นางฟ้าองค์หนึ่งตั้งจิตปรารถนาจะมีพระสวามีและโอรสกับพระอาทิตย์ ด้วยอำนาจแรงอธิษฐาน นางจึงไปจุติอยูในดอกบัวหลวง ณ เมืองมนุษย์ เมื่อพระอาทิตย์ทรงทราบจึงมาสมกับนางจนตั้งครรภ์ ครั้นนางคลอดโอรสแล้วก็ดับชีพกลับไปจุติบนสวรรค์ พระอาทิตย์จึงนำโอรสไปฝากให้ดื่มนมราชสีห์ จนกระทั่งพระกุมารเจริญวัยได้ ๑๐ ขวบ มีพละกำลังเป็นอันมาก
พระอาทิตย์ประทานนามโอรสว่าพระโคบุตรสุริยา ตามนามของพระชนก และนางราชสีห์ที่เลี้ยงดู พร้อมทั้งให้เครื่องประดับกายซึ่งเป็นทิพศาสตราสำหรับ ป้องกันตัวและใช้เหาะเหินได้ แล้วบอกให้พระโคบุตรเดินทางไปยังถิ่นต่าง ๆ และหาเนื้อคู่ซึ่งอยู่ทางทิศบูรพาของเมืองพาราณสี พระโคบุตรจึงตัดสินใจลาราชสีห์ ออกเดินทางไปตามคำของพระบิดา ก่อนเดินทาง ราชสีห์ได้ให้ยาสำหรับพ่นผู้ที่ตายแล้วให้ฟื้นคืนชีพ ซึ่งเป็นของวิเศษอีกอย่างหนึ่ง
พระโคบุตรเหาะมาเห็นยักษ์ ๔ ตน กำลังไล่จับกุมารสองคนในสระกลางป่า จึงตรงเข้าช่วยเหลือและฆ่ายักษ์ตาย เมื่อไต่ถามทราบว่าพระกุมารนั้นคือ นางมณีสาคร และพระอรุณ พระธิดาและพระโอรสของท้าวพรหมทัต กรุงพาราณสี ที่หนีออกจากเมืองเพราะถูกราชปุโรหิตชิงบัลลังก์ พระโคบุตรจึงคิดจะช่วยเหลือ แล้วพ่นยาวิเศษให้ยักษ์ทั้ง ๔ ตน กลับมีชีวิตเพื่อไม่ให้เป็นเวรกรรมต่อกัน จากนั้นพระโคบุตร พร้อมด้วยนางมณีสาครพระอรุณและยักษ์ ๔ ตนไปช่วยกู้บัลลังก์คืนได้สำเร็จแล้ว ชุบชีวิตท้าวพรหมทัตกับพระนางประทุมทัศมเหสี ส่วนปุโรหิตและบุตรที่คิดการร้าย ท้าวพรหมทัตมีรับสั่งให้แห่ประจานทั่วเมืองแล้วนำไปถ่วงน้ำที่ทะเลหลวง
ท้าวพรหมทัตมีพระราชประสงค์จะยกเมืองพาราณสีพร้อมทั้งพระธิดาและ พระโอรสให้แก่พระโคบุตร ทั้งทรงเห็นว่าพระโคบุตรกับพระธิดามณีสาครคู่ควรกัน แต่ด้วยทั้งสององค์ยังอยู่ในวัยเด็ก จึงได้แต่ชักชวนให้พระโคบุตรอยู่ที่เมืองพาราณสีระยะหนึ่งก่อน ต่อมาพระโคบุตรต้องการเดินทางไปตามความประสงค์ของพระบิดา จึงขอลาท้าวพรหมทัตไปประพาสป่าท้าวพรหมทัตมิอาจทัดทานได้จึงให้พระอรุณติดตามไปด้วย ทั้งสององค์เหาะเหินเดินทางและผจญภัยต่างๆ นับตั้งแต่สู้รบและฆ่าพวกวิทยาธรตายแล้วชุบให้เป็นขึ้น อีกทั้งรบกับหัศกัณฐมัจฉาที่ฆ่าไม่ตาย เพราะได้รับพรจากพระอิศวร จนพระโคบุตรต้องไปเชิญพญาวานรที่เขาเหมรามาช่วยรบจึงสังหารได้สำเร็จ และยังมีนางยักขิณีซึ่งแปลงเป็นนางงามมาล่อลวงให้เข้าเมืองเนรมิต ครั้นพระโคบุตรรู้ความจริงก็มิได้ฆ่าเพราะเห็นว่าเป็นสตรี แต่สั่งสอนและให้นางยักษ์สัญญาว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้เป็นบาปติดตัวไปชาติหน้า
จากนั้นพระโคบุตรและพระอรุณเดินทางต่อไปตามทิศที่พระอาทิตย์บอก ระหว่างทางได้พบนกสาลิกาพูดได้อย่างมนุษย์ แล้วพากันเหาะมาจนถึงเมืองกาหลงของท้าววิหลราช ซึ่งมีพระธิดาโฉมงามทรงพระนามว่านางอำพันมาลา พระโคบุตรให้นกสาลิกาถือสารไปถวายนางถึงปราสาทที่ประทับ แล้วพระโคบุตรเข้าหานางอำพันมาลา ท้าววิหลราชสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงสั่งให้เสนาทำพระแท่นบรรทมที่มียักษ์พยนต์มาประทานแก่นางอำพันมาลา เพื่อจับคอยผู้ที่ลอบเข้าปราสาทพระธิดา แต่พระธำมรงค์และพระสังวาลประดับกายช่วยป้องกันไว้ พระโคบุตรจึงพานางอำพันมาลาพร้อมด้วยพระอรุณและนกสาลิกาเหาะกลับเมืองพาราณสี
เมื่อพระโคบุตรเดินทางมาถึง ได้พบนางมณีสาครซึ่งมีสิริโฉมงดงามเพิ่งแรกรุ่นก็มีจิตประดิพัทธ์ จึงทูลท้าวพรหมทัตว่าจะอภิเษกนางมณีสาครที่ทรงยกให้ตั้งแต่เด็กเป็นมเหสีฝ่ายขวา ส่วนนางอำพันมาลาให้เป็นมเหสีฝ่ายซ้าย ท้าวพรหมหัตจึงกำหนดพิธีอภิเษกสมรสพระโคบุตรกับสองนาง เมื่อพระอาทิตย์ทรงทราบจึงมาช่วยสร้างเมืองเนรมิตให้แก่พระโคบุตร นามว่าปราการบรรพต และจัดการอภิเษกให้ แล้วพระโคบุตรครองเมืองต่อมาจนมีเมืองขึ้นจำนวนมาก ฝ่ายนางอำพันมาลาทรงครรภ์ และน้อยพระทัยที่พระโคบุตรโปรดปรานแต่นางมณีสาคร จึงปรึกษากับสาวใช้คนสนิทลอบให้เถรกระอำทำเสน่ห์พระโคบุตร นางมณีสาครจึงวานนกสาลิกาถือสารไปบอกพระอรุณให้มาช่วยเหลือ พระอรุณจึงเดินทางมากับยักษ์ ๔ ตน ช่วยจับเสน่ห์เถรกระอำได้สำเร็จ เมื่อพระโคบุตรทราบความก็ทรงพระพิโรธมาก จึงสั่งประหารนางอำพันมาลาพร้อมกับเถรกระอำและสาวใช้ พระอรุณทูลขอให้ยกโทษประหารนางอำพันมาลาไว้ได้ แต่นางยังต้องโทษเนรเทศ ให้ออกไปจากเมืองพาราณสี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น