นิทาน นิ้วมือทั้งห้า
ครั้งหนึ่งนิ้วมือคน ทั้ง 5 นิ้วเกิดโต้เถียงกัน โดยแต่ละนิ้ว
ต่างก็ถือว่านิ้วของตนมีความสำคัญกว่านิ้วอื่น
“ นิ้วฉันสำคัญกว่าทุกนิ้ว เพราะเป็นนิ้วแห่งความมีอำนาจ
สามารถชี้สั่งการให้ใครทำอะไรก็ได้ และสามารถชี้แนะสั่ง
สอนให้คนอื่นทำตาม ”
นิ้วชี้เริ่มต้นคุยอวดความยิ่งใหญ่ของตนเองก่อนนิ้วอื่น ทำ
ให้นิ้วอีก 4 นิ้วไม่พอใจที่ถูกคุยทับถมจึงตอบโต้ไป
นิ้วกลางบอกว่า
“ นิ้วของฉันยาวและสูงกว่าพวกท่านทุกนิ้ว จึงต้องสำคัญ
กว่านิ้วอื่น ไม่เช่นนั้น พวกท่านคงไม่มาห้อมล้อมคอยปก
ป้องดูแลนิ้วของเราหรอก ”
นิ้วนางอวดบ้างว่า
“ นิ้วของฉันเป็นนิ้วของผู้มีสง่าราศีมีเกียรติกว่านิ้วอื่นเวลา
คนจะสวมแหวนเพชรแหวนทอง เขาก็จะสวมที่นิ้วฉัน”
นิ้วก้อยก็บอกว่า
“ นิ้วฉันแม้จะเล็กหรือเรียวกว่านิ้วอื่น ๆ แต่เป็นนิ้วนำทาง
ใครจะกราบพระหรือไหว้พระ หรือไหว้ผู้ใหญ่ นิ้วฉันก็จะถึง
ก่อนและอยู่ใกล้ชิดกว่านิ้วไหนถือว่าเป็นนิ้วที่มีบุญ หรือเว
ลาใครจะคืนดีกัน หรือหนุ่มสาวจะควงคู่กันให้หวานชื่นเขา
จะเกี่ยวก้อยกัน ”
นิ้วหัวแม่มือได้ฟังก็บอกว่า
“ ใครจะสำคัญอย่างไรก็แล้วแต่ หากไม่มีนิ้วหัวแม่มือเวลา
จะหยิบจับของอะไรจะหยิบถนัดได้อย่างไร เวลาใครลงคะ
แนนเสียงเลือกตั้ง แม้แต่เข้าโรงรับจำนำ หรือการแสดง
หลักฐานแทนการลงลายมือชื่อ เขายังต้องใช้นิ้วฉันพิมพ์
ลายนิ้วมือ ”
มือได้ฟังนิ้วทั้ง 5 อวดความยิ่งใหญ่ของตนก็สุดแสนรำคาญ
จึงห้ามปรามและอธิบายให้ฟัง
“ ลองนึกดูให้ดีถ้าเกิดมีใครตัดนิ้วหนึ่งนิ้วใดขาดหายไป นิ้ว
พวกท่านที่เหลือจะทำงานได้สะดวกหรือ แล้วมือของเราก็
คงต้องพิกลพิการ ดูไม่งามอย่างนี้หรอก ทุกนิ้วล้วนมีความ
สำคัญทั้งนั้น ถ้าไม่สามัคคีกัน แล้วจะร่วมกันทำงานให้สำ
เร็จได้อย่างไร ”
นิทานเรื่องนี้คงเตือนใจได้อย่างดีว่า จะต้องตั้งหลักให้ดี
อย่ามัวแต่เมาทฤษฎี จนจัดกระบวนทัพไม่ถูก หรือไปให้
ความสำคัญกับนิ้วใดนิ้วหนึ่ง จนทำให้องค์กรเกิดความยุ่ง
เหยิง บุคลากรเกิดความขัดแย้งกัน เพราะถ้าองค์กรใดเป็น
เช่นนี้ ความฝันที่จะบริหารให้เป็นองค์รวมคงจะสำเร็จได้
ยาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น