มาพระเจ้าโจมอเสวยราษฎร์ได้สองปีเศษ สุมาสูก็ถึงแก่ความตาย สุมาเจียวก็ได้ เป็นมหาอุปราชแทน ฝ่ายเกียงอุยเห็ราชการเมืองวุยก๊ก แปรปรวนอยู่ ก็เข้ายกทหารเข้ารบอยู่เนืองๆ แต่มิสำเร็จ

         ฝ่ายเมืองกังตั๋ง หมดสิ้นยุคพระเจ้าซุนเหลียง ก็ได้ซุนฮิวปกครองต่อมา เมืองวุยก๊ก ก็ได้โจฮวนสืบราชสมบัติต่อจากโจมอ ฝ่ายพระเจ้าเล่าเสี้ยน ซึ่งอยู่แดนเสฉวนนั้น ก็มิได้เอาใจใส่ราชการ เสพย์สุราทุกวันมิได้ขาด เชื่อฟังแต่ถ้อยคำฮุยโฮขันที ฝ่ายเกียงอุยก็ได้ตีวุยก๊ก อยู่หลายครั้ง อยู่มาฮุยโฮก็ได้ยุยงพระเจ้าเล่าเสี้ยน ให้เรียกเกียงอุยกลับ ด้วยติดสินบนเงียมอูขุนนางในเมืองเสฉวน พระเจ้าเล่าเสี้ยนก็ให้เรียกเกียงอุยกลับ เกียงอุยรู้ดังนั้นก็น้อยใจ แล้วยกทหารลาออกมาทำไร่นา ฝึกทหารอยู่ที่ตำบลหลงเส

         ฝ่ายสุมาเจียวเห็นราชการเมืองเสฉวนอิดโรย แลเห็นจะเสื่อมสลายแล้วก็ให้ เตงงาย จงโฮย ออกตีเสฉวนให้ได้ พระเจ้าเล่าเสี้ยนก็มิได้สนใจออกว่าราชการ แลมิได้ป้องกันบ้านเมือง เตงงายก็ได้แยกไปตีทางอิมเป๋ง แลทางนั้นเดินลำบาก กันดารแสนเข็ญนัก ฝ่ายเสฉวนแลเห็นเส้นทางอิมเป๋งกันดาร มิคิดว่าจะมีทหารยกมาได้ จึงป้องกันหละหลวม เตงงายก็ยกทหารมาแต่น้อยผ่านมาได้ จะเข้าเมืองเสฉวน
    ฝ่ายพระเจ้าเล่าเสี้ยนเห็นจวนตัว ก็มิคิดอ่านป้องกัน ยอมอ่อนน้อมออกไปคำนับ มอบเมืองเสฉวนให้แก่เตงงาย ฝ่ายเกียงอุยรู้ดังนั้นก็ตกใจ แล้วแสร้งยอมเข้าไปอยู่ด้วยจงโฮย แล้วยุให้คิดขบถ ก็ถูกทหารกลุ้มฆ่าตายทั้ง จงโฮย แลเกียงอุย สุมาเจียวจึงได้เสฉวนแต่นั้นมา


    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 63 สุมาเอี๋ยนสถาปนาราชวงศ์จิ้น

    เรื่องย่อสามก๊ก : ตอนที่ 63 สุมาเอี๋ยนสถาปนาราชวงศ์จิ้น

         ฝ่ายพระเจ้าโจฮวนก็ได้แต่งตั้ง สุมาเจียวเป็นจีนอ๋อง อยู่มาไม่นานสุมาเจียวก็ตาย สุมาเอี๋ยนผู้บุตร ก็ได้เป็นที่จีนอ๋องแทนบิดา อยู่มาสุมาเอี๋ยนก็ถอดพระเจ้าโจฮวน ออกเสียจากราชสมบัติ ตั้งตนเป็นพระเจ้าจีนอ๋อง แต่นั้นก็สิ้นสุดราชวงศ์วุ่ย แล้วสุมาเอี๋ยนก็เตรียมทแกล้วทหารทั้งปวงจะยกไปตีกังตั๋ง

          ฝ่ายพระเจ้าซุนฮิว แจ้งดังนั้นก็ทรงประชวรหนักถึงแก่ความตาย ขุนนางทั้งปวงก็ตั้ง ให้ซุนโฮสืบราชสมบัติต่อมา ฝ่ายพระเจ้าซุนโฮครั้นสืบราชสมบัติเสียแล้ว ก็กำเริบทำหยาบช้าผิดประเพณีมาแต่ก่อน ฝ่ายพระเจ้าสุมาเอี๋ยนเห็นเมืองกังตั๋งจะโรยรา ก็ให้ยกทหารไปตีกังตั๋ง ฝ่ายพระเจ้าฮุยโฮเห็นข้าศึกยกเข้ามาจวนตัว ก็ออกมายกเมืองกังตั๋ง ให้แก่พระเจ้าสุมาอี๋ยน แต่นั้นม พระเจ้าสุมาเอี๋ยนก็ได้รวมแผ่นดินสามก๊ก กลับมาอยู่เป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งหนึ่ง แล้วสถาปนาราชวงศ์จิ้นสืบต่อมา ***

    เนื้อเพลง