วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

โคบุตร

 


วรรณคดีเรื่อง โคบุตร เป็นนิทานเรื่องแรกที่สุนทรภู่แต่งขึ้น และยังเป็นนิทานเรื่องแรก ที่แต่งโดยคำ
กลอน แต่งขึ้นเพื่อถวายเจ้านายในพระราชวังหลังพระองค์หนึ่ง 

                        แต่ปางหลังครั้งว่างพระศาสนา
                        เป็นปฐมสมมตกันสืบมา               ด้วยปัญญายังประวิงทั้งหญิงชาย
                        ฉันชื่อภู่รู้เรื่องประจักษณ์แจ้ง        จึงแสดงคำคิดประดิษฐ์ถวาย
                        ตามสติริเริ่มเรื่องนิยาย                    ให้เพริศพรายพริ้งเพราะเสนาะกลอน

นางฟ้าองค์หนึ่งตั้งจิตปรารถนาจะมีพระสวามีและโอรสกับพระอาทิตย์ ด้วยอำนาจแรงอธิษฐาน นางจึงไปจุติอยูในดอกบัวหลวง ณ เมืองมนุษย์ เมื่อพระอาทิตย์ทรงทราบจึงมาสมกับนางจนตั้งครรภ์ ครั้นนางคลอดโอรสแล้วก็ดับชีพกลับไปจุติบนสวรรค์ พระอาทิตย์จึงนำโอรสไปฝากให้ดื่มนมราชสีห์ จนกระทั่งพระกุมารเจริญวัยได้ ๑๐ ขวบ มีพละกำลังเป็นอันมาก

พระอาทิตย์ประทานนามโอรสว่าพระโคบุตรสุริยา ตามนามของพระชนก และนางราชสีห์ที่เลี้ยงดู พร้อมทั้งให้เครื่องประดับกายซึ่งเป็นทิพศาสตราสำหรับ ป้องกันตัวและใช้เหาะเหินได้ แล้วบอกให้พระโคบุตรเดินทางไปยังถิ่นต่าง ๆ และหาเนื้อคู่ซึ่งอยู่ทางทิศบูรพาของเมืองพาราณสี พระโคบุตรจึงตัดสินใจลาราชสีห์ ออกเดินทางไปตามคำของพระบิดา ก่อนเดินทาง ราชสีห์ได้ให้ยาสำหรับพ่นผู้ที่ตายแล้วให้ฟื้นคืนชีพ ซึ่งเป็นของวิเศษอีกอย่างหนึ่ง

พระโคบุตรเหาะมาเห็นยักษ์ ๔ ตน กำลังไล่จับกุมารสองคนในสระกลางป่า จึงตรงเข้าช่วยเหลือและฆ่ายักษ์ตาย เมื่อไต่ถามทราบว่าพระกุมารนั้นคือ นางมณีสาคร และพระอรุณ พระธิดาและพระโอรสของท้าวพรหมทัต กรุงพาราณสี ที่หนีออกจากเมืองเพราะถูกราชปุโรหิตชิงบัลลังก์ พระโคบุตรจึงคิดจะช่วยเหลือ แล้วพ่นยาวิเศษให้ยักษ์ทั้ง ๔ ตน กลับมีชีวิตเพื่อไม่ให้เป็นเวรกรรมต่อกัน จากนั้นพระโคบุตร พร้อมด้วยนางมณีสาครพระอรุณและยักษ์ ๔ ตนไปช่วยกู้บัลลังก์คืนได้สำเร็จแล้ว ชุบชีวิตท้าวพรหมทัตกับพระนางประทุมทัศมเหสี ส่วนปุโรหิตและบุตรที่คิดการร้าย ท้าวพรหมทัตมีรับสั่งให้แห่ประจานทั่วเมืองแล้วนำไปถ่วงน้ำที่ทะเลหลวง

ท้าวพรหมทัตมีพระราชประสงค์จะยกเมืองพาราณสีพร้อมทั้งพระธิดาและ พระโอรสให้แก่พระโคบุตร ทั้งทรงเห็นว่าพระโคบุตรกับพระธิดามณีสาครคู่ควรกัน แต่ด้วยทั้งสององค์ยังอยู่ในวัยเด็ก จึงได้แต่ชักชวนให้พระโคบุตรอยู่ที่เมืองพาราณสีระยะหนึ่งก่อน ต่อมาพระโคบุตรต้องการเดินทางไปตามความประสงค์ของพระบิดา จึงขอลาท้าวพรหมทัตไปประพาสป่าท้าวพรหมทัตมิอาจทัดทานได้จึงให้พระอรุณติดตามไปด้วย ทั้งสององค์เหาะเหินเดินทางและผจญภัยต่างๆ นับตั้งแต่สู้รบและฆ่าพวกวิทยาธรตายแล้วชุบให้เป็นขึ้น อีกทั้งรบกับหัศกัณฐมัจฉาที่ฆ่าไม่ตาย เพราะได้รับพรจากพระอิศวร จนพระโคบุตรต้องไปเชิญพญาวานรที่เขาเหมรามาช่วยรบจึงสังหารได้สำเร็จ และยังมีนางยักขิณีซึ่งแปลงเป็นนางงามมาล่อลวงให้เข้าเมืองเนรมิต ครั้นพระโคบุตรรู้ความจริงก็มิได้ฆ่าเพราะเห็นว่าเป็นสตรี แต่สั่งสอนและให้นางยักษ์สัญญาว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้เป็นบาปติดตัวไปชาติหน้า

จากนั้นพระโคบุตรและพระอรุณเดินทางต่อไปตามทิศที่พระอาทิตย์บอก ระหว่างทางได้พบนกสาลิกาพูดได้อย่างมนุษย์ แล้วพากันเหาะมาจนถึงเมืองกาหลงของท้าววิหลราช ซึ่งมีพระธิดาโฉมงามทรงพระนามว่านางอำพันมาลา พระโคบุตรให้นกสาลิกาถือสารไปถวายนางถึงปราสาทที่ประทับ แล้วพระโคบุตรเข้าหานางอำพันมาลา ท้าววิหลราชสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงสั่งให้เสนาทำพระแท่นบรรทมที่มียักษ์พยนต์มาประทานแก่นางอำพันมาลา เพื่อจับคอยผู้ที่ลอบเข้าปราสาทพระธิดา แต่พระธำมรงค์และพระสังวาลประดับกายช่วยป้องกันไว้ พระโคบุตรจึงพานางอำพันมาลาพร้อมด้วยพระอรุณและนกสาลิกาเหาะกลับเมืองพาราณสี

เมื่อพระโคบุตรเดินทางมาถึง ได้พบนางมณีสาครซึ่งมีสิริโฉมงดงามเพิ่งแรกรุ่นก็มีจิตประดิพัทธ์ จึงทูลท้าวพรหมทัตว่าจะอภิเษกนางมณีสาครที่ทรงยกให้ตั้งแต่เด็กเป็นมเหสีฝ่ายขวา ส่วนนางอำพันมาลาให้เป็นมเหสีฝ่ายซ้าย ท้าวพรหมหัตจึงกำหนดพิธีอภิเษกสมรสพระโคบุตรกับสองนาง เมื่อพระอาทิตย์ทรงทราบจึงมาช่วยสร้างเมืองเนรมิตให้แก่พระโคบุตร นามว่าปราการบรรพต และจัดการอภิเษกให้ แล้วพระโคบุตรครองเมืองต่อมาจนมีเมืองขึ้นจำนวนมาก ฝ่ายนางอำพันมาลาทรงครรภ์ และน้อยพระทัยที่พระโคบุตรโปรดปรานแต่นางมณีสาคร จึงปรึกษากับสาวใช้คนสนิทลอบให้เถรกระอำทำเสน่ห์พระโคบุตร นางมณีสาครจึงวานนกสาลิกาถือสารไปบอกพระอรุณให้มาช่วยเหลือ พระอรุณจึงเดินทางมากับยักษ์ ๔ ตน ช่วยจับเสน่ห์เถรกระอำได้สำเร็จ เมื่อพระโคบุตรทราบความก็ทรงพระพิโรธมาก จึงสั่งประหารนางอำพันมาลาพร้อมกับเถรกระอำและสาวใช้ พระอรุณทูลขอให้ยกโทษประหารนางอำพันมาลาไว้ได้ แต่นางยังต้องโทษเนรเทศ ให้ออกไปจากเมืองพาราณสี

นางอำพันมาลาได้รอนแรมอยู่ในป่าจนสลบไป   หลังจากนางอำพันมาลาสลบอยู่กลางป่า ราชสีห์ที่เลี้ยงดูพระโคบุตรเมื่อครั้งเยาว์วัยมาพบเข้า จึงได้พาไปอาศัยอยู่ด้วยจนนางให้กำเนิดโอรสที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายพระโคบุตรยิ่งนัก ด้วยความสงสัย ราชสีห์จึงได้ถามจนทราบความว่าเรื่องมีที่มาอย่างไร ราชสีห์จึงพานางอำพันมาลาไปเข้าเฝ้าพระโคบุตรทันที   เมื่อได้เห็นหน้าโอรสน้อย พระโคบุตรก็ใจอ่อน จึงรับนางอำพันมาลาซึ่งสำนึกผิดแล้วและพระโอรสกลับเข้ามาอยู่ในเมือง ซึ่งขณะนั้น นางมณีสาครเองก็มีโอรสน้อยเช่นกัน พระโคบุตรจึงตั้งชื่อโอรสอันเกิดจากนางมณีสาครว่า มณีสุริยัน และตั้งชื่อโอรสอันเกิดจากนางอำพันมาลาว่า อำพันสุริยา
        กล่าวถึง ตะวันยักษ์นาคา สหายของหัสกัณฐ์มัจฉา เกิดความแค้นที่พระโคบุตรสังหารสหายของตน จึงได้ส่ง นางมณีกลีบสมุทร ซึ่งเป็นธิดา ให้ไปจับตัวพระโคบุตรมาให้ตนสังหารเสีย ซึ่งนางมณีกลีบสมุทรได้แปลงกายเป็นสาวสวยเข้ามายั่วยวนจนพระโคบุตรหลงใหล

วันเวลาผ่านไปจนนางมณีกลีบสมุทรตั้งครรภ์อ่อนๆ ก็นึกถึงหน้าที่บิดาของตนสั่งมาได้ จึงจับตัวพระโคบุตรไปให้ตะวันยักษ์นาคา แต่ก็ขอร้องให้บิดาไว้ชีวิตพระโคบุตรด้วย เพื่อเห็นแก่ลูกในท้องของตน ในที่สุด ตะวันยักษ์นาคาก็ใจอ่อน จึงยอมปล่อยพระโคบุตรไปพระโคบุตรและมเหสีทั้งสามจึงปกครองเมืองปราการบรรพตสงบสุขนับแต่นั้นมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เนื้อเพลง