วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ฉลองวันปราชัย

เหล้า ทำให้ฉันนั้นมี ความสุข
เหล้า ทำให้ทุกข์ ของฉัน หายไป
เหล้า ทำให้ฉัน สุขสันต์ ชื่นใจ
ฉัน จึงดื่มไป เพื่อ ให้มันเมา

เมาแล้ว ลืมได้ สบาย ทุกอย่าง
เจ็บปวด อ้างว้าง ทุกอย่าง บรรเทา
เมาแล้ว คงคลายหาย ความทุกข์ เศร้า

วันนี้ ปวดร้าว พึ่ง เจ้า สุรา
ดื่ม ให้เขา ในวัน สุขสันต์
ดื่ม ให้ฉัน ในวัน โศกา
ฉลอง ให้เจ้า วันเข้า วิวาห์
ฉลอง ให้ข้า วันที่ ปราชัย
ฉลอง ความเศร้า
ด้วยเหล้า ผ่าเบียร์
แก้วหนึ่ง เพื่อเสี่ย คนที่ มีชัย
แก้วสอง เพื่อน้อง คนที่ หลายใจ
แก้วสาม ปราชัย ของ ตัวฉัน เอง ..

สายลมครวญ

ฟังเสียงเยือกเย็นไม่เห็นอะไร ฟังเสียงแต่ไกลฟังคล้ายเสียงลม ทอดใจถอนอ่อนอารมณ์ ฟังแล้วตรอมตรมเมื่อยามสายลมคร่ำครวญ ลมเอ๋ยอย่าครวญจงหวนกลับมา ช่วยพัดช่วยพานำรักชื่นชวน สายลมครวญคร่ำเหมือนคำเธอครวญ หัวใจรัญจวนเมื่อเธอร้องครวญไกลไกล เสียงแว่วแผ่วเบาเบาแสนเศร้าจับใจ เออหนอกระไรเธออยู่ไหนฉันยังใฝ่รำพัน
ลมเอ๋ยช่วยนำคำรักให้เธอ ว่าฉันละเมอและเพ้อทุกวัน ลมผ่านเลยไปไม่รับคำมั่น ใจฉันหวิวหวั่นไม่เห็นใจกันบ้างเลย 



รักเธอจนตาย

ใจรักพี่ ไม่มี เสื่อมมีสิ้น กายฝังดินพียงสิ้นชีพสลาย พี่ปองเธอเพ้อเพ้อ ลมลม งมงาย รักไม่หน่าย รักเธอไม่เปลี่ยนไป ไม่เห็นยาก ถ้าเธอ อยากจะฆ่า เพียงยิ้มมาให้บาดทรวงพี่ไว้ ยอดนารีแล้วทิ้งให้พี่เป็นไข้ใจ พี่คงตายคลั่งไคล้พะวง พี่ภักดีต่อเธอ เพื่อเธอ พลีทุกสิ่งเธอประสงค์ ประสาอะไร เมื่อใจพี่รักจนหลง ก็คงเหมือนคนตาบอดแล้วพี่ ไม่เห็นยาก ถ้าเธออยากจะฆ่า พี่สัญญาไม่หลบหน้าหนี ยอดดวงใจไหนไหนจะตายทั้งที่ ขอให้พี่ ตายในอ้อมกอดเธอ

รำพึงถึงเจ้า

รำพึงความหลังที่ยังคิดถึงเจ้า ดวงใจมีรอยร้าวหลายคราวพี่ผวา เคยรักเคยปองเพียรจ้องไขว่คว้า แม้กาลจะเนิ่นนานมา แต่สุดาฝังดวงมาลย์ นัยน์ตาคมซึ้ง ยังตรึงติดตาพี่ ตากลมสมศรีเทพีของสถาน เคยจ้องมองตาเหมือนว่าอาหาร คิดไปเหมือนไม่ประมาณ จึงซมซานทรมา ใจพี่ตรมเหมือนพรมด้วยเกลือ แต่ใจเจ้าเจือเพชรหรือไรหนา อดีตติดใจช่างไม่นำพา ร้าวรานเสน่หา ร้างราเสน่ห์จันทร์ ความจริงบัดนี้เจ้ามีที่เชยชื่น ใจเราเฝ้าฝืนทุกคืนยังใฝ่ฝัน ชาตินี้โศกาฟันฝ่าจาบัลย์ พิษรักตามปลุกผูกพัน อยากมีวันเชยอนงค์

*****


รำพึงถึงพี่

ยินเพลงความหลังน้องฟังแล้วซาบซ่า ดวงใจปรารถนาคิดพาให้สุขสันต์ ถึงแม้ว่ากาลหมุนผ่านนานวัน น้องรักพี่ปักใจครัน ไม่มีวันผันแปรไป ความจริงใจน้องก็ปองในตัวพี่ ทนงในศักดิ์ศรีของพี่หรือไฉน ไม่ทักไม่ทายไม่กรายมาใกล้ รักเพริศจะเกิดอย่างไร โธ่..ทำไมทรมา ใจพี่ตรมเหมือนพรมด้วยเกลือ แต่ใจน้องเหมือนเถือด้วยมีดผ่า อดีตกรีดใจช่างไม่เลือนลา เสียนวลครวญไห้หา เสียน้ำตาที่หลั่งนอง คอยชมสมรักมิพักจะเชยชื่น จำทนสุดฝืนคนอื่นเป็นเจ้าของ ชาตินี้เสียใจ มิได้ปรองดอง รักจริงชาติหน้าจับจอง สุขสมปองครองนิรันดร์

ชมทุ่ง

เห่เฮ้ ฮาฮ้า เสร็จจากงานนาแล้วเมื่อเวลาเย็นเย็น เป่าขลุ่ยแล้วพาเจ้าทุยเดินเล่น ลมพัดเย็นเย็นมาเดินเล่นไปตามคันนา แสนสุขใจนั่งบนหลังควาย ควายก็และเล็มหญ้า นั่นกบร้องอ๊บอ๊บอยู่กลางนา เสียงเขียดร้องจ้า เมื่อเวลาฝนพรำ นกน้อยบินจร นกเขาคืนคอน ก็เมื่อตอนจะค่ำ ลมทุ่งพัดโชยชื่นฉ่ำ สาวสาวอาบน้ำอยู่ที่ลำประโดง นกกระยางย่างเดินเหลียวมอง จ้องหาปลาตัวโก่ง นั่นปูนับร้อย นั่นตัวหอยโข่ง ฝั่งลำประโดง สาวยังคงลอยคอ เขียวเหลืองเรืองรอง ข้าวรวงสีทองมองไสวชูช่อ นั่นคันไถ แล้วเอ๊ะ.นั่นใครยกยอ เสียงกอไผ่สีซอ ฟังเป็นเพลงตะลุง มั่นหมายใจปอง ถ้าได้นวลเนื้อทอง มาขี่หลังควายชมทุ่ง คงสุขคงสันต์ทั้งวันยันรุ่ง เต้นจังหวะตะลุง บนหลังควายในยามเย็น เห่เฮ้ ฮาฮ้า เสร็จจากงานนาแล้วเมื่อเวลาเย็นเย็น เป่าขลุ่ยแล้วพาเจ้าทุยเดินเล่น ลมพัดเย็นเย็นมาเดินเล่นไปตามคันนา ..

อ้อนจันทร์

จันทร์เอ๋ย...จันทร์เจ้า ก่อนเคยขอข้าวขอแกง แต่วันนี้ขอแหวนพลอยแดง ผูกมือน้องข้า แล้วจันทร์จะว่าอย่างไร ขอช้างมีงา ขอม้าสักตัวไม่ได้ กราบไหว้วอนขอละครรำไทย ขอเอามาให้น้องข้าจะได้หัดรำ ฮืม..ฮืม.. จันทร์เอ๋ย...ช่วยด้วย ได้ยินแล้วช่วยรับคำ หมดทางฝืน แม้ขืนใจดำ ข้าคงร้องไห้ เพราะคงไม่ได้แจ่มจันทร์ ขอเพชรแพงๆ ขอแบงค์ซักเรือกำปั่น อย่าเงียบงำขอทองคำซักตัน ขอเอามาหมั่นซักสองสามวันจะคืน ฮืม...อืม.

ผีเสื้อ

ผี เสื้อ ตัวน้อย น้อย บิน ล่องลอย กลางพนา ไพร โผ ผิน ร่อนบิน ระเริงใจ คลุกเคล้า ดอกไม้ใจชื่นบาน
แสง แดด ยามสาย สาย ยาม พร่างพราย ต้องสายธาร ฉาบ ทอง เมื่อมองแสนตระการ ผี เสื้อ สุขสราญ นะเจ้าเอย
ท้อง ฟ้า สี อำพัน ผีเสื้อ สุขสันต์ มากเหลือ เจ้าไม่คิด ไม่ต้องหวัง ดอกไม้ยัง กูลเกลื้อ แสงแดด จุนเจือ ชีวี
อยาก จะเป็น ผีเสื้อ ตัวน้อย บิน ล่องลอย เสรี สี สัน ดุจอัญ มณี สุขใด หรือจะมี เช่นผีเสื้อ

จงรัก

โปรดอย่าถาม.
ว่าฉันเป็นใคร เมื่อในอดีต
และโปรดอย่าถาม
ว่าอดีตฉันเคยรักใคร.

รู้ไว้อย่างเดียว 
เดี๋ยวนี้รักเธอ และรักตลอดไป
รักมากเพียงไหน
กำหนดวัดได้ เท่าดวงใจฉัน

อย่าเพียรถาม
ว่าฉันจะรัก เธอนานเท่าใด
ฉันตอบไม่ได้
ว่าฉันจะรักชั่วกาลนิรันดร์

เพราะชีวิตฉัน 
คงไม่ยืนยาว ไปถึงป่านนั้น
รู้แต่เพียงฉัน
หมดสิ้นรักเธอ เมื่อฉันหมดลม

ทาสทรมาน


ดวงตะวันลับทิวแมกไม้
ใจพี่ก็หายหายลับไปกับตะวัน
สิ้นแสงสูรย์อาดูรโศกศัลย์
ทิวาลับลาพลันเหมือนดังมีดบั่นหัวใจ

คอยละเมอเพ้อว่าเธอนั้น
ยังเป็นมิ่งขวัญขวัญชู้คู่ฤทัย
สวาทยังหวามฝังจำติดใจ
มิแรมนิราศไกลฝังใจอยู่ชั่วนิรันดร์

รักเจ้าเอ๋ยรักเคยสมปรารถนา
ลับไปไม่หวนคืนมาสุดไขว่คว้ามาแนบขวัญ
วิมานที่หวังพังมลายลงสูญพลัน
เหลือเพียงซากนั้นดั่งทาสทรมาน

ยามราตรีนี้พี่ยิ่งหมอง
ใจพี่กลัดหนองหมองใจด้วยจากนงคราญ
สวาทหายแรมมลายแหลกลาญ
ทิ้งซากรักไว้ประจานทรมานจิตใจนักเอย
*****

ไอ้หนุ่มตู้เพลง


ผมจีบสาวไม่เก่ง ต้องใช้ตู้เพลงเป็นสื่อ
วัน ทั้งวันไม่เคยขาด

ผมแลกเหรียญบาทตั้งสี่ห้ากำมือ
หยอดเพลง จากใจคนซื่อ
เป็นเหมือนสื่อสาส์นรักจากใจ

ผมจีบสาวไม่เก่ง ต้องใช้ตู้เพลงจีบให้
คุณเอ๋ คุณอี๊ด คุณอ้อย
และนั่นคุณหน่อย คุณต้อยใช่ไหม
คุณหญิง คุณมากับใคร
จำผมได้ไหม ไอ้หนุ่มตู้เพลง

คุณตุ๊ คุณแมว คุณแหวว คุณแดง
คุณเก๋ คุณเก่ง
คุณ คุณโอ๋ คุณอิ๋ม
คุณจุ๋ม คุณติ๋ม คุณยิ้มซิอย่าเคร่ง
ฟัง ฟังเถิด ฟังเพลง
เราคนกันเอง ไม่ใช่อื่นไกล

ผมจีบสาวไม่เก่ง ต้องใช้ตู้เพลงจีบให้
มีไหมคนที่เอ่ยชื่อ จะรักคนซื่อที่ไม่หลอกใคร
หากมีโปรดยิ้มมาให้
มาเป็นขวัญใจ ไอ้หนุ่มตู้เพลง

*****

ลมหายใจของความคิดถึง


 ก็มีสักครั้ง ในชีวิต หนึ่ง
จะซาบซึ้ง กับหัวใจ
อ่านบทกลอน แล้วร้องไห้
ฟังเพลงได้ ตลอดคืน
ลม ลม หาย ใจ ความ คิด ถึง

อยากมีความรัก เป็นที่พึ่ง
เฝ้าคิดถึง คนชอบพอ
ค่อยค่อยสาน ค่อยค่อยต่อ
ก่อเป็นรัก หนักแน่นจริง
ลม ลมหายใจ ความคิดถึง

หากความรักเป็นเหมือนลม
คงพร่างพรมอยู่ข้างเธอ
เฝ้ารอคอยเสียจนเก้อ
คิดถึงเธอ อย่างจริงจัง

แต่พอไม่นาน รักก็ผ่าน ตระบัด
เหมือนลมพัดเลยผ่านไป
หากเธอยังจำเพลงนี้ได้
นี่คือลมหายใจ ของความคิดถึง

ลา ลา ลา ล้า ลา ลา ลา ล้า
ลา ลา ลา ล้า ลา ลา ลา ล้า ..


วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

อันเป็นดวงใจ


ฉันมีเธอนั้นอันเป็นดวงใจ
โอ้เป็นความรักยิ่งใหญ่

เหมือนดาวรักใคร่ฟากฟ้า
เหมือน ดังแสงสุริยา
สาดแสงส่องพื้นภพหล้า
ลงมาจูบทานตะวัน

เห็นใจเถิดฉันนั้นยังดำรง
เทิดทูนความรักสูงส่ง
ซื่อตรงไม่เปลี่ยนแปรผัน
หวัง ใจได้คู่เคียงกัน
ตราบนิรันดร์มั่นหมายสวาท
เป็นทาสความรักเสมอ

อันเป็นดวงใจมานานแรมปี
เป็นราชินี แห่งใจฉันนี้คือเธอ
ทุกๆ ค่ำเช้าเฝ้าละเมอ
จิตใจพร่ำแต่เพ้อว่า รัก รักเธอรักจริง

ฉันรักเธอเหมือนดังดวงชีวา
ไม่เคยจะคิดเลยว่า
สัญญาแล้วจะทอดทิ้ง
เห็น ใจฉันบ้างยอดหญิง
มอบหัวใจให้แล้วทุกสิ่ง
ด้วยความสัตย์จริงเสมอ
แด่เธอ ผู้เป็น ดวงใจ

*****

เสียงกระซิบสั่ง


เสียงกระซิบสั่งคงยังไม่ลืม
อย่าลืมนะเออ
ว่าฉันรักเธอเสมอแก้วตา ทูนใจ
ฝาก รัก ซาบ ซึ้ง ไม่ถึงเพียงไร
จำลาจากไปแล้วแก้วตา

เสียง กระซิบสั่งคงยังไม่ลืม
อย่าลืมน้ำคำ
ให้คิดและจำด้วยน้ำใจจริง วา จา
โอ้ รัก ชาตินี้ ไม่มีบุญวาสนา
จำลาจากแล้วดวงใจ

เรือง รอง ผ่อง แสง สุริยา
เมื่อลับจากฟ้ายังกลับคืนมาวัน ใหม่
แต่ รัก เรา สองต้องครองระทมตรมใน
จากไปแล้วไม่กลับคืน

เสียง กระซิบสั่งคงยังไม่ลืม
อย่าลืมเสียเลย
ว่าสองเราเคยเอ่ยรักกันเพียงจะกลืน
โอ้ รัก ผิด หวัง ประดังดวงใจสุดฝืน
จำกลืนกล้ำน้ำตานอง

*****

คนึงนอนนครสวรรค์



ปิงวังยมน่าน

รวมประสาน เป็นธารใหญ่โต
เรียกว่าปากน้ำโพเชื่อมโยงเป็นโซ่ผูกพัน
จากเหนือน้ำไหลเจือน้ำใจด้วยกัน
จารึกไว้มั่น
แม่น้ำสายนั้นคือเจ้าพระยา

ชาวเรือดั่งพี่
เหนื่อยเต็มทีชีวีขาดลอย
เฝ้าปักหลักไว้คอยเมื่อไหร่เธอลอยผ่านมา
สิ้นหวังเพราะริมฝั่งนั้นไกลเกินคว้า
ดินสูงเกินกว่าศรัทธาของพี่
จึงไม่มีทาง

ปากน้ำโพใหญ่โตเกินไป
พี่ล่องเรือพายไม้ที่เผาไหม้หมดยาง
ซ้ำเนื้อตัวมีรอยดำด่าง
เรือนร่างเปรอะเปื้อนฟืนฟอน
แล้วหล่อนรึมาสนใจ

จึงเจียมใจมั่นว่าสักวันคงมีคู่ชม
ช่วยให้พี่หายตรม โอ้ลมจงพาบอกไป
รุ่งเช้าแล้วนะเจ้าถอยเรือแรมไกล
คงย้อนมาใหม่
ทิ้งใจไว้นอนนครสวรรค์

*****

กังวลรัก


อยากบอกว่ารัก ชักใจหวั่น

อยากใฝ่อยากฝัน ตามใจตัว
ใจหนึ่งก็กลัว ผิดหวัง
มองเขา จนเก้อ เหม่อพะวัง
อยากจูบ อยากฟัง เธอเฉลย
รักคุณ จึงเอ่ย รู้หรือเปล่า

อุตส่าห์เก็บไว้ จนแน่น อก
ไม่อยาก หยิบยก มาเอื้อนเอ่ย
เกรงถูก เหยียดเย้ย ให้เฉา
ไฟรัก คุอยู่ ไม่รุ้เบา
คลั่งอยู่ แต่เรา เขาไม่รู้
หลงเพียง มองดู เขาอยู่เดียว

โอ ยอดรักเอย
เอ่ย ยาก แท้ เทียว
ช่างยากยิ่ง จริงเจียว
รักเขา ข้างเดียว
สุดเหลียว ให้ใคร ชักพา

หากชาติก่อนนั้น เราเคยสร้าง
อย่าต้องเลิกร้าง ไปไกลกัน
วอนเทพสวรรค์ สักครา
เพียงเหลียวมองหน่อย ชะม้อยมา
จะตอบสายตา ด้วยความหมาย
ฉันพร้อมใจกาย แล้ว เพื่อคุณ

*****

กลิ่นกายนาง


ค่อนคืนพี่นอนไม่หลับ
เฝ้าแต่ประทับถึงรอยตรึงตรา
ดั่งเหมือนไฟสุมในอุรา
เฝ้าข่มใจพี่นี้ให้หลับ ใจกลับทรมา
เฝ้าห่วงกลัวแก้วตาจากไป
ให้พี่ต้องอ้างว้าง

กลิ่นกายเนื้อนางหอมกรุ่น
ช่างละมุนหอมอวนไม่สร่าง
รอยเนื้อนางฝังใจใกล้สาง
ไม่จืดจางเลือนร้างห่างไกล
ไอกลิ่นกายนาง
เฝ้าจูบกอดหมอนข้างแทนนาง
แนบทรวงยามนิทรา

*****

คิดถึง - จันทร์กระจ่างฟ้า

จันทร์ กระจ่าง ฟ้า
นภา ประดับ ด้วยดาว
โลก สวย ราว เนรมิตร
ประมวล เมืองแมน
ลม โชย กลิ่น
มาลา กระจาย ดินแดน
เรียม นี้ แสน
คะนึง ถึงน้อง นวลจันทร์

งาม ใด หนอ
จะพอ ทัดเทียบ เปรียบน้อง
เจ้า งาม ต้อง
ตาพี่ ไม่มี ใครเหมือน
ถ้า หาก น้อง
อยู่ด้วย และช่วย ชมเดือน
โลก จะ เหมือน
เมืองแมน แม่นแล้ว นวลเอย

*****

รักนี้เศร้านัก

รักนี้......เศร้านัก รักนี้.....แสนระทม
เดียวดาย..หัวใจตรอมตรม เพราะรักร้าง...ห่างหาย
เคยมี...ที่รัก....สุขนักทั้งใจและกาย
เหมือนฝันรักพลันมลาย จากไป.....ไม่เอ่ยลา

ลมเอย...ยามเจ้าเลยผ่านไป
ฝากน้ำคำให้...คนที่เคยศรัทธา
บอกเธอ...ฉันเสียใจเจียนบ้า
น้อยใจหนักหนาเป็นคนไร้ค่าของเธอ

ช้ำนี้...ติดตรึงฝังลึก...กลางใจ
ขอจำจนวันตายตราบชีพสลายไม่จาง
ชาติใดได้พบจะเมินหลีกทาง
ตราบตายไร้คนเคียงข้าง ขอพ้นห่างคนใจดำ

ลมเอย...ยามเจ้าเลยผ่านไป
ฝากน้ำคำให้...คนที่เคยศรัทธา
บอกเธอ...ฉันเสียใจเจียนบ้า
น้อยใจหนักหนาเป็นคนไร้ค่าของเธอ

*****

ลืมไม่ลง

น้อง เอย ทุกวัน แม่เคยออด ออ เซาะ
หวานฉ่ำ ฉอเลาะเพราะจริง ถ้อยคำ
พี่ จำไว้ ไม่ เคย ลืม
ปลาบปลื้ม ยังลืม ไม่ลง
พี่เฝ้า ประโลม โฉมงาม
ไม่เคย ขัดความ ประสงค์
น่ารัก ภักดี ซื่อตรงน้องทำ ให้หลง ติดใจ

น้อง เอย น้องพี่ ไม่เคยพราก จาก กัน
เห็นหน้า ทุกวัน รำพันพูดจา
แม่ กระซิบ ว่า สุขจริง
แอบอิง คลอคู่ อยู่ใกล้
พร่ำพรอดออดคำรักกันดวงใจผูกพันหวั่นไหว
ร่วมรัก เริงรื่น ชื่นใจเหมือน ดังอยู่ ในวิมาน

สม ใจ ได้ ชิดชมใจร่วม อยู่ร่วม ภิรมย์
สุขสม อย่างนี้ นานนาน
ชื่นชีวิตจุมพิตชื่นฉ่ำสุขสำราญ
รัก ของเรา ซึมซ่านหวาน อยู่ ไม่ วาย

น้อง เอย หรือชาติ ก่อนเคยคู่ เคียง กัน
รักร่วมสัมพันธ์กันมาแน่นอน
ด้วยบุญ ชาติก่อน เรา มี
ชาตินี้ ไม่มี เสื่อมคลาย
ได้เจอะ คู่ชม สมปอง เคยเป็น คู่ครอง มั่นหมาย
พี่รัก จนชีพ พี่วายรักยัง ไม่หาย ไม่ลืม

*****

ไพรพิศดาร


ช. น้องเอยสองเรารักใคร่ เพลินชมพฤกษ์ไพร หัวใจสำราญ 
ญ. หนทางน้ำตกไหลผ่าน ดุจดังวิมาน สายธาร เห็นอยู่ 
ช. วิหคนกครวญร้องร่ำ เปรียบคำรักนำ พี่พร่ำให้รู้ 
ญ. เสียงกาหรือไก่ เหมือนใครมากู่ 
ช. นกเขาขันคู มิสร่าง 
ญ. เอ๊ะชะนีหรือไรคะนั่น มันห้อยหัวมันหางพันคบยาง 
ช. ไหนชะนี อ๋อลิง เอ๊ยค่าง มันห้อยหัวพลาง ร้องครางว้าวุ่น 
ญ. พิกลแท้จริงน้องว่า น่าเวทนา หน้าตาอย่างคุณ 
ช. แหมเอาไปเปรียบเทียบเทียมตัวตุ่น พี่น่ะเหมือนแพทบูน น่ะขวัญใจ 
ญ. เสียงฮูมเหมือนดังฟ้าผ่า 
ช. นั่นแน่ะช้างมาแล้วว่าฉันใด 
ญ. ไหนกัน อุ๊ยมันสูงใหญ่ 
ช. หลบมาให้ไกลจ้ะขวัญใจของพี่ 
ญ. เห็นตัวสามวาหรือไม่ ตัวมันล้ายลาย ต้องตายคราวนี้ 
ช. น้องเอ๋ยจงเชื่อ ช้างเสือน่ะเพื่อนพี่ ไม่ต้องวอรี่ หรอกแก้วตา 
ญ. แล้วคืนนี้นอนไหนได้ 
ช. แอบอิงพฤกษ์ไพร ขวัญใจนิทรา 
ญ. หวังลวน หวังลาม หรืออย่า 
ช. พี่ให้สัญญาละขวัญตาเนื้ออ่อน 
ญ. ขอเดิน มินอนแล้วนี่ 
ช. ในป่า มิมีภูตผีหลอกหลอน 
ญ. ผีไพรในป่า มิเคยอาวรณ์ น้องกลัวผีคุณหลอนหลอก 
ช. แหมความหนาวเย็นของป่า กระเถิบชิดมา น้องอย่าหนีออก 
ญ. น้องไม่หนาวใจนักหรอก ไม่จักช้ำชอก หนาวนอกร้อนใน 
ช. เอ๊ะยุงหรือไรหรือนั่น ถูกกัดทุกวัน เจ้าคันบ้างไหม 
ญ. ลิ้นยุงไม่คัน เพราะกันฝนได้ น้องกลัวขวัญใจมากกว่า 
ช. โอ๊ยคืนนี้เย็นหนาวสั่น ต้องเบียดชิดกัน ชิดกันเถอะขวัญตา พี่คงต้องเป็นไข้ป่า สุดจะหายารักษามิได้ 
ญ. น้องมีแล้วยาขนานหนึ่ง แก้ไขดื้อดึง พึงจดจำไว้ หันมาซิพี่ นี่แหละแก้ไข้ นี่แน่ะลูกไม้ไข้ป่า


*****

สาวอีสานรอรัก


น้องเป็นสาวขอนแก่น ยังบ่เคยมีแฟน
บ้านอยู่แดนอีสาน
น้องเป็นสาววัยอ่อน ได้แต่นอนตะแคง
ยามเมื่อแลงฝันหวาน
จะมีชายใด ไผเดต้องการ จะมีชายใด
ไผเดต้องการ หมายปองน้องนั่น
แม้ต้องการจะคอย
สาวอีสานบ้านป่า เช้าก็ไปทำนา
ค่ำแลงมาเหงาหงอย
เขาว่าน้องเป็นลาว เป็นสาวเมืองอีสาน
ใจน้องนั้นเลื่อนลอย
จงเอ็นดู แน้เด้ออ้ายเด้อ
จงปรานี น้องแน่จั๊กหน่อย
ฮักน้องบ่อยบ่อย พอน้องได้พลอยดีใจ
ใจดวงเดียวที่น้องมีอยู่
เปิดประตูให้แล้วดวงใจ
พี่อย่ามองว่าน้องต้อยต่ำ
หากจะดำ ก็ดำแต่กาย
สาวอีสานมองเหม่อ นอนละเมอเหม่อคอย 
ใจเลื่อนลอยคอยหาย
เห็นเป็นลูกชาวนา อ้ายจึงบ่อยากจา
บ่อยากมาหมั้นหมาย
คอยแรมปี น้องนี้เอียงอาย
คอยคอยคอย น้องคอยจนอาย
คิดแคลงแหนงหน่ายหรืออ้ายบ่อยาก มาแล

*****

รำวงเริงสงกรานต์


ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทน
โน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโท่นโทน ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
(ช) วันตรุษหยุดการหยุดงาน สังคมชาวบ้านสิคร้านครึกครื้น
เริงสงกรานต์กัน พอขวัญชื้น ๆ ฉลองวันคืน จนครื้นเครงคลาน
ดอกเอ๋ยมะเขือ แหม ตัวเนื้อมันเต้น เชิญน้องมาเล่นสงกรานต์
(หมู่ ช.) เอ้าเชิญน้องขึ้นวิมาน รับฟ้าสงกรานต์กันกะพี่ปะไร
เอ้าเชิญน้องขึ้นวิมาน รับฟ้าสงกรานต์กันกะพี่ปะไร
(สร้อย) 
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทน
โน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโท่นโทน ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
(ญ) ฟังพี่ที่ชวนที่เชิญ ขวัญเอยมันเปิ่นสะเทิ้นท้อถอย

ชีวิตชีวา น้องหนาน้อย ๆ รำแล้วจะพลอยลอยคว้างกลางลาน
ดอกเอ๋ยฟักทอง รักจะร้องรำเต้น ประสาเราเล่นสงกรานต์
(ญ) เอ้ามาซิถ้าต้องการ สำเริงสำราญกันเป็นคู่ ๆ ไป
(หมู่ ญ) เอ้ามาซิถ้าต้องการ สำเริงสำราญกันเป็นคู่ ๆ ไป
(สร้อย) 
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทน
โน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโท่นโทน ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
(ช) รำคู่อยู่เคียงใกล้กัน สายทรวงมันสั่นมันซึ้งเสียว ๆ
งามแท้รำไทยเรื่อยไหลลดเลี้ยว เราร้อยกรเกลียว เพรียวพลิ้วปลิวลม
ดอกเอ๋ยชบา เหมือนนางฟ้ามาใกล้ มาเย้ายวนให้หลงชม
อ๋อนางฟ้าน่าชื่นชม สวยจริงสวยจมงามตรงห่มสไบ
(หมู่ ช.) อ๋อนางฟ้าน่าชื่นชม สวยจริงสวยจมงามตรงห่มสไบ
(สร้อย) 
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทน
โน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโท่นโทน ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
(ญ) รำคู่อยู่เคียงพี่ชาย หัวใจมันส่ายโยนซ้ายย้ายขวา

เพลินคล้ายคนธรรพ์ เคล้าขวัญคล้อยฟ้า ไปค้าง ไปคา สุขาวดี
สวรรค์สงกรานต์แสนสนานสนุก รำแล้วเป็นสุขทุกที
(ญ) ซิเออ ถึงว่าน่ะสิ สงกรานต์ทั้งทีรำกะพี่เรื่อยไป
(หมู่ ญ) ซิเออ ถึงว่าน่ะสิ สงกรานต์ทั้งทีรำกะพี่เรื่อยไป
(สร้อย) 
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทน
โน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโท่นโทน ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
(สร้อย)
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทน
โน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโท่นโทน ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ

*****


กลิ่นโคลนสาบควาย

อย่าดูหมิ่น ชาวนาเหมือนดั่งตาสี
เอาผืนนาเป็นที่ พำนักพักพิงร่างกาย
ชี วิตเอย ไม่เคยสบาย
ฝ่าเปลวแดดแผดร้อนแทบตาย
ไล่ควายไถนาป่าดอน

เหงื่อรินหยด หลั่งลงรดแผ่นดินไทย
จนผิวดำเกรียมไหม้ แดดเผามิได้อุธรณ์
เพิง พักกายมีควายเคียงนอน
กลิ่นโคลนสาบ ควายเคล้าโชยอ่อน
ยามนอน หลับแล้วใฝ่ฝัน

กลิ่นโคลนสาบควายเคล้ากายหนุ่มสาว
แห่งชาวบ้านนา
ไม่ลอยเลิศฟ้าเหมือนชาวสวรรค์
หอมกลิ่นน้ำปรุงฟุ้งอยู่ทุกวัน
กลิ่น กระแจะจันทร์
หอมเอยผิวพรรณนั้นต่างชาวนา

อย่าดูถูก ชาวนาเห็นว่าอับเฉา
มือถือเคียวชันเข่า
เกี่ยวข้าวเลี้ยงเราผ่านมา
ชีวิตคนนั้นมีราคา ต่างกันแต่ชีวิตชาวนา
บูชา กลิ่นโคลนสาบควาย

*****

ชุมทางเขาชุมทอง


จาก เธอที่ชุมทางเขาชุมทอง
เผ้าแต่แลมอง มอง มองจนลับตา
เสียงรถด่วน เปิดหวูดก้องกลางพนา
คล้าย เธอ เตือนว่า อย่าร้างลา ไปไกล

จาก เธอที่ชุมทางเขาชุมทอง
ก่อนจากยังมอง เห็นเธอ ยืนร้องไห้
ฉันยิ่งเศร้า เงียบเหงาวิเวกหัวใจ
ก้ม หน้า ร้องไห้ บนรถไฟจนสุดราง

ชุมทางเขาชุมทองที่ปักษ์ใต้
เป็นชุมน้ำใจ ชุมรัก ทุกเส้นทาง
เราคบกัน เรารักกัน เคียงข้าง
แต่เส้นชีวิตแยกทางให้เราต้องห่าง กันไกล

จาก เธอที่ชุมทางเขาชุมทอง
กลับมาเหม่อมอง มอง มองยืนร้องไห้
เสียงรถด่วน เปิดหวูดก้องมาครั้งใด
ฉันต้องร้องไห้คิดถึงดวงใจที่เขาชุมทอง

*****

เนื้อเพลง