วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ปีเถาะ

 

ปีเถาะ

ธาตุกำเนิด คือ ธาตุไม้
คนเกิดปีเถาะ (ปีกระต่าย) : ผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. 2458, 2470, 2482, 2494, 2506, 2518, 2530, 2542, 2554, 2566, 2578, 2590  


(ปีใหม่ของจีนไม่ได้เป็นวันที่ 1 มกราคม แต่จะอยู่ในช่วงมกราคม หรือ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ฉะนั้นผู้ที่เกิดปีถัดไปในเดือนมกราคมก็จะอยู่ในนักษัตรนั้น แต่ถ้านับตามปีใหม่ของไทยก็จะเริ่มปีนักษัตรใหม่ตั้งแต่ วันขึ้น 1 ค่ำ เดือนห้า(5) หรือ ประมาณช่วงปลายเดือนมีนาคม หรือ ต้นเดือนเมษายน)

อุปนิสัยของคนเกิดปีเถาะ
คนปีเถาะอารมณ์เย็น โอบอ้อมอารี เป็นคนที่ดูเด็ก และมีจินตนาการอ่อนไหว เป็นคนที่มีความสุขที่สุดภายใต้บรรยากาศดีๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้คน วัตถุสิ่งของ หรือ บรรยากาศที่คุณรู้สึกว่าใช่ ล้วนมีผลกับจิตใจคุณทั้งสิ้นในสถานการณ์ที่ทำให้คนอื่นตื่นเต้น คุณจะถอยห่างออกมาดูเชิง เพื่อดูว่ามีอะไรผิดสังเกต คุณไม่ชอบความรุนแรง และการกระทบกระทั่ง คุณไม่ชอบเป็นจุดเด่น ถ้ามีใครมาต้อนคุณให้จนมุม คุณจะไม่ไปต่อกรให้เสียอารมณ์ แต่จะเผ่นแน่บไปหาความสบายใจที่อื่น ก็คนมันไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย แต่บางทีเจ้าความรู้สึกปลอดภัยก็ทำให้คุณเสียโอกาสดีๆ การยึดติดกับความคิดที่ว่าอะไรๆ ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน ทำให้คุณดูเป็นเด็กดื้อได้เหมือนกัน แต่ถ้าเพื่อนฝูงมีปัญหาอะไรคุณก็จะอยู่ด้วยเสมอ เพราะคุณเป็นคนรักเพื่อน คุณเป็นคนอัธยาศัยดี เรื่องต้อนรับขับสู้ไม่มีใครเกิน คุณซื่อสัตย์เป็นมิตร เข้ากับคนได้ง่าย กับคนที่คุณรัก คุณก็เป็นคนที่น่ารัก และอ้อนเก่ง ถ้าคุณรักใครคุณจะเอาใจเก่งสุดๆ เพื่อจะชนะใจคนที่คุณรักให้ได้ จิตใจคนปีเถาะจะเปราะบางกว่าใครเพื่อน ถ้าความรักมีปัญหาก็ถึงขั้นตรอมใจ ร่างกายผ่ายผอม คุณชอบลองใจ แต่ถ้าพบว่าใช่ คุณก็จะให้ใจเต็มร้อยเหมือนกัน เมื่อมีลูก คุณจะเป็นพ่อแม่ที่เอาใจใส่ และเป็นห่วงครอบครัวอยู่ตลอดเวลา

นักษัตรคุณเป็นธาตุไม้ ซึ่งหมายถึงตับ ถุงน้ำดี เส้นเอ็น และดวงตา ความโกรธ ความตกใจ จะทำให้ธาตุไม้แปรปรวน และสุขภาพเสื่อมโทรม

กระต่ายกระโดดอยู่ในป่า
สำหรับผู้ที่เกิด พ.ศ. 2446 และ พ.ศ. 2506
กระต่ายกระโดดอยู่ในป่า มีนัยถึงคนที่ประสบความสำเร็จ คนที่มีดวงกระต่ายกระโดดอยู่ในป่า จะมีสื่อถึงวิญญาณบรรพบุรุษ ถ้าใช้ชีวิตแบบไม่คิด และทำตัวไม่ดี วิญญาณบรรพบุรุษจะโกรธ และลงโทษ แต่ถ้าคุณทำสิ่งดีๆ วิญญาณบรรพบุรุษก็จะดลบันดาลให้คุณได้พบกับความเจริญรุ่งเรือง เรื่องการเงิน คุณมีความสามารถมากพอที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิตครอบครัว แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไร เพราะคนในองค์กรจะส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าของคุณมาก ทั้งอาชีพการงานและชีวิตโดยรวม พยายามตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด และควรให้ความเคารพเกรงใจผู้ร่วมงานคนอื่นด้วย คุณมีบุคลิกที่สะดุดตามากๆ แต่ก็ระวังตัวมากเช่นกัน ให้ระวังความรู้สึกพึงพอใจในรูปโฉมของตัวเองไว้บ้าง และเมื่อคุณพบใครสักคนที่คู่ควร คุณก็จะมีความสุขกับชีวิตคู่ที่ยั่งยืน

กระต่ายพระพุทธเจ้า
สำหรับผู้ที่เกิด พ.ศ. 2458 และ พ.ศ. 2518
เนื่องจากคุณเป็นกระต่ายในตำนานทางศาสนา คุณจึงมีบุคลิกที่ดูมีบารมีน่าเลื่อมใส เป็นคนที่ทำอะไรก็เก่งไปหมด จึงทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก คุณจัดการปัญหาได้ดี แต่ก็เป็นคนหัวแข็งอยู่เหมือนกัน คุณเป็นคนใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้คนที่ยังด้อยโอกาส ไม่ได้มุ่งหวังสะสมทรัพย์สิน เงินทอง และความสำเร็จมากมายนัก ใครต่อใครก็มักจะประทับใจในความมีศีลธรรมจรรยา และการชนกับอะไรที่ไม่เข้าท่าอย่างสุดตัวของคุณ คุณไปอยู่ที่ไหนก็เรียกได้ว่าไม่ลำบาก หรือ รอดตาย ใครๆ ก็รู้สึกเมตตาอยากช่วยคุณทั้งนั้น คุณค่อนข้างจะเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ แต่ต้องนึกถึงใจคนอื่นเขาบ้าง ไม่อย่างนั้นอนาคตอาจต้องสูญเสียความรักและความเคารพทั้งจากคนรัก และเพื่อนฝูง

กระต่ายหมายจันทร์
เกิดระหว่าง พ.ศ. 2470 และ พ.ศ. 2530
คุณเป็นคนเก่งรอบตัวจะทำอะไรก็ทำได้ดีสารพัดอย่าง แต่ไม่รู้ทำไม…ไม่รุ่งสักเรื่องเลย คุณเป็นคนอัธยาศัยดี ชอบมีส่วนร่วมกับทุกกิจกรรม ใครจะทำอะไรคุณเข้าไปมีเอี่ยวกับเขาด้วยเสมอ คุณเป็นคนที่ชอบแต่งตัวมาก ภูมิใจกับรูปร่างหน้าตา ชอบให้คนชมว่าแต่งตัวดูดีมีชีวิตตระกูล ทนไม่ได้เวลาเห็นใครแต่งตัวชุ่ยๆ เผลอๆ ก็ไปเจ้ากี้เจ้าการกับเสื้อผ้าหน้าผมของคนอื่นเขาอีก คุณชอบบรรยากาศที่ดีมีรสนิยม บ้านของคุณจึงตกแต่งสวยดูดี และอยู่สบาย เรื่องการงานไม่เคยเป็นการบ้านให้รกสมองของคนกระต่ายปีนี้ ก็คุณเป็นคนเก่งรอบด้าน เวลามีงานดีๆ ต้องการฝีมือระดับเซียน ใครๆ ก็มักจะนึกถึงคุณเป็นอันดับแรกทั้งนั้น คุณผูกใจคนเก่ง จึงเป็นศูนย์กลางความสนใจของเพื่อนฝูงเสมอ ส่วนเรื่องความรัก คุณเป็นคนที่มีมาตรฐานสูง คบสนุก อารมณ์ดี ให้อภัยเวลาคนใกล้ตัวทำผิด และมักจะได้คนดีที่สุดมาเป็นคู่ครอง

กระต่ายกระโดดออกจากป่า
สำหรับผู้ที่เกิด พ.ศ. 2482 และ พ.ศ. 2542
คุณชอบผูกมิตรและชอบทำอะไรร่วมกับคนอื่น คุณเป็นกระต่ายใฝ่รู้ มีความอยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกเรื่อง แต่คุณก็เป็นคนที่ตกใจง่าย คุณมีสัญญาณเตือนภัยที่ติดตัวมาโดยธรรมชาติ จึงเป็นคนกังวลกับสถานการณ์ได้ง่าย ปกติคนปีกระต่ายไม่ชอบเถียงกับใคร กับคุณยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ชอบเรื่องแบบนี้สุดๆ คุณมีนิสัยไม่ชอบเป็นจุดสนใจ ชอบที่จะมีชีวิตลื่นไหลไปแบบสบายๆ และใช้ชีวิตตามแบบที่คุณชอบมากกว่า การงานคุณก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวา ค่อนข้างเดินตามระบบที่มีอยู่ แต่คุณก็จะได้เลื่อนขั้นขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ อยู่ดี ใช้ชีวิตไปได้เรื่อยๆ ไม่ติดขัดด้านการงานการเงินคงเติบโตขึ้นไปได้ตามลำดับ ถ้าคุณยังทำงานให้กับองค์กรนั้นอยู่ต่อไป และสามารถจัดการปัญหาวุ่นวายต่างๆ ได้โดยไม่ลนลานอกแตกตายไปเสียก่อน ส่วนเรื่องชีวิตครอบครัว คุณควรเลือกคู่ชีวิตที่มีอายุมากกว่า เพราะจะทำให้คุณอุ่นใจและรู้สึกมั่นคง

กระต่ายอยู่ในโพรง
สำหรับผู้ที่เกิด พ.ศ. 2494 และ พ.ศ. 2554
เป็นกระต่ายที่มีความสุขที่สุดเพราะอยู่ในโพรงที่ปลอดภัยที่สุด แต่ขณะเดียวกันโพรงก็เป็นข้อจำกัดที่ทำให้คุณยึดติดอยู่กับความปลอดภัย จนไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่แสนจะวุ่นวายของโลกภายนอก เมื่อไม่มีโพรง คุณจะขี้หงุดหงิดกับทุกเรื่อง แม้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณก็จะกังวลถึงอนาคต ถ้าคุณทำใจให้ผ่อนคลาย คุณจะพบว่าคุณเป็นคนที่มีชีวิตมั่นคงปลอดภัยอยู่แล้วทุกวัน กับเพื่อนร่วมงาน คนรัก หรือแฟน บางทีคุณก็ทำตัวเครียดมากไปจนกลายเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก คุณมองว่าการเสนอความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรตามหลักศีลธรรม แต่เมื่อสิ่งนี้มาอยู่รวมกับความหงุดหงิด มันก็คือความก้าวร้าวดีๆ นี่เอง น้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอกสักนิดแล้วใครๆ จะเกรงใจคุณมากขึ้น คุณเป็นคนที่รักอิสระมากๆ แต่ก็แปลกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คนที่มีตำแหน่งแห่งที่ตรงนั้นมักให้ความเมตตา ส่งเสริม และสนับสนุนคุณด้วยความจริงใจ

ปีเถาะลักษณะเฉพาะ
คนที่เกิดปีนี้มักเป็นคนที่ นุ่มนวล มีสัมมาคาระวะ ชอบสังคม มีนิสัยโอบเอื้ออารี ชอบแบ่งปันเพื่อนฝูง

จุดเด่น
ชาวกระต่ายเป็นคนมีมารยาทงาม ใครเห็นใครรัก มักเป็นที่รักของใครๆ

จุดอ่อน
ชอบเก็บตัว ไม่ชอบเสียงดัง ขี้ตกใจ ในบางครั้งมักขี้ขลาดเกินจำเป็น

คนเกิดปีกระต่ายเป็นคนอ่อนโยนน่าทะนุถนอม นอกจากนั้นยังมีนิสัยเมตตากรุณา อ่อนหวานน่ารัก และเป็นที่รักของผู้อื่นเป็นเพื่อนที่ดี และรู้จักวางตัว ไม่ชอบทำให้คนอื่นเสียใจ ชาวกระต่ายจะรักสวยรักงาม มีความเป็นศิลปินและมีรสนิยมที่ดี แต่ถึงแม้จะเป็นที่รักของเพื่อนฝูงและครอบครัว ชาวกระต่ายก็ยังคงเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ขี้กลัว แถมยังหัวโบราณและรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ง่าย จึงทำให้เป็นคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง

คนเกิดปีนี้ คนสุขุม จึงเป็นการยากที่จะปลุกอารมณ์กระต่าย ไม่ว่าจะในแง่ใดก็ตามไม่ชอบโต้เถียง และรักชีวิตที่เงียบสงบ มักขี้ขลาดหรือคนขี้ระแวง คือชาวกระต่ายมักต้องเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงมือทำอะไรลงไป

คนเกิดปีเถาะเป็นคู่รักที่ดีมาก ชอบความโรแมนติก น่ารัก และซื่อสัตย์ ผู้ชายที่เกิดปีเถาะนั้นอาจจะช่างเลือกบ้าง และไม่ใช่แฟมิลี่แมนนัก ผู้หญิงปีเถาะควรใช้เวลาชื่นชมตัวเองในกระจกให้น้อยลง และใช้เวลากับเพื่อนๆให้มากขึ้น

ความรัก
คนเกิดปีนี้ มีความอ่อนไหว อ่อนโยน ชอบเพ้อฝัน และไม่ค่อยหนักแน่นมั่นคงในเรื่องความรัก ฉะนั้นถ้าคิดจะรักคนเกิดปีเถาะ ก็ต้องเผื่อใจไว้เจ็บบ้าง อย่าหวังกับความยั่งยืนกับกระต่ายน้อย เขาหรือเธอต่างก็มีหัวใจเปราะบาง ถ้าใครมาทำดีด้วยก็หลงใหลแทบลืมหัวไม่ขึ้น คนเกิดปีนี้มักเป็นคนขี้หึงแบบสุดๆ เพราะถ้ารักใครก็มักจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งไปได้ คนเกิดปีนี้ชอบสร้างบรรยากาศให้ความรักแปลกใหม่อยู่เสมอ คู่รักของคนเกิดปีนี้ ไม่มีคำว่าเบื่อหรือไร้อารมณ์อย่างเด็ดขาด แถมยังมีอารมณ์รักที่รุนแรงมากด้วยนะ


วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2565

พระเนมิราช ทศชาติชาดก ชาติที่ 4

 

ทศชาติชาดก ชาติที่ 4 

พระเนมิราช (อธิษฐานบารมี)





     เนมิราชชาดกเป็นเรื่องราวในพระชาติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญอธิษฐานบารมียิ่งกว่าพระชาติใด ๆ คือ ทรงตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการทำความดี โดยการเสด็จออกผนวชเพื่อกำจัดทุกข์ของตนเองและผู้อื่น แม้เป้าหมายจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อทรงตั้งจิตอธิษฐานเอาไว้แล้วก็จะทรงพยายามทำให้สำเร็จให้จงได้ ในพระชาตินี้พระเนมิราชทรงละทิ้งความสุขในพรหมโลก ยอมจุติ (ตาย) มาบังเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อสืบทอดวงศ์บรรพชิต (ตระกูลนักบวช) ของพระองค์ไว้ ดังที่ทรงเคยอธิษฐานไว้ในอดีตชาติการบำเพ็ญอธิษฐานบารมีของพระโพธิสัตว์ในพระชาตินี้ จึงเข้าทำนองว่า “ยอมตาย ไม่ยอมเปลี่ยนใจ” นั่นเอง


    พระราชาแห่งเมืองมิถิลา ทรงมีพระโอรสนามว่า เนมิกุมาร ผู้จะทรงสืบสมบัติในกรุงมิถิลาต่อไป พระเนมิกุมาร ทรงมีพระทัยฝักใฝ่ในการบำเพ็ญทานมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงรักษาศีลอุโบสถ อย่างเคร่งครัด เมื่อพระบิดาทอดพระเนตรเห็นเส้นพระเกศาหงอก ก็ทรงรำพึงว่า บัดนี้ถึงเวลาที่จะมอบราชสมบัติให้ แก่โอรสแล้ว พระองค์เองก็จะได้เสด็จออกบำเพ็ญเพียรในทางธรรมต่อไป จึงทรงมอบราชสมบัติเมือง มิถิลาให้แก่พระเนมิราชกุมาร ขึ้นครองเป็นพระเจ้าเนมิราช ส่วนพระองค์เองก็เสด็จออกบวช รักษาศีลตราบจนสวรรคต 

เมื่อพระเจ้าเนมิราชครองราชสมบัติ โปรดให้สร้างโรงทาน ริมประตูเมือง 4 แห่ง โรงทานกลางพระนคร 1 แห่ง ทรงบริจาคทานแก่ประชาชนอยู่เป็นนิตย์ ทรงรักษาศีล และสั่งสอนประชาชนของพระองค์ให้ตั้ง มั่นอยู่ในศีลในธรรม ครั้งนั้นปรากฏว่าประชาชนทั้งหลายล้วนแต่เป็นผู้มีศีลมีสัตย์ ไม่มีการเบียดเบียนทำ บาปหยาบช้า บ้านเมืองก็ร่มเย็นเป็นสุข ผู้คนพากันสรรเสริญพระคุณของพระเจ้าเนมิราชอยู่ทั่วไป

พระเจ้าเนมิราช เมื่อทรงปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ทรงสงสัยว่า การให้ทานกับการประพฤติพรหมจารย์ คือ การรักษาความบริสุทธิ์ ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโลกนั้น อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน พระอินทร์ได้ทรงทราบถึงความกังขาในพระทัยของพระเจ้า เนมิราช จึงเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาปรากฏ เฉพาะพระพักตร์ พระราชา

ตรัสกับพระราชาว่า “หม่อมฉันมาเพื่อแก้ข้อสงสัย ที่ทรงมีพระประสงค์จะทราบว่าระหว่างทานกับการประพฤติ พรหมจรรย์ สิ่งใดจะเป็นกุศลยิ่งกว่ากัน หม่อมฉันขอทูลให้ ทราบว่า บุคคลได้เกิดในตระกูลกษัตริย์นั้นก็เพราะประพฤติ พรหมจรรย์ในขั้นต่ำ บุคคลได้เกิดในเทวโลก เพราะได้ประพฤติ พรหมจรรย์ขั้นกลาง บุคคลจะถึงความบริสุทธิ์ ก็เพราะประพฤติ พรหมจรรย์ขั้นสูงสุด การเป็นพรหมนั้น เป็นได้ยากลำบากยิ่ง ผู้จะประพฤติพรหมจรรย์จะต้องเว้นจากวิถีชีวิตอย่างมนุษย์ ปุถุชน ต้องไม่มีเหย้าเรือน ต้องบำเพ็ญธรรมสม่ำเสมอ ดังนั้น การประพฤติพรหมจรรย์จึงทำได้ยากยิ่ง กว่าการบริจาคทาน และได้กุศลมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก บรรดากษัตริย์ทั้งหลาย มักบริจาคทานกันเป็น การใหญ่แต่ก็ไม่ สามารถจะล่วงพ้น จากกิเลสไปได้ แม้จะได้ไปเกิดในที่อันมีแต่ความสนุก ความบันเทิงรื่นรมย์ แต่ก็เปรียบไม่ได้กับความสุขอันเกิดจาก ความสงบอันวิเวก อันจะได้มาก็ด้วยการประพฤติ พรหมจรรย์เท่านั้น”

พระอินทร์ได้ทรงเล่าถึงเรื่องราวของพระองค์เอง ที่ได้ประกอบทานอันยิ่งใหญ่ เมื่อชาติที่เกิดเป็นพระราชา แห่งพาราณสี ได้ทรงถวายอาหารแก่นักพรตที่อยู่ บริเวณแม่น้ำสีทา เป็นจำนวนหมื่นรูปได้รับกุศลยิ่งใหญ่ แต่ก็เพียงแต่ได้เกิดในเทวโลกเท่านั้น ส่วนบรรดานักพรต ที่ประพฤติพรหมจรรย์เหล่านั้น ล้วนได้ไปเกิดในพรหมโลก อันเป็นแดนที่สูงกว่าและมีความสุขสงบอันบริบูรณ์กว่า แต่แม้ว่าพรหมจรรย์จะ ประเสริฐกว่าทาน พระอินทร์ก็ได้ ทรงเตือนให้พระเจ้าเนมิราชทรงรักษาธรรมทั้งสองคู่กันคือ บริจาค ทานและรักษาศีล

ครั้นเมื่อพระอินทร์เสด็จกลับไปเทวโลกแล้วเหล่าเทวดา ซึ่งครั้งที่เกิดเป็นมนุษย์นั้นได้เคยรับทานและฟังธรรมจาก พระเจ้าเนมิราช จนได้มาบังเกิดในเทวโลก ต่างพากัน ไปเฝ้า

พระอินทร์และทูลว่า “พระเจ้าเนมิราชทรงเป็น อาจารย์ของเหล่าข้าพระบาทมาแต่ก่อน ข้าพระบาท ทั้งหลายรำลึกถึงพระคุณพระเจ้า เนมิราช ใคร่จะได้พบ พระองค์ขอได้โปรดเชิญเสด็จพระเจ้าเนมิราชมา ยังเทวโลกนี้ด้วยเถิด”

พระอินทร์จึงมีเทวบัญชาให้มาตุลี เทพสารถีนำเวชยันตราชรถ ไปเชิญเสด็จพระเจ้าเนมิราช จากกรุง มิถิลาขึ้นมายังเทวโลก มาตุลีเทวบุตรรับโองการแล้วก็นำราชรถไปยังมนุษย์โบก ในคืนวันเพ็ญ ขณะพระเจ้าเนมิราชกำลัง ประทับอยู่กับ เหล่าเสนาอำมาตย์ มาตุลีทูลเชิญพระราชาว่า เทพบนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์รำลึกถึงพระคุณ ของพระองค์ ปรารถนาจะได้พบ พระองค์ จึงนำราชรถมาเชิญเสด็จไปยังเทวโลก

พระเจ้าเนมิราชทรงรำพึงว่า พระองค์ยังมิเคยเห็นเทวโลก ปรารถนาจะเสด็จไปตามคำเชิญของเหล่าเทพ จึงเสด็จประทับ บนเวชยันตราชรถ มาตุลีจึงทูลว่า สถานที่ที่จะเชิญเสด็จไปนั้น มี 2 ทาง คือ ไปทางที่ อยู่ของเหล่าผู้ทำบาปหนึ่ง และไปทางสถานที่ อยู่ของผู้ทำบุญหนึ่ง พระราชาประสงค์จะเสด็จไปที่ใดก่อนก็ได้ พระราชาตรัสว่า พระองค์ประสงค์จะไปยังสถานที่ของ เหล่าผู้ทำบาปก่อน แล้วจึงไปยังที่แห่งผู้ทำบุญ

มาตุลีก็นำเสด็จ ไปยังเมืองนรก ผ่านแม่น้ำเวตรณี อันเป็นที่ทรมาณสัตว์นรก แม่น้ำเต็มไปด้วยเถาวัลย์ หนามโตเท่าหอก มีเพลิงลุกโชติช่วง มีหลาวเหล็กเสียบสัตว์นรกไว้เหมือนอย่างปลา เมื่อสัตว์นรกตก ลงไปในน้ำก็ถูกของแหลมคมใต้น้ำสับขาดเป็นท่อนๆ บางที นายนิรยบาลก็เอาเบ็ดเหล็กเกี่ยวสัตว์นรก ขึ้นมาจากน้ำ เอามา นอนหงายอยู่บนเปลวไฟบ้าง เอาก้อนเหล็กมีไฟลุกแดงอุดเข้าไป ในปากบ้าง สัตว์นรกล้วนต้องทนทุกขเวทนาด้วยอาการต่างๆ

 

พระราชาตรัสถามถึงโทษของเหล่าสัตว์นรกเหล่านี้ ว่าได้ประกอบกรรมชั่วอะไรไว้จึงต้องมารับโทษดังนี้ มาตุลีก็ตอบบรรยายถึงโทษกรรมที่สัตว์นรกเหล่านี้ ประกอบไว้ เมื่อครั้งที่เกิดเป็นมนุษย์ จากนั้น มาตุลีก็พาพระราชาไปทอดพระเนตรขุมนรกต่างๆ ที่มีบรรดาสัตว์นรกถูกจองจำและลงโทษ อยู่ด้วยความทรมาณ แสนสาหัส น่าทุเรศเวทนาต่างๆ เป็นที่น่าสะพรึงกลังอย่างยิ่ง

พระราชาตรัสถามถึง โทษของสัตว์นรกแต่ละประเภท มาตุลีก็ตอบ โดยละเอียด เช่น ผู้ที่เคยทรมาณไล่จับไล่ยิงนกขว้างนก จะถูกนาย นิรยบาลเอาเหล็กพืดรัดคอ กดหัว แล้วดึงเหล็กนั้นจนคอขาด ผู้ที่เคยเป็นพ่อค้าแม่ค้า แล้วไม่ซื่อต่อคนซื้อ เอาของเลวมาหลอก ว่าเป็นของดี หรือเอาของเลวมาปนของดี ก็จะถูกลงโทษให้เกิด ความกระหายน้ำ ครั้นเมื่อไปถึงน้ำ น้ำนั้นก็กลายเป็นแกลบเพลิง ลุกเป็นไฟ ก็จำต้องกินแกลบนั้นต่างน้ำ เมื่อกินเข้าไปแกลบน้ำ ก็แผดเผาร่างกายได้รับทุกขเวทนาสาหัส

ผู้ที่เคยทำความเดือดร้อนให้มิตรสหายอยู่เป็นนิตย์ รบกวน เบียดเบียนมิตรสหายด้วยประการต่างๆ เมื่อ ตายไปเกิดใน ขุมนรกก็จะรู้สึกหิวกระหายปรารถนาจะกินอาหาร แต่อาหารที่ได้พบ ก็คืออุจจาระปัสสาวะ สัตว์นรกเหล่านี้จำต้องดื่มกินต่างอาหาร ผู้ที่ฆ่าบิดามารดา ฆ่าผู้มีพระคุณ ฆ่าผู้มีศีลธรรม จะถูกไฟนรกแผดเผาให้กระหายต้องดื่มเลือดดื่มหนอง แทนอาหาร ความทุกข์ทรมาณอันสาหัสในขุมนรกต่างๆ มีอยู่มากมาย เป็นที่น่าทุเรศเวทนา ทำให้พระราชารู้สึกสยดสยอง ต่อผลแห่งกรรมชั่วร้าย ของมนุษย์ใจบาปหยาบช้าทั้งหลายยิ่งนัก

พระราชาทอดพระเนตรเห็นวิมารแก้วของนางเทพธิดาวารุณี ประดับด้วยแก้วแพรวพรายมีสระน้ำ มีสวนอันงดงาม ด้วยดอกไม้นานาพรรณ จึงตรัสถามมาตุลีว่า นางเทพธิดา วารุณีประกอบกรรมดีอย่างใดไว้ จึงได้มีวิมานที่งดงามวิจิตรเช่นนี้ มาตุลีตอบว่า นางเทพธิดาองค์นี้ เมื่อเป็นมนุษย์ เป็นสาวใช้ของ พราหมณ์ มีหน้าที่จัดอาสนะสำหรับภิกษุ และจักสลากภัตถวายภิกษุ อยู่เนืองๆ นางบริจาคทาน และ รักษาศีลตลอดเวลา ผลแห่งกรรมดีของนางจึงได้บังเกิดวิมานแก้วงามเรืองรอง

พระราชาเสด็จผ่านวิมานต่างๆ อันงดงามโอฬารและ ได้ตรัสถามเทวสารถี ถึงผลบุญที่เหล่าเทพบุตร เทพธิดาเจ้าของ วิมานเหล่านั้น ได้เคยประกอบไว้ เมื่อครั้งที่เกิดเป็นมนุษย์ มาตุลีก็ทูลให้ทราบโดยละเอียด ความงามและความรื่นรมย์ ในเทวโลกเป็นที่จับตาจับใจของพระราชาเนมิราชยิ่งนัก

ในที่สุด มาตุลีก็นำเสด็จพระราชาไปถึงวิมานที่ประทับ ของพระอินทร์ เหล่าเทพยดาทั้งหลายมีความ โสมนัสยินดีที่ได้พบ พระราชาผู้เคยทรงมีพระคุณต่อเทพยดาเหล่านั้น ตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็น มนุษย์อยู่ในมนุษยโลก เหล่าเทพได้ทูลเชิญให้พระราชา ประทับอยู่ ในวิมานของตน เพื่อเสวยทิพย์สมบัติอันรื่นรมย์ ในดาวดึงส์

พระราชาตรัสตอบว่า “สิ่งที่ได้มาเพราะผู้อื่น ไม่เป็นสิทธิขาดแก่ตน หม่อมฉันปรารถนาจะประกอบกรรมดี เพื่อให้ได้รับผลบุญตามสิทธิ อันควรแก่ตนเอง หม่อมฉันจะตั้งหน้าบริจาคทาน รักษา ศีล สำรวม กาย วาจา ใจ เพื่อให้ได้รับผลแห่งกรรมดี เป็นสิทธิของหม่อมฉันโดยแท้จริง”

พระราชาประทับอยู่ในดาวดึงส์ชั่วเวลาหนึ่ง แล้วจึงเสด็จกลับ เมืองมิถิลา ได้ตรัสเล่าสิ่งที่ได้พบเห็นมา แก่ปวงราษฎร ทั้งสิ่งที่ได้เห็นในนรกและสวรรค์ แล้วตรัสชักชวนให้ประชาชนทั้งหลาย ตั้งใจมั่น ประกอบกรรมดี บริจาคทาน รักษาศีล เพื่อให้ได้ไปเกิด ในเทวโลก ได้รับความสุขสบายรื่นรมย์ในทิพยวิมาน พระราชาเนมิราชทรงครองแผ่นดินสืบต่อมาด้วยความเป็นธรรม ทรงตั้งพระทัยรักษาศีลและบริจาค ทานโดยสม่ำเสมอมิได้ขาด

วันหนึ่งเมื่อทอดพระเนตรเห็นเส้นพระเกศาหงอกขาวก็สลดพระทัยใน สังขาร ทรงดำริที่จะออกบวชเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ จึงตรัสเรียก พระโอรสมาเฝ้าและทรงมอบราชสมบัติแก่พระราชโอรส หลังจากนั้น พระราชาเนมิราชก็ออกผนวช เจริญพรหมวิหาร ได้สำเร็จบรรลุธรรม

ครั้นเมื่อสวรรคตก็ได้ไปบังเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติอันรื่นรมย์ กุศลกรรมที่พระราชาทรงประกอบ อันส่งผลให้พระองค์ได้ไปสู่เทวโลกนั้นคือ การพิจารณาเห็นโทษ ของความชั่ว และความสยดสยองต่อผลแห่งกรรมชั่วนั้น และ อานิสงส์ของกรรมดีที่ส่งผลให้บุคคลได้เสวยสุขในทิพยสมบัติ อานิสงส์อันประเสริฐที่สุด คือ อานิสงส์แห่งการประพฤติ พรหมจรรย์คือการบวชเมื่อถึงกาลอันสมควร

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2565

 

เนื้อเพลง อาทิตย์รำพัน จันทร์รำพึง 

สุชัญญ์ญา นรปฏิพัทธิ์
 

 ชาตินี้..สองเรา เสมือนเงาที่หายไป
ถึงใกล้แต่ดูไกล เกินใฝ่ฝัน

ร่วมฟ้า..คู่ใจ แต่ไร้ทางเคียงข้างกัน
เฉกเช่นคล้ายดวงตะวัน กับดวงจันทร์ที่คลาดคลา

*ยังเฝ้ารอให้เธอกับฉัน ได้มาพบกันที่ตรงขอบฟ้า
เวลาสั้นสั้น แค่สบตา ก็สุขใจ
ยังเฝ้ารอทุกคืนและวัน พร่ำเพ้อรำพันไม่เคยเสื่อมคลาย
ตราบดินสิ้นฟ้ามลาย ยังผูกพัน
ชาตินี้..รักเธอ เสมอใจไปชั่วกาล
จะรอให้ดวงตะวัน อยู่คู่จันทร์ตลอดไป

(ซ้ำ*)

อยู่คู่กัน...ตลอดกาล


เนื้อเพลง